บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รายงานพิเศษ เขาต้องการ กลับมาเป็นนายกฯ

"ผมไม่ได้ดูถูกประชาชน แต่ส่วนหนึ่งเขาถูกชี้นำทั้งสิ้น ผมยังไม่ได้พูดถึงการซื้อเสียงนะการซื้อเสียงผมก็ว่าไม่ชอบธรรม "

โดย.....ชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม


ความวุ่นวายทางการเมืองตั้งเค้าขึ้นอีกรอบหลังฝ่ายเพื่อไทยเดินหน้าช่วย เหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นผิดกับโทษจำคุก 2 ปีคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ เมื่อถูกจับได้จาก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ แต่รัฐบาลก็ไม่ลดละ ประกาศจะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในปีหน้าแทน ทำให้กลุ่มคัดค้านปรากฏตัวเป็น "ขบวนการสวนลุมฯ"ทุกวันศุกร์ ที่เคยเป็นสถานที่ก่อตัวของม็อบเสื้อเหลืองเมื่อครั้งขับไล่ทักษิณเมื่อปี 2548
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สว.สรรหา แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี และหนึ่งในหัวขบวน 32 องค์กรเครือข่ายต้านนิรโทษกรรมทักษิณ ที่ได้ร่วมชุมนุมคัดค้านการอภัยโทษที่สวนลุมพินีทุกวันศุกร์ บอกว่าเราไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นขาประจำทุกวันศุกร์แต่มันมีมูลเหตุจากที่ รัฐบาลจะออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษเอื้อ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อยกเลิกแล้วก็ยังบอกแค่สับขาหลอก และจะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแทน จึงต้องจัดกิจกรรมต่อเนื่อง แต่ทุกอย่างอาจจบในวันที่ 2 ก.พ. 2555 เพราะเราก็ห่วงความปลอดภัย แต่ถ้าในอนาคตรัฐบาลยังเดินหน้าต่อ ก็พร้อมจะออกมาดับทุกข์ของประเทศชาติ แม้จะดับไม่หมดก็ตาม
"ผมเจ็บปวดกับคำพูดสับขาหลอกของ ร.ต.อ.เฉลิม มาก ไม่เข้าใจว่าผู้บริหารประเทศมองเห็นประชาชนเป็นอะไร ที่ต้องใช้วิธีการหลอกอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมไม่ทำในสิ่งที่ตรงไปตรงมา ชอบธรรมและชี้แจงเหตุผล และยังบอกว่าจะเดินหน้า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อไป เป็นการโยนเงื่อนไขความขัดแย้งครั้งที่สอง ความจริง ร.ต.อ.เฉลิม เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ควรจะเอาคุณทักษิณมาลงโทษตามกระบวนการ แต่นี่กลับหาวิธีที่จะช่วยผู้ผิดกฎหมาย แล้วมันถูกต้องหรือ ผิดมาตรา 157 ของกฎหมายอาญาหรือไม่ ที่ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ไม่เอาคุณทักษิณมาลงโทษ"
ถ้าทักษิณกลับมารับโทษ 1 วัน แล้วนิรโทษกรรมอย่างที่พูดกัน รับได้หรือไม่?
พล.อ.สมเจตน์ตอบทันที "อ้าว... แล้วคนอื่นล่ะ คุณเรียกร้องไม่ใช่หรือ มาตรฐานเดียวกัน แล้วทำไมทักษิณถึงรับโทษวันเดียว คุณจะใช้กระบวนการฝ่ายบริหารมาเอื้อประโยชน์กับคุณหรือ มันก็ไม่ชอบธรรม ทีคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต ถูกขัง บางคนเผาศาลากลางจังหวัดโดนโทษคนละ 20 ปี ทำไมเขาไม่มารับโทษวันเดียวบ้าง ทั้งที่คุณเอามวลชนมาตายกับคุณ ติดคุกกับคุณแล้วทำไมคุณไม่ร่วมทุกข์กับเขา ดังนั้นถ้าอาศัยอำนาจบริหารมาติดคุกวันเดียว ผมว่าไม่ชอบธรรมแต่ผมรับได้ว่าในฐานะคุณเป็นอดีตนายกฯ คุณก็ควรได้รับเกียรติบ้างบางส่วน เช่น ความสะดวกสบาย คุณอาจไม่ต้องไปติดคุกกับตรงนั้นก็ได้"
มองยุทธวิธีของฝั่งทักษิณอย่างไร เมื่อเป้าหมายชัดพากลับบ้านไม่ต้องติดคุกอย่างที่แกนนำเพื่อไทยปักธง พล.อ.สมเจตน์ อ่านว่า สุดท้ายจะจบที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนิรโทษกรรมคดีทั้งหมดข้อมูลที่ได้มาเขาจะออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษก่อน คณะกรรมการที่กระทรวงยุติธรรม พยายามหาข้อกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้ทักษิณ ทั้ง พ.ร.ฎ.ตามด้วยพ.ร.บ.การล้างมลทิน สุดท้ายคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าขณะนี้ร่างกันเสร็จแล้ว เพียงแต่รอกระบวนการสร้างความชอบธรรม เช่น การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ให้เป็นไปตามที่รัฐบาลต้องการ
"ถ้าเริ่มมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็ต้องชี้ประเด็น เช่น ถ้าเขาเริ่มต้นแก้มาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มี ส.ส.ร. มันก็เหมือนกับให้เราเซ็นเช็คมือเปล่าให้คุณ แล้วคุณก็เอาเงินไปใส่เอง คุณต้องบอกให้ชัดว่า รัฐธรรมนูญ 2550 มันไม่ดีตรงไหน ประเด็นไหนอยากแก้ ถ้าคุณไปแก้โดยปกปิดอำพราง ให้เราเซ็นเช็คก่อนแล้วจะแก้ ผมก็ไม่เห็นด้วย เราไม่ได้คัดค้านทั้งฉบับนะ และผมไม่ใช่ฝ่ายค้านที่รัฐบาลทำอะไรผมก็คัดค้านทุกเรื่อง อันไหนเห็นด้วยผมก็สนับสนุน แต่ถ้าเริ่มไม่ชอบมาพากล เราก็จะแถลงข่าวชี้แจงก่อน แต่ถ้าคุณยังทำเราก็ต้องเคลื่อนไหวต่อไป"
การเมืองปีหน้าที่ประเมินกันว่าจะเกิดการเผชิญหน้าอีกครั้ง เพราะฝ่ายเพื่อไทยปลุกมวลชนออกมา ฝ่ายเสื้อหลากสีก็คัดค้านการนิรโทษกรรม พล.อ.สมเจตน์ เห็นว่า รัฐบาลมีหน้าที่รักษาความสงบของประเทศชาติ ต้องขจัดเงื่อนไขความขัดแย้งของสังคม แต่ถ้าโยนเงื่อนไขความขัดแย้งมาอยู่ในสังคมก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง ซึ่งรัฐบาลนี้มีพฤติกรรมส่อให้ไม่ไว้วางใจตลอด งุบงิบทำเร็วฉกฉวยโอกาสโดยไม่คิดว่าโอกาสนั้นเหมาะหรือไม่เหมาะ
"รัฐบาลมีหน้าที่รักษาความสงบ ไม่ควรจุดประเด็นที่ทำให้เกิดการนองเลือดขึ้น ถ้าดูพฤติกรรมกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นออกไปในทางใช้ความรุนแรงคุกคาม ไม่ว่าใครมาเป็นฝ่ายตรงข้ามก็จะโจมตี แต่อีกกลุ่มหนึ่งพฤติกรรมไปในทางความสงบเรียบร้อยฉะนั้นถ้าเกิดเหตุการณ์ รุนแรงขึ้น มันไม่ใช่มาจากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย มันจะเริ่มความรุนแรงจากกลุ่มที่สนับสนุนทั้งสิ้น ซึ่งรัฐบาลต้องมีหน้าที่ปราม มิฉะนั้นรัฐบาลก็จะสนับสนุนให้เกิดการจลาจล ฆ่าฟันกัน เกิดการล้มตายของประชาชน รัฐบาลจะภูมิใจหรือที่ยืนอยู่บนเลือดเนื้อของประชาชน จากมูลเหตุที่รัฐบาลเป็นคนเอาเงื่อนไขความขัดแย้งมาโยนในสังคม"
"รัฐธรรมนูญก็เหมือนกัน ถ้าเป็นไปตามที่พวกเราคาดไว้ คือ  เขียนนิรโทษกรรม ผมว่าก็เกิดความขัดแย้งและความรุนแรงขึ้นแน่ ความรุนแรงจะไม่เกิดจากทางผมแน่นอน เพราะทางผมไม่เคยมีความคิดเรื่องนี้ เราแค่ชุมนุมยื่นหนังสือคัดค้าน ตามครรลองประชาธิปไตย"
อดีตหัวหน้าคณะสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ผู้นี้ยังบอกว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเพื่อทักษิณ ทั้งวิธีการกระบวนการต่างๆ "ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ" มันปฏิเสธไม่ได้ว่า ขบวนการทักษิณ พรรคเพื่อไทยขบวนการเสื้อแดง ไม่ใช่กลุ่มเครือข่ายเดียวกัน
คุณปฏิเสธทุกครั้งแต่คุณก็ทำให้เห็นชัดทุกครั้งว่า ใช่...ปากพูดอย่างหนึ่ง แต่การปฏิบัติเป็นอีกอย่างฉะนั้นรัฐบาลแทนที่จะสร้างสิ่งดีกับประเทศชาติ แต่กลับใช้เวลาส่วนหนึ่งทำเรื่องเอื้อประโยชน์เพื่อทักษิณนับแต่เข้าบริหาร ประเทศ
มองเป้าหมายของทักษิณคืออะไร?
"ผมมองนะ การมองนี่ไม่ได้ด้วยเจตนาร้าย แต่มองจากพฤติกรรมที่เขาเปลี่ยนแปลงไป สุดท้ายเขาต้องการกลับมาเป็นผู้นำอีกครั้ง เพราะเริ่มต้นทักษิณขอกลับประเทศ มาอยู่อย่างสงบเหมือนประชาชนคนไทยคนหนึ่ง แต่ตอนหลังเขาค่อยๆก้าวร้าวขึ้น ต้องการพ้นผิดด้วยประการทั้งปวงและขอพระราชทานล้างมลทินกลับเข้ามาสู่การ เลือกตั้งอีกครั้งหนึ่งเพื่อบริหารประเทศ
กับประเด็นปรองดองที่พูดกันขณะนี้ แกนนำสยามสามัคคี เห็นว่าการปรองดองจะสำเร็จได้ มีกรณีเดียว คือ ทักษิณต้องหยุดเคลื่อนไหว
"หากทักษิณหยุดขบวนการต่างๆ ปล่อยให้รัฐบาลบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ มันก็เหมือนกับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณอดีตนายกฯ ที่ถูกล้มอำนาจไปและก็หยุด จึงไม่มีใครตามไปอะไร และยังเกือบได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง อีกอย่างคนไทยเป็นคนให้อภัยง่าย และช่วงทักษิณเป็นนายกฯ ผมก็ยืนยันว่าเขาก็มีคุณงามความดี ไม่ใช่เลวทั้งหมด แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ ก็ไม่มีใครเอาคุณงามความดีมาพูด ก็ต้องเอาความเลวมาพูดกัน
"สรุป คือ ถ้าตัวต้นเหตุความขัดแย้งหยุดขบวนการปรองดองก็จะเกิดขึ้นทันที ทุกอย่างจะเบาลงแน่นอน ความขัดแย้งไม่เกิด คนไทยก็ไม่แบ่งสี ไม่มีการโจมตีกัน และรัฐบาลก็สบายใจที่จะหันมาบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ"
แต่ถ้าไม่หยุด? พล.อ.สมเจตน์ คาดการณ์จะเกิดความขัดแย้งและเสี่ยงต่อการปะทะไม่จบสิ้น
"รัฐบาลเพื่อไทยก็คือบริษัทหนึ่งของทักษิณต้องทำทุกอย่างเพื่อนโยบายของ เจ้าของบริษัทที่ต้องการนิรโทษกรรม มันก็บีบบังคับให้แก้รัฐธรรมนูญ มันเป็นชนวนความขัดแย้งอีกรัฐบาลแทนที่จะไปบริหารประเทศก็ต้องมาหาวิธีการทำ อย่างไรที่จะเอาทักษิณกลับ ...เราผ่านปฏิวัติมา 5 ปี ถ้าทักษิณหยุด ป่านนี้ได้กลับเข้ามาแล้ว ส่วนขบวนการที่จะทำเรื่องอภัยโทษคงไม่มีใครคัดค้าน"
ฝ่ายเพื่อไทยอาจบอกว่า เพราะกลุ่มคัดค้านปลุกม็อบมาชน ไม่เคารพในการแก้กฎหมายพล.อ.สมเจตน์ แย้ง
"ผมไม่ได้ปลุกม็อบมาชน แต่เพราะพลังในโซเชียลมีเดียมันเห็นด้วยกับพวกเรา เขาคลิกดูงานเสวนาของผมเป็นแสนคน มันไม่น่าเชื่อจากระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน คนที่เข้ามาดูก็มีความเห็นที่รักประเทศชาติ ทุกคนเห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า สิ่งที่รัฐบาลทำไม่ถูกต้อง คนที่มาร่วมชุมนุม หรือฟังเสวนาที่สวนลุมฯ ก็มีหัวคิด และผมไม่ได้ปลูกฝังให้จงเกลียดจงชัง แต่ให้ฟังด้วยเหตุผล"
ทหารเพื่อไทย ทหารเพื่อใคร?
ประเด็นการหมิ่นสถาบันในโลกออนไลน์ที่ระบาดหนัก เป็นอีกเงื่อนไขของฝ่ายคัดค้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เรียกร้องให้รัฐบาลเสื้อแดงเร่งจัดการคนอยู่เบื้องหลังโพสต์ข้อความหมิ่น ตอกย้ำจุดอ่อนของพรรคเพื่อไทยที่ถูกโจมตีมาตลอดว่ามีส่วนรู้เห็นกับ "ขบวนการทอนอำนาจสถาบัน"

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ยืน ยันว่า ในกลุ่มพ.ต.ท.ทักษิณ มีพวกที่ไม่ต้องการสถาบัน เพราะ2-3 ปีที่ผ่านมา ขบวนการจาบจ้วงสถาบันรุนแรงมาก ซึ่งก็อยู่ในเครือข่ายของเขาทั้งนั้น เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามา เว็บไซต์ที่จาบจ้วงก็เพิ่มสูงขึ้น กระทรวงไอซีทีก็ไม่เร่งจัดการ ทั้งที่สามารถจับแฮกเกอร์ทวิตเตอร์ ยิ่งลักษณ์ ได้อย่างรวดเร็ว
การที่รัฐบาลไม่จัดการ ก็แปลว่าร่วมขบวนการสนับสนุนด้วย นอกจากนี้ยังมีความพยายามเปลี่ยนโครงสร้างประเทศไปในสิ่งที่เขาต้องการ แน่นอนว่าต้องมีการทำลายสถาบันให้ขาดความเชื่อถือ จนไม่น่าเชื่อว่าจะจาบจ้วงกันขนาดนี้ ทำกับพระองค์ได้เพียงนี้เชียวหรือในฐานะอดีตนายทหารราชองครักษ์มายาวนาน พล.อ.สมเจตน์ เล่าถึงภารกิจตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในอดีต เล่นเอาบางช่วงเจ้าตัวซาบซึ้งถึงกับนัยน์ตาแดงก่ำ
"ผมเป็นรองผู้บังคับการกองพันรักษาพระองค์ตั้งแต่ยศพันตรี เมื่อปี 2527 และเป็นมาจนอายุ 54 ปี รวม 27 ปี แต่เป็นราชองครักษ์24 ปี ทุกตำหนักผมเคยไปเข้าเวร มีโอกาสตามเสด็จไปถวายความปลอดภัยให้กับพระองค์ท่านทุกขั้นตอน ได้เห็นพระองค์ท่านตรากตรำทรงงานทุกวัน จนสุดท้ายเมื่อพระองค์ชราภาพมากสิ่งที่ผมคิดว่าพระองค์ทรงใช้พระวรกายมากมาย ที่สุดคือ การพระราชทานปริญญาบัตรมากที่สุดคิดดูสิว่าใครวันหนึ่งมานั่ง 3-4 ชั่วโมง ทำท่านั้นยามหนุ่มแข็งแรงก็ยังไหว แต่อายุมากขึ้นก็ไม่ไหว พระองค์ท่านทรงนั่งในท่าทีสง่างามต้องทำทุกอย่าง เป็นการใช้พระวรกายเข้มข้นมาก และทุกคนก็ต้องการรับจากพระหัตถ์พระองค์ท่านและเดี๋ยวนี้ความรู้สึกตรงนั้น หายไปไหน ที่ชื่นชมท่าน มีความหวังที่อยากรับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน"
"ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่คิดร้ายต่อพระองค์ท่าน ก็รับปริญญาบัตรจากพระองค์ท่าน และทำไมตอนนั้นคุณอยากรับ แต่พวกนี้ผมไม่สงสัยผมสงสัยทหาร ทหารที่ร่วมกับกลุ่มจาบจ้วงพระองค์ท่าน สิ่งที่เป็นความใฝ่ฝันของทหารมากที่สุดคือ บ่าข้างหนึ่งได้มีตราพระราชองครักษ์ เพราะเป็นเกียรติของวงศ์ตระกูล ได้เข้าใกล้ชิดพระองค์ท่าน ได้ไปเห็นพระองค์ท่าน ปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ทุกคน"
สิ่งที่พล.อ.สมเจตน์ ตั้งข้อสงสัยมากที่สุดคือบิ๊กทหารในพรรคเพื่อไทย เพราะส่วนใหญ่เป็นราชองครักษ์ทุกคน แต่ทำไมถึงเพิกเฉยต่อพฤติกรรมการจาบจ้วง
"ผมไม่เห็นมีทหารที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยคนไหน ออกมาปกป้อง ออกมาโจมตีเว็บไซต์จาบจ้วง ทำไมล่ะ เดี๋ยวนี้คุณลืมแล้วหรือ คุณถวายสัตย์ปฏิญาณที่จะปกปักรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ คำปฏิญาณของคุณในหัวใจหายไปไหนหมด ผมไม่โทษประชาชน นักวิชาการ หรือกระทั่งผู้รับปริญญาบัตร แต่ผมไม่เข้าใจทหารในเพื่อไทย อย่าง รมว.กลาโหม ก็ไม่เห็นออกมาทำหน้าที่ปกป้องสถาบัน ใครตอบผมได้ขอเชิญมาอธิบายให้ผมฟังว่าคุณ (ทหาร) ไปอยู่ตรงนั้นทำไม ไปอยู่กับกลุ่มคนที่จาบจ้วงสถาบันได้อย่างไร และคุณมีวิธีการอย่างไรให้ขบวนการตรงนั้นหายไปเพื่อรักษาไว้ซึ่งสถาบันให้ อยู่คู่กับประเทศชาติตลอดไป"
เคยถามทหารในพรรคเพื่อไทยไหม?
ก็รู้จักทั้งนั้น ก็ถามทุกคน แต่ก็มีข้อแก้ตัวว่า เข้าไปเพราะดึงให้เขากลับมารักสถาบัน ดังนั้นให้ผมไปรวมสมาคมกับเขาก็ไม่เอา ถามว่าทำไมผมไม่เข้าก็เพราะผมรังเกียจ ผมไม่ชอบคนเลว แม้กระทั่งพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ที่บอกว่าเป็นราชองครักษ์รักษาพระองค์ แล้วคดีที่จาบจ้วงหมิ่นสถาบันไปถึงไหน เห็นแต่ข่าวว่า ดีเอสไอ ไปเปลี่ยนพนักงานสอบสวนหมด เพื่อเอื้อประโยชน์ใช่หรือไม่ อย่าง สส.คนหนึ่งที่ไปปราศรัยเรื่องพระองค์ท่านจนเป็นคดีหมิ่นฯ แต่ก็พลิกมาเป็นไม่หมิ่นฯ ขนาดคนฟังที่เป็นเด็กก็ยังรู้ว่าหมิ่นฯ แต่คุณใช้การตีความทางกฎหมายไปเข้าข้างว่าไม่หมิ่นฯ มันรับฟังไม่ได้ คุณถวายสัตย์ปฏิญาณไว้ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวมเพื่อชาติ แต่พฤติกรรมจริงๆ คุณกลับทำในสิ่งที่ไม่ชอบธรรม"
กับข้อถกเถียงว่า กลุ่มคัดค้าน พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคารพในเสียงส่วนใหญ่ 15 ล้านคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยมาปกครองด้วยเสียงข้างมากตามระบอบประชาธิปไตย แล้วประชาธิปไตยในทัศนะของ พล.อ.สมเจตน์ เป็นอย่างไร
"ประชาธิปไตยที่เราพูดกันมันก็เสียงส่วนใหญ่ แต่ประชาธิปไตยของเราผิดเพี้ยนไปจากประเทศที่เป็นโลกประชาธิปไตยที่เขามั่น คงแข็งแรง เพราะประเทศที่มีประชาธิปไตยที่ดี เขามีชนชั้นกลาง 70-80% เป็นคนที่ได้รับการศึกษาไม่มีใครมาชี้นำมาชักจูงหรือให้อามิสสินจ้างได้แต่ ของเราชนชั้นกลางมีน้อย 20% ที่เหลือเป็นเกษตรกร ชนชั้นรากหญ้า 70-80%
"ผมไม่ได้ดูถูกประชาชน แต่ส่วนหนึ่งเขาถูกชี้นำทั้งสิ้น ผมยังไม่ได้พูดถึงการซื้อเสียงนะการซื้อเสียงผมก็ว่าไม่ชอบธรรม และสิ่งต่างๆเป็นความไม่ชอบธรรมทั้งสิ้น เมื่อได้คะแนนเสียงมาก ไม่ใช่ว่าสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ เขาให้เสียงคุณไปบริหารประเทศ ไม่ใช่ให้คุณไปคดโกงประเทศ ไม่ใช่ให้คุณเอาประเทศนี้ไปให้ทักษิณ หรือรัฐบาลต้องทำอะไรทุกอย่างเพื่อทักษิณ"
แต่คนชั้นล่างเติบโตเป็นคนชั้นกลางมากขึ้นพัฒนาทางประชาธิปไตยเปลี่ยนไปจากแต่ก่อน พล.อ.สม เจตน์ ตอบ อันนี้ดี แต่ทำไมพฤติกรรมของคุณยังโกงกิน ที่พูดนี่ไม่เฉพาะนักการเมืองแต่รวมถึงข้าราชการด้วย มันมีขบวนการของมันวิธีการคอร์รัปชันได้ปรับรูปแบบ แตกต่างจากอดีตมากขึ้น ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าประเทศไทยที่พัฒนาการทางประชาธิปไตยกำลังเติบโตน่าจะมี คุณธรรมมากกว่านี้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง