"แดงล้มเจ้า"ประกาศยุทธศาสตร์ 6 ยึด ล้มล้างระบอบกษัตริย์ ...จะอันตรายกว่านี้ถ้ารัฐอุ้มสมด้วยกม.นิรโทษกรรม!!
ถือว่ามีความชัดเจนในระดับสำคัญ หลังจากรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”
กลับลำแปรสภาพ พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ที่มุ่งประโยชน์ พ.ต.ท.ทักษิณ
ไปสนับสนุนให้นักโทษชั้นดีส่วนใหญ่
ยังคงได้รับพระมหากรุณาธิคุณเช่นเดิม แต่ก็ใช่ว่าปฏิบัติการนำ “ทักษิณ”
กลับบ้านจะจบลง แต่หนนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะใช้พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
เป็นฉากบังหน้า เพื่อเปิดโอกาสให้ความฝันนายใหญ่เป็นจริง ???
ประเด็นสำคัญของการเดินหน้าพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
ไม่ใช่แค่เพียงทำให้ทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง
ถูกยกระดับเป็นคดีการเมือง โดยการกล่าวอ้างว่าเพื่อความปรองดองประเทศ
เพราะมีการนำคดีของคนเสื้อเหลืองมาบวกรวมไว้อย่างเสร็จสรรพ แต่มากไปกว่านั้นเชื่อแน่ว่า คดีที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ก็จะถูกผนวกเข้าไว้ด้วยกับอานิสงส์ของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ด้วยเช่นกัน
ข้อพิจารณาก็คือผลพวงของการเหวี่ยงแหปลดปล่อยความผิดในทุกคดี
อันสืบเนื่องมาจากความวุ่นวายทางการเมืองเป็นเรื่องสมเหตุสมผลหรือไม่
โดยเฉพาะในกรณีของกลุ่มขบวนการล้มเจ้า
ที่มีเป้าหมายชัดเจนในเรื่องการล้มล้างสถาบัน
ที่มีการบิดเบือนในหมู่คนเสื้อแดงว่าเป็นเรื่องไม่ผิดกฎหมาย เ
พราะการเปลี่ยนแปลงระบอบ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง “ประชาธิปไตย” ....
ทั้ง ๆ ที่ก็เข้าใจโดยทั่วกันว่า ที่สุดของแนวคิดนี้ ก็คือ “การปกครองในรูปแบบสาธารณรัฐ” ที่พระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพรักจะถูกทำให้เป็นแค่สัญลักษณ์ทางการเมือง โดยไร้ซึ่งพระราชอำนาจใด ๆ ทั้งสิ้น !!!
และนี่เป็นสัญญาณอันตรายยิ่งต่อความแตกแยกของผู้คนในประเทศรอบใหม่
ที่จะเกิดขึ้น จากการออกมาสนับสนุนและคัดค้านการออกกฎหมาย เปิดช่องให้
“พ.ต.ท.ทักษิณ” กลับบ้าน รวมถึงการใช้กฎหมายฉบับเดียวกันนี้ ปลดปล่อยขบวนการล้มเจ้าให้เป็นอิสระ ตามทิศทางที่แกนนำล้มเจ้าอย่าง “ใจ อึ๊งภากรณ์” หรือ “จักรภพ เพ็ญแข” และ แนวร่วมแดงทั้งหลายแสดงความต้องการ มากไปกว่าการช่วย “พ.ต.ท.ทักษิณ” คนเดียว ….
ท่ามกลางจุดเดือดกรณี “ คุก 20 ปี SMS อากง” ... ที่ถูกนำไปขยายความอย่างสบช่องโอกาส ด้วยข้อกล่าวอ้างว่านี่คือความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นในสังคม โดย คน
ล้มเจ้าทั้งหลายกลับไม่พูดความเป็นธรรม สำหรับคนไทยผู้จงรักภักดี และ
กระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ทรงอยู่ในฐานะไม่อาจทรงลงมาตอบโต้ได้เหมือนปุถุชน
จนพระองค์ท่านต้องทรงแบกรับพระราชภาระจากสารพัดข้อกล่าวหา
ที่คนเสื้อแดงยัดเยียดให้ ???
“ ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีล้มเจ้า ” แนวคิดที่ “สนข.ทีนิวส์” ตรวจสอบค้นจากบุคคลที่อ้างตัวเป็นนักวิชาการด้านการเมือง และใช้นามแฝงว่า “ ดร.เพียงดิน รักไทย ”
ซึ่งปรากฏตัวในเวปแดง ตอกย้ำให้คนไทยทั้งประเทศ
โดยเฉพาะมวลชนเสื้อแดงประจักษ์ว่า
นอกจากแนวทางการเรียกร้องประชาธิปไตยที่พูดกันปากต่อปากว่า
ยังไม่สมบูรณ์เบ็ดเสร็จนั้น การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง
มีกรณีซ่อนเร้นเรื่องการล้มล้างสถาบันเบื้องสูงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่าง
แน่นอน
“ถึงเวลาแล้วที่คนเสื้อแดงต้องกล้าพูดเรื่องล้มเจ้า
เพราะการล้มเจ้าไม่ใช่เรื่องผิด เพราะเราไม่ได้ (ฆ่า) ใคร
ซึ่งเป็นการกระทำผิดทางกฎหมาย
แต่การไม่เอาเจ้าหมายถึงการไม่เอาระบบและกลุ่มบุคคลที่ยึดโยงอำนาจไว้เป็น
ประโยชน์ส่วนตน ... ”
จากถ้อยคำของ “ ดร.เพียงดิน รักไทย ”
ไม่ต้องตีความเป็นอย่างอื่น เพราะการสื่อความข้างต้นบ่งบอกอย่างชัดเจน
สำหรับทัศนคติที่มีต่อสถาบันเบื้องสูงของแนวร่วมแดงกลุ่มนี้เป็นอย่างไร
และ เป็นเหตุเป็นผลว่าทำไมขบวนการคนเสื้อแดง
จึงออกมาเคลื่อนกระบวนการต่อสู้ในเรื่องนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย กับ กรณี
“ SMS อากง ” โดยไม่ใยดีกับข้อเท็จจริงทางกฎหมาย
ว่าด้วยการหมิ่นประมาท กล่าวร้ายป้ายสี
ที่ทุกคนย่อมมีสิทธิได้รับการคุ้มครอง ตั้งแต่บุคคลธรรมดา
ไปจนถึงพระมหากษัตริย์ และองค์รัชทายาท
“
ประเด็นของอากงเป็นกรณีที่ต้องนำมาเชื่อมโยงกับแผนการปฏิวัติ
ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแก้ไขกม. มาตรา 112 หรือ
กม.ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเกี่ยวข้องไปถึงการล้มล้างระบอบไปเลย ... ”
และด้วยถ้อยประโยคแบบนี้ใช่หรือไม่ว่า ในมุมกลับของการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับ “อากง” แท้จริงแล้วก็มีเป้าหมายแฝงทางการเมืองซ่อนเร้นอยู่เป็นประเด็นสำคัญ จน “สนข.ทีนิวส์” อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า แท้
จริงแล้ว “อากง” กำลังตกเป็นเหยื่อของใครกันแน่
ถ้าพิจารณาจากสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์
ซึ่งตกเป็นฝ่ายถูกกล่าวหามาโดยตลอด ...
ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศ
ยังคงชัดเจนในจุดยืนเรื่องความจงรักภักดี
ภายใต้พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อคนไทยมายาวนานกว่า 60
ปีแห่งการครองราชย์ ???
“พี่น้องเสื้อแดงที่ต้องการแนวทางปฏิวัติ ต้องเลิกแนวทางที่หน้อมแน้ม
เลิกเชียร์ยิ่งลักษณ์ไปวัน ๆ เลิกสนับสนุนทักษิณแบบเพ้อเจ้อ
ที่ไม่การกดดัน ไม่มีการเสนอแนวคิด เพราะการจะล้มเจ้า
การจะปฏิวัติประเทศ ต้องมีการกำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีให้ชัดเจน
รัฐสภาที่อยู่ภายใต้การนำของยิ่งลักษณ์
ต้องกล้าวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาของสถาบันฯ
ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ไม่เห็นด้วย ...
ขณะที่คนเสื้อแดงก็ต้องรู้ว่าสู้เพื่ออะไร และกับใคร .... ”
ความเข้มข้นในการแสดงชุดความคิดอันเลวร้าย ไม่ได้จบเพียงเท่านั้น “ ดร.เพียงดิน รักไทย ”
ยังก้าวล่วงไปถึงการปลุกระดม
ทำให้เกิดกระบวนการลดทอนอำนาจของมหากษัตริย์
ด้วยการกล่าวหาว่าทรงลงมายุ่งเกี่ยวทางการเมือง
และเรียกร้องให้เครือข่ายทักษิณร่วมพลังเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย
“พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงต้องร่วมกัน
ไม่นานนักเราจะได้เห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าแดงสยาม
ขบวนการปฏิวัติกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ... เราต้องมียุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายว่าด้วยการล้มล้างโครงสร้างเดิม ๆ แล้วสร้างระบอบประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ ส่วนยุทธวิธีจะใช้วิธีการลุกฮิอขึ้นมายึดทุกสิ่งทุกอย่าง หรือ ใช้กระบวนทางรัฐสภา ผ่านการโหวตประชามติก็ว่ากันไป
แต่สิ่งแรกที่ต้องทำคือ 1.
แย่งชิงมวลชนทั้งหมดมาให้ได้ จากนั้นก็
2.ยึดสื่อมวลชนมาอยู่ภายใต้การควบคุม
ภายใต้หลักกำกับให้มีการนำเสนอความจริงอย่างตรงไปตรงมา ต่อด้วย
3.การยึดสภาที่ว่าด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา
เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงกฎหมายในระดับต่าง ๆ
4.ยึดอำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร
ผ่านการกำกับการใช้อำนาจให้อยู่ภายใต้ขอบเขต 5. ยึดกลไกลทางเศรษฐกิจ
เพื่อวันหนึ่งเราจะใช้ระบอบเศรษฐกิจจากพื้นฐานการผลิตทั้งหมด
เป็นเครื่องมือต่อสู้กับพวกชนชั้นสูง และ 6. ยึดอำนาจศาลตุลาการ
เพื่อปกป้องไม่ให้เกิดการใช้อำนาจในส่วนนี้ ในการทำร้ายฝ่ายตรงข้าม
… นี่คือทฤษฎีปฎิวัติที่เชื่อ
ว่าจะไม่ทำให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ และถ้าสามารถยึดทั้งหมดได้
สถาบันพระมหากษัตริย์ ก็เหมือนลูกไก่ในกำมือ จับไปวางตรงไหนก็ง่ายดาย ..."
นี่คือ ชุดความคิดจริง ๆ ของพวกล้มเจ้า (ดร.เพียงดิน รักไทย)
ที่ถูกมองว่ากำลังฮึกเหิมยิ่งในยุคพรรคเพื่อไทยดำรงสถานะสูงสุดในฝ่าย
บริหาร
และกำลังมีแนวโน้มจะทำให้เกื้อหนุนให้กลุ่มขบวนการยกระดับกลายเป็นเสือติด
ปีก ถ้ารัฐบาลเดินหน้าพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ด้วยการผนวก “แดงล้มเจ้า”
เข้าไว้ในข่ายคดีการเมืองเพื่อนำไปสู่การปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
รวมทั้งจะกลายเป็นเชื้อชนวนจุดไฟเผาแผ่นดินรอบใหม่ เพราะนี่ไม่ใช่แนวทาง
การปรองดองอย่างที่กล่าวอ้างแน่นอน ??? |
คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่
สื่อที่เกี่ยวข้องกับข่าว
|
วัน - เวลา 2011-11-29 18:16:20 |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น