ที่มา : ภาพ Reuters และ เรื่อง
http://www.thaioctober.com/forum/index.php?PHPSESSID=pru6v056f86gn39jk521eis8g3&topic=1675.msg56040%3Btopicseen#msg56040 ตื่นกับบ้างหรือยัง...??????
ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ของคนกรุงเทพฯคือเรื่องข่าวสารที่เผยแพร่ออกมา โดยเฉพาะจากศปภ.อะไรนั่นแหละ สื่อสารไม่รู้เรื่อง ข้อมูลก็ไม่เพียงพอ คาดการณ์อะไรก็ผิดไปหมด บอกว่าไม่พังก็พัง บอกว่าไม่ท่วมก็ท่วม เอาไม่อยู่ก็บอกว่าเอาอยู่
เพราะตัวเองก็ยังไม่เข้าใจธรรมชาติของน้ำ ไม่รู้ว่าน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นลงยังไง น้ำในทุ่งมันหลากมายังไง ตรงไหนลุ่ม ตรงไหนดอน คูคลองต่างๆเป็นยังไงก็ไม่รู้ สื่อสารให้คนเข้าใจไม่ได้
ดีแต่บอกว่าปริมาณน้ำ 4 พัน 5 พัน บางทีก็ว่า 16,000 ลูกบาศก์เมตร ตามที่นักวิชาการให้ข้อมูล คนเขาก็นึกภาพไม่ออกมันแค่ไหนกันวะ
ไม่รู้ว่าน้ำมันมาทีเดียวทั้งหมด หรือว่ามาทีละเท่าไหร่ ทยอยมาหรือว่ามาตูมเดียว
ที่ว่าให้เตรียมตัว อพยพ ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องว่า อพยพไปไหนอย่างไร เอะอะอะไรก็ให้เตรียมอพยพขึ้นที่สูง ที่สูงตรงไหน ที่สูงนี่คือชั้นสองหรือชั้นสาม ดังนั้นพอน้ำล้นคลองทีนึงคนก็เลยขึ้นที่สูง คือเอารถไปจอดบนทางด่วน ก็เลยรถติดวินาศสันตะโร ทีนี้จะลำเลียงของไปช่วยคนน้ำท่วมก็ไปไม่ได้ ยุ่งไปหมด ก็เพราะสื่อสารกับเขาไม่ดีนั่นเอง
ว่าที่จริงคนกรุงเทพฯไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอน้ำท่วม แต่ละคนเจอมาก็หลายครั้ง ปี 26 ปี 29 ปี38 ปี 49 เจอกันมาแล้วทั้งนั้น
น้ำมาครั้งนี้แม้จะมีปริมาณมากกว่า แต่เพราะเขื่อนปล่อยน้ำมาก อันนี้อย่าพยายามบิดเบือนเลย ลองย้อนกลับไปดูเลยก็ได้ ก่อนที่หางๆพายุจะเข้าน้ำในเขื่อนเพิ่งจะ 60 %ของความจุ แต่เพราะรัฐบาลมัวแต่สนใจจะเอา
แต่เรื่อง 15,000 บาท ค่าแรง 300 บาท รถคันแรก บ้านหลังแรก แจกแทปเลท
จะแก้รัฐธรรมนูญ จะแก้กฎหมาย จะย้ายข้าราชการ พัลวััลพัลเกอยู่กับเรื่องเอาชนะทางการเมือง ไม่เข้าท่า ใครเขาส่งสัญญาณอะไรก็ไม่ฟัง การบริหารจัดการน้ำฉันไม่สน ฉันสนเรื่องจะเอาพี่ชายกลับ สนเรื่องฐานเสียงท่าเดียว
นี่คือความประมาทและไม่เตรียมตัวรับสถานการณ์ ทั้งๆที่ใครๆเขาก็รู้ว่าย่านตะวันออกไกลปีนี้อยู่ในปรากฎการณ์ลานินญ่า น้ำจะมากหลังจากแล้งมาหลายปี
ตรงนี้พูดไปก็ไม่ยอมรับ อ้างแต่น้ำมากๆ ๆ ๆ พูดง่ายๆมืออ่อนกับการบริหารนั่นเอง
น้ำกับชาวกรุงไม่แปลก ท่วมขังเป็นประจำ ปัญหาที่น่าจะทำความเข้าใจก็คือ น้ำถ้าจะข้ามคันมา จะเข้ามาตรงไหนอย่างไร เข้ามาแล้วมันจะไปไหน จะหลากแบบน้ำทุ่ง หรือจะเ่อ่อท้นขึ้นมาตามคลอง ข้อมูลเหล่านี้บอกเขามาสิ คนเขาจะได้เตรียมตัวถูก คาดการณ์กันให้ใกล้เคียงหน่อย
แค่ไหนจะให้อพยพ อพยพไปไหน จะแค่เอาของขึ้นที่สูงก็พอ หรือต้องย้ายบ้านปิดเมืองกันไปอยู่ซะที่อื่นกันเลย
ก็ในเมื่อกทม.มีอุโมงน้ำ ดูดน้ำออกได้ทีละ 4 สระว่ายน้ำมาตรฐาน มีรถนาค มีเครื่องสูบขนาดเท่าปืนใหญ่เรือประจัญบานมิสซูรี่เป็นสิบเป็นร้อย มีคูคลอง มีประตูระบายน้ำ แถมยังมีคันถาวร คันชั่วคราวมากมายที่จะดันน้ำออกเมื่อทะลักเข้า ฝนก็ไม่ค่อยมีแล้ว อย่างนี้ประเมินได้ไม๊ล่ะว่ามันจะเข้ามาท่วมสูงไหนบ้าง ตรงที่ต่ำสุดอยู่ตรงไหน น้ำสูงสุดที่เขตไหน
น้ำไหลจากที่สูงหาที่ต่ำอยู่แล้ว ตรงไหนควรระวังก่อน ตรงไหนต่ำตรงไหนสูงคาดการณ์ไม่ได้เลยหรือว่าจะท่วมตรงไหนกี่นิ้วกี่เซนติเมตร
เท่าที่ประเมินดู น้ำข้ามคันมา ถ้ามาตามคลองก็ไม่เท่าไหร่คงเ่อ่อท้นขึ้นมา ถ้าข้ามคันมาก็คงจะที่ต่ำไหลลงไป น้ำอาจมารวดมาเร็วถ้าคันแตกเพราะถูกบีบ แต่พอไหลได้ที่ก็จะค่อยๆลดระดับความแรงและหาที่ต่ำอยู่จนเต็มขึ้นมา แต่มีจุดแตกต่างจากน้ำทุ่งรังสิตหรืออยุธยา เพราะที่นั่นเป็นทุ่งกว้าง มีระดับลุ่มต่ำมากๆ และไม่มีการจัดการ ไม่มีสูบ ไม่มีอุโมง ไม่มีคลอง
การจัดการน่าจะมีเครื่องมือมากกว่าน้ำท่วมทุ่ง ท่วมนิคมอุตสาหกรรม..
ข้อมูลเหล่านี้ ต้องแจงให้คนกรุงรู้
ต้องบอกคนกรุงด้วยข้อมูล และต้องไม่ให้ตื่นตระหนก
ที่จริงเอาแค่เก็บของก็พอไม่ต้องอพยพกันให้เอิกเริก คนกรุงอยู่กันแออัดจะให้อพยพไปไหน เอาของขึ้นที่สูง ถ้าที่สูงธรรมชาติก็มีอยู่ที่เดียวคือภูเขาทอง
แต่ตึกสูงก็มีเพียบ ถ้าน้ำมาระดับเฉลี่ยครึ่งเมตร ถึง 1 เมตร ไม่ต้องไปไหนก็ได้ ถ้าน้ำในถนนต่ำๆแถวห้าแยกลาดพร้าว 1 เมตร น้ำในซอยที่สูงกว่าก็เหลือแค่ครึ่งเมตร หน้าบ้านก็เหลือ 30 เซ็นติเมตร ยกของขึ้นที่สูงก็อยู่ได้ เร่งสูบออก เดี๋ยวก็ยุบ
พูดกันให้ได้ความ ว่ามันจะเป็นแบบไหน คนกรุงรับได้อยู่แล้วเคยมาซะนักต่อนัก
นี่พี่แกปล่อยให้คนจินตนาการเหมือนน้ำเข้านิคมฯ เหมือนอยุธยาซึ่งไม่มีอะไรป้องกันเลย คนก็นึกภาพแบบนั้น ก็เลยตื่นตระหนกกันมาก
ถ้ามันจะเป็นอย่างอยุธยาก็ต้่องบอกเขาว่ามันจะมาแบบนี้เขาจะได้เผ่น
แต่ผมคิดเอานะว่า มันมาไม่เหมือนกัน และมีเครื่องไม้เครื่องมือจัดการได้ดีกว่า
ดังนั้นน้ำมา occupy กรุงเทพฯก็ไม่น่ากลัว เราเคยกันมาแล้ว ปี 26
รามคำแหงจมมิดหัว ไปไหนไปรถจีเอ็มซีทหาร มีเรือวิ่งบนลาดพร้าว
รถเมล์มีท่ารถ เวลาขึ้นรถเหมือนลงเรือ เจอกันมาแล้วทั้งนั้น
คราวนั้นผู้ว่าเทียม มกรานนท์ พรรคประชากรไทยของนายสมัคร
ผู้ล่วงลับเป็นผู้ว่า ก็ยังล้อกันว่าน้ำท่วมเทียมๆไม่ได้ท่วมจริงๆ
แล้วคราวนี้จะไปกลัวอะไรนักหนา มันผิดพลาดเพราะดันมีผู้นำเป็นนารีขี่จระเข้ เลยไม่รู้เรื่องรู้ราว ก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อพลเมืองต้องการให้คนนี้ขึ้นมาปกครอง เกิดอะไรขึ้นก็ต้องรับกรรมกันไป จะได้รู้ว่าทีหน้าทีหลังจะเอาใครเป็นายกบริหารประเทศ ต้องเลือกกันให้ดีๆ อย่าให้พี่ชายคนเดียวเลือกให้ มันก็เป็นจอี้แหละครับ....
—
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น