ภาณุมาศ ทักษณา
มติคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 4 ต่อ 1 ที่เพิกถอนสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของ จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันอังคารที่ 29 พ.ย.54ทำให้ข่าวการเมืองที่เคยถูกน้ำท่วมจนมิดมีโอกาสโผล่ขึ้นมาสร้างความคึกคักในสังคมอีกครั้งหนึ่ง,
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรมาก็ตาม แต่ข่าวนั้นก็ไม่เร้าใจเท่ากับข่าว จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงจะถูกถอดถอนจากการเป็น ส.ส.จริงหรือ,
และที่ผู้คนในสังคมให้ความสนใจอย่างยิ่งก็คือ ไม่ว่าก่อนหรือหลังศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินชี้ขาดนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศที่ จตุพร พรหมพันธุ์ มักคุยอวดในทำนองว่า ให้ความรักและศรัทธาในตัวเขาอย่างท่วมท้นจะออกมาเคลื่อนไหวมากน้อยแค่ไหน ?
หลังจากที่ จตุพร สื่อสารไปถึงว่า “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องเจอขวากหนามอีกมาก คนเสื้อแดงจึงมีหน้าที่ช่วยประคับประคองรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งเท่ากับประคับประคองการปกครองระบอบประชาธิปไตยไปด้วย”
และ “คน เสื้อแดงต้องยืนตั้งหลักอย่างมีสติ ขอให้จับจังหวะการต่อสู้ได้ดี ต้องเตรียมความพร้อม เพราะถึงอย่างไรบ้านเมืองนี้จะเกิดประชาธิปไตยด้วยน้ำมือของคนเสื้อแดง”
คำพูดนั้น ฟังเหมือนว่า จตุพร พรหมพันธุ์ กำลังสถาปนาตัวเองเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง
หรืออาจกล่าวได้ว่า จตุพร กำลังต้องการวัดรอยเท้าเทียบบารมี ทักษิณ ที่รู้กันดีว่าคือผู้สร้างมวลชนคนเสื้อแดงให้เป็นพลังการเมืองนอกสภาคู่ขนาน กับพรรคเพื่อไทยที่ทำงานการเมืองในสภา,
สิ่งที่ผมสนใจในขณะนี้ ไม่ใช่ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะตัดสิน จตุพร พรหมพันธุ์ อย่างไร ,
ทุกวันนี้ จตุพร ก็ไม่เคยให้เกียรติสภาผู้แทนราษฎร หนึ่งในสถาบันหลักของระบอบประชาธิปไตย อยู่แล้ว,
จตุพรพูดบ่อยครั้งว่า “ตำแหน่ง ส.ส.เป็นเพียงหัวโขน หากเลือกได้ก็ขอเป็นคนเสื้อแดง”,
สิ่งที่น่าสนใจต่อจากนี้คือ จำนวนของมวลชนคนเสื้อแดงที่ จตุพร มักอ้างอยู่เสมอว่าพร้อมสนับสนุนเขานั้น จะมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน,
ปรากฎการณ์คนเสื้อแดงครั้งใหม่นี้ ผมมองว่าไม่เพียงแต่จะสร้างความปั่นป่วนให้แก่สังคมไทยเท่านั้น,
แต่ ปรากฎการณ์คนเสื้อแดงครั้งนี้ จะเป็นเครื่องชี้วัดว่ามวลชนคนเสื้อแดงเป็น “ฐานกำลัง” ของใครกันแน่ ระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร กับ จตุพร พรหมพันธุ์
หากมวลชนคนเสื้อแดงออกมาให้กำลังใจ จตุพร พรหมพันธุ์ กันมืดฟ้ามัวดิน คนที่ควรตกใจอย่างยิ่งหาใช่คนไทยทั่วไปไม่,
ทว่า น่าจะเป็น ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย มากกว่า,
..นั่น เท่ากับว่า หอกข้างแคร่ที่ทักษิณสร้างมากับมือ อาจหันปลายที่แหลมคมและหนักหน่วง มาทิ่มแทงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อไหร่ก็ได้นั่นเอง ?
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น