แน่นอนว่าจากนี้เป็นต้นไป ทุกคน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะใครก็ตามที่แสดงตัวว่าเป็น "ฝ่ายหนุน" อาจต้อง "รับผล" ที่กำลังจะเกิดขึ้นกันถ้วนหน้า
ไม่ว่า "ผลลัพท์" ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ออกมาในทางที่เป็น "บวก" หรือ "ลบ"
ไม่ว่าผลที่ออกมาจะปรากฎว่า "พ่ายแพ้" หรือ "ชนะเบ็ดเสร็จ" ก็ตาม !!
แต่เมื่อประเมินจากการเคลื่อนไหวของ "ฝ่ายหนุน" ที่พยายามเปิดช่อง เปิดประตูต้อนรับ "นายใหญ่" ของพวกเขาให้ได้กลับบ้านโดยเร็วแล้ว ดูเหมือนว่าเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจอยู่ไม่น้อยว่า "ความสำเร็จ" นั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
อย่างไรก็ดีการแสดงออกถึงความมั่นใจต่อปฏิบัติการ "พาทักษิณกลับบ้าน" ในครั้งนี้ ในอีกด้านหนึ่งย่อมต้องไม่ลืมว่า ในความเป็นจริงแล้ว "ภารกิจใหญ่หลวง" เช่นนี้มี "เดิมพัน" ที่สำคัญอย่างยิ่ง ต่อทั้งตัวพ.ต.ท.ทักษิณและนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เอง
ไม่ใช่เพียงเพราะ นายกฯยิ่งลักษณ์ ดำรงสถานะเป็น "น้องสาว" ของพ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น หากแต่ในฐานะ "พี่ชาย" ที่ดูแลเธอมาตั้งแต่เล็ก ย่อมรู้ซึ้งเป็นอย่างดีว่า น้องสาวของเขานั้นจะสามารถ "แบกรับ" และทานทนต่อ "แรงเสียดทาน" ต่อสารพัดสารพันปัญหาที่รุมเร้ารอบด้าน ได้มากน้อยแค่ไหน ?
ลำพังแค่งานบริหาร รูทีนก็หนักหนาสาหัสอยู่ไม่น้อย ยิ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเสียงโจมตีวิพากษ์วิจารณ์ความผิดพลาดล้มเหลวจาก การแก้ปัญหาน้ำท่วมใหญ่
แถม "เด็กในคาถา" ของพี่ชายทั้งส.ส.ในพรรคและคนเสื้อแดงที่มักเปิดศึกอัดกันเอง สิ่งเหล่านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เองรู้ว่า เขาไม่ควรปล่อยให้ "ร่างทรง" ต้องรับศึกหนักเช่นนี้ต่อไปอย่างยาวนาน
เมื่อ "ร่างทรง" ที่ถูกเข็นให้ต้องก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง อย่างนายกฯยิ่งลักษณ์ กำลังอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงลงทุกขณะ และดูเหมือนว่ายากที่ใครจะสามารถการันตีได้ว่า ตลอดอายุรัฐบาล ในวาระ 4 ปีนั้นจะไม่มีรายการ "เปลี่ยนม้า" เกิดขึ้น !!
ถึงกระนั้น "การเปลี่ยนม้า" ย่อมไม่ใช่ปมประเด็นที่เกินไปจากความหมายของทั้งคนในรัฐบาลและฝ่ายตรง ข้ามอย่างแน่นอน ทว่าความสำคัญอยู่ที่ว่าจะเปลี่ยนม้ากันอย่างไรจึงจะสมเหตุสมผล และ "ลงตัว" อย่างที่สุดนั่นเอง
ดังนั้นแม้งานนี้ "พี่ชาย" ไม่ต้องการ "บดบังรัศมี" ของ "น้องสาว" ซึ่งกำลังทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลอยู่ในเวลานี้ก็ตาม แต่จะมีหนทางไหนที่จะปลุกกระแส และปลุกเสียงเรียกร้อง ให้คนที่ยังชื่นชมและศรัทธาพ.ต.ท.ทักษิณ พากัน "ร่ำร้อง" ขอให้เขากลับมาทำหน้าที่ "นำประเทศ"
หากตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เลือกใช้วิธีการเสนอตัวเอง ผลักดันตัวเองขึ้นมาให้เป็น "ทางเลือกใหม่" แทนน้องสาว เพื่อบริหารจัดการกับสารพัดปัญหาที่กำลังทำให้ เรทติ้งรัฐบาลเสื่อมถอยลงทุกวี่วัน !!
ด้วยเหตุนี้การเดินหน้าผลักดันยุทธศาสตร์ "พาทักษิณกลับบ้าน" โดยกำหนดเอาวันที่ 5 ธ.ค.นี้ขึ้นมาเป็นหมุดหมาย ในด้านหนึ่งย่อมไม่ต่างไปจากการปลุกเครือข่ายอำนาจในมือของพ.ต.ท.ทักษิณ ให้พากันลุกฮือและยอม "ทุบหม้อข้าวก่อนเข้าสู่สนามรบ"
เพื่อพา "นายใหญ่" กลับบ้านเสียที หลังจากที่ทุกเกมได้ถูกวางเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า ทุกวิกฤติที่เกิดขึ้นและกำลังดำเนินอยู่นั้น เมื่อกวาดสายตาไปทั่วหล้า ย่อมไม่มีใครกู้สถานการณ์ได้ดีไปกว่า "นายใหญ่" ที่อยู่ไกลบ้าน เพียงคนเดียว !!
ทีมข่าวคิดลึก.สยามรัฐ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น