บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

จัญไร, แทรกแซงกิจการภายใน, รุกราน, ล้มเจ้า ฯลฯ มาจากสาเหตุเดียว


เพราะความเห็นผิดของผู้ปกครองไทยทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ทั้งฝ่ายล้มเจ้าและฝ่ายพิทักษ์เจ้า ที่เห็นการปกครองแบบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ว่าเป็น “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
      
       ฝ่ายแกนนำเสื้อแดง แกนนำพรรคเพื่อไทย แนวร่วม พรรคคอมฯ นิติราษฎร์ พวกล้มเจ้า และนักวิชาการซ้าย รวมทั้งกระแสสากล พวกผู้คนเหล่านี้ ต้องการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยจะยกเอารัฐธรรมนูญฉบับ 40 มาเป็นต้นแบบ อันที่จริงจะว่าไปแล้ว รัฐธรรมนูญฉบับ 40 ดุจดังรถไฟ ได้วิ่งตกเหวไปแล้ว มันเป็นรัฐธรรมนูญที่จัดความสัมพันธ์ผิด ผิดเพราะไม่มีหลักการปกครอง (ระบอบ) โดยธรรม และเป็นรัฐธรรมนูญลักษณะระบบกึ่งประธานาธิบดี (Semi-Presidential System) ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีมาก และแยกฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติออกจากกันแบบไม่เด็ดขาด กลุ่มพวกนี้มุ่งหวังลดบทบาทของพระเจ้าแผ่นดินหรือถ้าเลิกได้ก็เลิกไปเลย กลุ่มพวกนี้ชิงชังไม่เห็นคุณค่าของสถาบันพระมหากษัตริย์ ปากว่าตาขยิบ
      
       ฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ หมอตุลย์มวลชนคนหลากสี สยามสามัคคี ฯลฯ ยึดรัฐธรรมนูญฉบับ 50 ฝ่ายนี้ยึดเอารัฐธรรมนูญฉบับ 50 และเห็นผิด เข้าใจผิด เชื่อผิดว่านี่คือ “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” กลุ่มนี้พูดเหมือนดูดี และรักเทิดทูนเชิดชูสถาบัน แต่เชิดชูแบบผิดๆ หรือชูเพื่อเอาประโยชน์หรือไม่ หากคิดอย่างลึกซึ้งแล้วพวกเขาก็ทำลายสถาบันโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เป็นพลังที่ทำให้สถาบันอ่อนแอ
      
       กลุ่มฝ่ายค้าน แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ มีความเห็นผิด อยู่ 2 ประการคือ
      
       1) เห็นผิดว่า เป็นระบอบประชาธิปไตยแท้จริงเป็นการเมืองแบบเผด็จการโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีระบอบหรือหลักการปกครองโดยธรรมจะพูดอย่างไรๆ พวกเขาก็ไม่เข้าใจแดกดันกันไปจนพังทั้งประเทศ
      
       2) เห็นว่าพระมหากษัตริย์เป็นประมุขระบอบ พวกรัฐธรรมนูญ 50 เห็นผิด พูดผิด ทำผิด รู้หรือไม่ว่าพระมหากษัตริย์เป็นประมุขประเทศหรือประมุขแห่งรัฐ ไม่ใช่ประมุขระบอบฯ แต่กลายเป็นประมุขระบอบเผด็จการ แล้วอย่างนี้เขาเรียกว่าเชิดชูเพื่อเอาประโยชน์ แต่แท้จริงกลับทำลาย รู้ตัวกันหรือไม่
      
       สภาพความเป็นจริงของการเมืองไทยเป็นระบอบเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญหรือเป็นเผด็จการโดยกฎหมาย กฎหมายเป็นเพียงเครื่องมือหรือวิธีการปกครองการนำเอาเครื่องมือ เอาวิธีการ มาเป็นจุดมุ่งหมายร่วมของปวงชนในชาติมันปัญญาอ่อน จะพยายามยกร่าง 100 ครั้ง 1,000 ฉบับ ก็ไม่ได้ระบอบประชาธิปไตย ก็พิสูจน์มาแล้ว 18 ฉบับมิใช่หรือ
      
       กลุ่มคนรักในหลวงจริงควรจะเข้าใจเสียใหม่ว่า การสร้างระบอบประชาธิปไตยนั้น ต้องสร้างด้วยนโยบาย จากนั้นจึงสถาปนาหลักการปกครองแบบประชาธิปไตยขึ้นเสียก่อน สมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงคิด สถาปนา “หลัก Democracy”
      
       แต่พวกคณะราษฎรอยากได้ “ธรรมนูญการปกครอง” จึงร่างรัฐธรรมนูญ จึงมีวัน “พระราชทานรัฐธรรมนูญ” ซึ่งสมเด็จพระปกเกล้าฯ ไม่ทรงเห็นด้วยเลย แต่ต้องจำยอม หวังจะแก้ไขในภายหลัง ผ่านมา 79 ปี ยังไม่มีใครแก้ไขได้
      
       เพื่อนชาวโหวตโน และพสกนิกรที่รักสถาบันทั้งหลาย รู้อย่างถูกต้องว่า“จุดมุ่งหมายมาก่อนวิธีการไปสู่จุดมุ่งหมายเสมอไป” เราจะไปวัดพระแก้ว วัดพระแก้วต้องมีอยู่ก่อน จุดมุ่งหมายจึงต้องมาก่อน ส่วนวิธีการเกิดภายหลังและย่อมแตกต่างหลากหลาย เช่น เดินไปวัดพระแก้ว วิ่ง ขี่จักรยาน รถยนต์ เป็นต้น พวกเราแตกต่างหลากหลายไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันคือวัดพระแก้ว ฉันใด ปวงชนในชาติแตกต่างหลากหลายต่างมุ่งตรงไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันคือหลักการปกครองโดยธรรมหรือระบอบโดยธรรมฉันนั้น
      
       จะ 80 ปี การเมืองไทยไม่มีหลักการปกครอง ไม่มีระบอบฯ มีแต่รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นเครื่องมือหรือวิธีการปกครองของรัฐบาล และรัฐบาลนั้นๆ จึงกลายเป็นตัวระบอบฯ เสียเองโดยอัตโนมัติ มันจึงผิดหลักผิดเกณฑ์ มันจึงเป็นเหตุของความเลวร้ายนับตั้งแต่คอร์รัปชัน นักการเมืองจัญไร ประชาชนอ่อนแอ ด่าเจ้า ยึดเขาพระวิหาร ครอบงำเศรษฐกิจ แทรกแซงกิจการภายในของยูเอ็น เป็นต้น
      
       สภาพการณ์ของการเมือง การปกครอง สังคม ยุ่งเหยิงเป็นฝอยขัดหม้อ ดุจลิงแก้แหเช่นนี้ ย่อมสร้างคนในสังคมให้เห็นแก่ตัว ถือตัวตนเป็นใหญ่ ทำอะไรๆ ทำตามอำเภอใจ ไม่รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร ที่เด่นชัดเช่นพวกนักวิชาการทั้งซ้ายและขวา นักการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ฯลฯ ที่ตกอยู่ใต้การเมืองเผด็จการครอบงำมายาวนาน เรียกว่าพวก อนาธิปไตย (Anarchism) ก็เป็นพวกที่ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ ระบอบ ระเบียบ กฎเกณฑ์ของรัฐ
      
       เราจะเห็นได้ว่าชัดว่า ทักษิณ ก็ดี ฝ่ายเสื้อแดงก็ดี นักวิชาการฝ่ายซ้าย, ดา ตอร์ปิโด, คำ ผกา, อากง ก็ดี พวกนี้ล้วนคิดอคติจะเอามันตามใจฉัน จะพูดด้วยเหตุด้วยผลไม่ได้เลย จะว่าไปพวกนี้มีลักษณะเหมือนเด็กเวลาโกรธกระทืบเท้าตีอกชกตัวเอง หากมีอำนาจก็กดขี่เอาเปรียบประชาชน
      
       ย้อนมาดูพรรคเพื่อไทย วางแผนยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เขาเริ่มแล้ว ซึ่งเราก็บอกว่า พวกคุณเห็นผิด พวกคุณคือทายาทคณะราษฎร์เมื่อ79 ปีที่แล้วเข้าใจผิดคิดว่ารัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย นี่คือแผนการใหญ่ที่ผิดใหญ่โตเพื่อรักษาระบอบเผด็จการเอาไว้ และรวบรวมพวกเพื่อล้มเจ้าก็เท่านั้น “รัฐธรรมนูญมันก็แค่ไข่ขาว แล้วไข่แดงหายไปไหน” หากพวกคุณเจตนาดีบริสุทธิ์ใจต่อชาติ พวกคุณต้องเสนอหลักการปกครองโดยธรรมคือไข่แดง ทั้งๆ ที่เห็นผิดมา 18 ครั้ง ก็ยังคิดยกร่างทำแต่ไข่ขาว แล้วก็ผิดซ้ำซากทุกครั้งไป ทั้งที่ “เสี่ยงภัยและเสียเวลา” ให้กับชาติบ้านเมือง
      
       ฟันธงพวกคุณเป็นพวกเห็นผิดอย่างร้ายกาจทำลายชาติและประชาชน นี่คือเหตุแห่งวิกฤตชาติ “มีแต่ดาวเคราะห์ ไม่มีดวงอาทิตย์มันจะอยู่ได้อย่างไร” นี่คือแผนการหลอกเสื้อแดงให้เป็นทาสต่อไป และให้ไปตายแทนอีกแล้วครับท่าน


โดย ดร.ป.เพชรอริยะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง