บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เพื่อไทยย้อนศรถก"กฤษฎีกา" รื้อคำสั่งยุคเปรม เปิดสภา21ธ.ค.สาง"รธน." บิ๊กบังเตือนปชช.รุกฮือ! ปชป.ตามล้าง“ปึ้ง”ถึงคุก

โปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ. เปิดประชุมสมัยนิติบัญญัติ 21 ธ.ค.นี้ กมธ.ปรองดองสภาเพื่อไทยย้อนศรจ่อถก"กฤษฎีกา"งัดมติครม. 66/23 ยุคป๋าเปรมปัดฝุ่น แก้ความขัดแย้ง "อดีตส.ส.ร." ติงรบ.เดินหน้าแก้รธน.ไม่เหมาะสม เชื่อผู้มีอำนาจกำหนดโจทย์ให้ส.ส.ร.แก้ไข "มาร์ค"เหน็บแก้มาตรา 309 ต้องการช่วยใคร ดักคอ"ยิ่งลักษณ์"ต้องรับผิดชอบ หากเป็นชนวนขัดแย้ง ด้าน นายกฯ โบ้ยยังไม่คุยรายละเอียด อ้างระบอบปชต.ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง "สนธิ"เตือน หากรบ.ทำเพื่อคนๆ เดียวประชาชนจะลุกฮือ ด้าน"สมเจตน์"ระบุเตรียมขยายผลกลุ่มสยามสามัคคีต้าน ขณะ"ชวนนนท์" จับโกหก กต.คืนพาสปอร์ต "ทักษิณ" ตอก "นพดล" บิดเบือนข้อเท็จจริง ยัน ปชป.เตรียมฟ้อง "ปึ้ง" ลั่นคนเกี่ยวพันเข้าคุกแน่ สะพัดนายกฯรอปรับบ้านเลขที่ 111 ปรับครม.ใหญ่รวดเดียวเดือน พ.ค.
เมื่อวันที่19 ธ.ค.54 ผู้สื่อข่าวรายงาจากรัฐสภาว่าได้มีสำเนาพระราชกฤษฎีกาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ลงวันที่18ธ.ค.54 โดยระบุถึงพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชกฤษฎีกาที่โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 127 มาตรา 128 และมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญ เรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติพ.ศ.2554 ในวันที่ 21 ธ.ค. พ.ศ.2554 นี้ ซึ่งมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ที่กระทรวงมหาดไทย นายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงบัญชีแต่งตั้งผู้ว่าราชการที่ยังว่างอยู่ทั้ง 16 จังหวัดว่า จะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันอังคารที่ 27 ธ.ค.นี้ 54 ส่วนกระแสข่าวที่ว่านายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปประเทศสิงค์โปร์เพื่อพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น นายพระนายฝากตนมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรียังไม่มีการส่งสัญญาณการปรับ ครม.ในช่วงนี้ คงต้องรอดูท่าทีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก่อน อย่างไรก็ตามเท่าที่ตนคุยกับนายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรมว.ท่องเที่ยวและกีฬานั้น คาดว่าท่าทีการปรับครม.ใหญ่น่าจะอยู่ในช่วงเดือนพ.ค.54 นี้ ขณะที่มีรายงานว่าเป็นที่ทราบกันดีกว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองบ้านเลขที่111 จะพ้นโทษที่ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว
"คนอาจมองว่าพรรคพลังชลน่าจะเหมาะกับการดูแลกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเพราะในอดีตคุณสนธยา ก็เคยเคยดำรงตำแหน่งรมว.ท่องเที่ยวฯ จึงถูกจับตาเป็นพิเศษ แต่ในพรรคตอนนี้ก็ยังไม่มีการพูดเรื่องปรับครม.เลย แต่ไม่ว่าเราจะทำงานอยู่ตรงไหนก็ทำเต็มที่ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ "
อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยเริ่มเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 309 ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมนั้น นางสุกุมล กล่าวว่า คงต้องดูรายละเอียดในเหตุผลและความจำเป็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรานั้น ๆ ซึ่งเชื่อว่าไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ต้องมีคนออกมาต่อต้านอยู่แล้ว ดังนั้นการแก้ไขสมควรจะยึดถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักโดยส่วนตัวของพรรคคงมีการหารือในเรื่องนี้อีกครั้ง
ที่รัฐสภา ด้านพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เหตุผลที่รัฐบาลต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ มี 2 ประการ คือ 1.เพราะไม่สามารถเข้าครอบงำองค์กรอิสระได้ และ 2.เพื่อใช้รัฐธรรมนูญเป็นทางออกให้มีการนิรโทษกรรมความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งประเด็นนี้ตนจะนำหารือในภาคีเครือข่ายสยามสามัคคีเพื่อต่อต้านด้วย
"ส่วนตัวมองว่าปัญหาของประเทศขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญแต่อยู่ที่ตัวนักการเมืองที่ต้องการรับใช้นายทุนเจ้าของพรรคมากกว่าประโยชน์ของประเทศ การที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย และส.ว.สรรหามาจากระบบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย ผมขอให้ท่านเปรียบเทียบมาตรฐานความดี-ชั่ว ระหว่างส.ว.สรรหา กับส.ส.บางคน หากจะปิดทางไม่ให้มีส.ว.สรรหา ก็จะเข้าอีหรอบเดิมสมัยรัฐธรรมนูญ 2540 ที่มีแค่สภาผัว สภาเมียเท่านั้น"
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา ในฐานะอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร. ) กล่าวว่าประเด็นการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายรัฐบาลนั้น ส่วนตัวมองว่ารัฐบาลทำเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก เพราะพรรคเพื่อไทยรวมถึงรัฐบาลเองล้วนเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรัฐธรรมนูญ ดังนั้นสาระที่นำเสนอแก้ไขจึงออกมาจากผู้ที่มีส่วนได้เสีย ทั้งนี้รัฐบาลควรที่จะมีการสอบถามไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 244 (3) ที่ระบุอำนาจให้ผู้ตรวจการแผ่นดินติดตามและจัดทำข้อเสนอแนะก่อน เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้น
"ในประเด็นที่รัฐบาลนำเสนอว่าจะมีการแก้ไขมาตรา 291 เพื่อเปิดทางให้มี ส.ส.ร. นั้นแต่ในทางปฏิบัติผู้ที่มีอำนาจจะเป็นผู้เลือก ส.ส.ร.เข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยผ่าน ส.ส.ร.จะเป็นไปตามการชี้นำและโจทย์ที่พรรคเพื่อไทยได้ตั้งไว้ก่อนหน้าแล้ว"
ด้านนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยว่า รัฐบาลมีอำนาจในการเสนอแก้ไขอยู่แล้วแต่ก็ต้องดูเหตุผลที่สมควรด้วย โดยไม่จำเป็นจะต้องมาสอบถามผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งในส่วนของผู้ตรวจฯ จะทำการประเมินเพื่อเป็นมาข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ส่วนรวมและขณะนี้ได้ทำการศึกษาการใช้รัฐธรรมนูญปี 50 ไปพอสมควรแล้ว โดยยอมรับว่าการประเมินผลเป็นเรื่องยากเพราะมีหลายระดับที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะประเด็นทางการเมืองที่ส่งผลกระทบในภาพใหญ่ ทั้งในเรื่องข้อเสนอจากฝ่ายการเมืองจะยุบองค์กรอิสระ ซึ่งกรณีนี้ตนไม่คงขัดข้อง แต่ในกรณี ม.237 ที่นักการเมืองซื้อเสียงแล้วส่งผลถึงการยุบพรรคได้ตนมองว่าไม่ควรแก้ไขเนื่องจากต้องการให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์และไม่มีระบบอุปถัมภ์
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า รัฐบาลยังไม่มีการพูดอย่างชัดเจนว่าเป้าหมายที่แท้จริงคืออะไร เพราะหากยังวนเวียนอยู่กับเรื่องนิรโทษกรรมก็ไม่มีประโยชน์มีแต่ขัดแย้งเพิ่มขึ้น ยิ่งมีธงในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ที่ตนไม่คิดว่าจะแก้ปัญหาให้กับใครได้ โดยตนขอให้นายกฯพักเรื่องของพี่ชายเอาไว้ก่อนและขอให้เลิกปฎิเสธความรับผิดชอบว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องใดๆ เพราะสุดท้ายหากเกิดเหตุการณ์ใด ๆขึ้น นายกฯก็ต้องรับผิดชอบ
ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเคลื่อนไหวต่อต้านพรรคเพื่อไทยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 309ว่ายังไม่ได้คุยกันในรายละเอียดในเรื่องนี้กับพรรค แต่เชื่อว่าระบอบประชาธิปไตยที่มาจากภาคประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง ซึ่งหากตนทำดีที่สุดแล้วก็คงจะไม่ห่วงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นวันข้างหน้า
เมื่อถามว่ารัฐบาลมั่นใจหรือไม่ว่าจะนำไปสู่ความปรองดองได้ นายกฯ กล่าวว่า ตั้งใจอย่างนั้นตั้งแต่วันแรกที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ซึ่งอยากขอความร่วมมือทุกส่วนให้มาช่วยกันเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ เพราะที่ผ่านมาคงจะเห็นคำตอบแล้วว่าประเทศชาติของเราไม่ได้ไปไหน
ด้านพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ และประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ(กมธ.ปรองดอง) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงประเด็นที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.กลาโหม ว่า ตนขอฝากรัฐบาลต้องระวังอย่าทำอะไรที่มีวัตถุประสงค์ซ้อนวัตถุประสงค์ หากรัฐบาลทำประโยชน์เพื่อคนๆ เดียวมากกว่าส่วนรวมประชาชนอาจลุกฮือออกมาจนเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีทางสู้ได้ ทั้งนี้สำหรับแนวทางสร้างความปรองดองที่ตนดูแลอยู่นั้น ในเบื้องต้นกมธ.ยังคงจะยึดหลักแนวคิดของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.)และแนวทางของการให้อภัยมาใช้ อย่างไรก็ตามตนยังได้เตรียมเชิญคณะกรรมการกฤษฏีกาและภาคประชาชนมาให้ความเห็นในที่ประชุมด้วย
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยในฐานะรองประธานกมธ.ปรองดอง กล่าวว่าในการประชุมกมธ.ปรองดองในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ได้เชิญกฤษฎีกามาให้ความเห็นถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในอดีตเพื่อดูในข้อกฏหมายว่าจะใช้เป็นทางออกความขัดแย้งนี้อย่างไร โดยจะใช้คำสั่งคณะรัฐมนตรีที่ 66/23 สมัยพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี มาเป็นแบบในการศึกษาและใช้เป็นโมเดลแก้ปัญหาความขัดแย้ง นอกจากนี้จะต้องเชิญทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนมาเสนอทางออกร่วมกันด้วย
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ..ต.ท.ทักษิณ มักจะพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงและแกล้งโง่ในเรื่องที่กระทรวงต่างประเทศออกพาสปอร์ตใหม่ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณว่า ตนขอจับผิดนายนพดลในหลายประเด็นเช่น1.การโกหกประชาชนที่ว่า พ.ต.ท.ท.ทักษิณไม่รู้เรื่องการดำเนินการคืนหนังสือเดินทางและไม่ได้ยื่นคำร้องใดๆ แต่ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศพูดชัดว่าวันที่ 25 ต.ค.54ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยื่นคำร้องที่สถานทูตกรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 2.การที่นายนพพดลพยายามจะนำกรณีดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับกรณีของนายวัฒนา อัศวเหมและนายสมชาย คุณปลื้มว่าเหตุใดในช่วงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่ไปเพิกถอนหนังสือเดินทาง ทั้งที่ตนพูดชัดหลายครั้งว่าการเพิกถอน พ.ต.ท.ทักษิณตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศมาตรา 23(7) ที่ระบุว่าการเดินทางอยู่ในต่างประเทศแล้วสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ซึ่งแตกต่างกับนายวัฒนาและนายสมชายที่ไม่ได้มีสถานะเช่นเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณ
"หนังสือที่ส่งมาจากศาลฎีกาและหมายจับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ยืนยันชัดถึงสถานะของพ.ต.ท.ทักษิณ และหนังสือฉบับนี้ก็อยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ แต่การที่นายสุพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศไปออกหนังสือเดินทางใหม่ให้ ทั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณทำผิดมาตรา 21เกือบทุกวงเล็บ หมายความว่าอย่างไร หากจะออกหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลชุดนี้ต้องออกให้กับนายวัฒนาและนายสมชายด้วย เรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์กำลังรวบรวมข้อมูลหลักฐานอยู่ ซึ่งมั่นใจว่าจะดำเนินการฟ้องได้ในเร็วๆนี้ โดยนายสุพงษ์ ที่เป็นผู้เกี่ยวข้องหลักนั้นไม่ต้องกังวลได้เข้าคุกแน่"
ขณะที่นายนพดล ปัทมะ ได้ส่งอีเมล์คำแถลงตอบโต้นายชวนนท์ว่า ยังยืนยันว่านายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ เพิกถอนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณโดยเลือกปฎิบัติและไม่เป็นธรรม ซึ่งอย่างน้อยคนกว่า15 ล้านคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยไม่คิดแบบพรรคประชาธิปัตย์ โดยตนเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์แข่งเลือกตั้งแพ้พรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณทุกครั้งจึงเป็นเหตุให้ไม่พอใจและทำการกลั้นแกล้งพ.ต.ท.ทักษิณดังกล่าว



สยามรัฐ



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง