บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

หมากตัวนี้ชื่อ "นิติราษฎร์" !

ยัง คงยืนยันไม่ได้ "ความเข้าใจ" จะมีเกิดขึ้น หรือ "อุณหภูมิ" ทางการเมืองจะลดระดับลง หลังจากที่คณะนิติราษฎร์ได้ออกมาแถลงการณ์ยืนยันข้อเสนอที่ให้มีการลบล้าง ความผิด การกระทำตั้งแต่หลังวันที่ 19 ก.ย.2549 หลังเหตุการณ์ยึดอำนาจจากรัฐบาลของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ว่าไม่ได้เป็นการ "ล้างมลทิน" ให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณ หลังจากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์รุมกระหน่ำ ถล่มคณาจารย์จากกลุ่มนิติราษฎร์เสียจนอ่วมอรทัย !!
     เพราะไม่ว่าการเปิดแถลงข่าวของ คณะนิติราษฎร์ ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์วานนี้ (25 ก.ย.) พร้อมด้วยแถลงการณ์ แจงยิบทุกรายละเอียดด้วยกันทั้งสิ้น 7 ประการเพื่อยืนยัน "เจตนารมณ์" ของตนเองว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือทำหน้าที่เป็น "เครื่องมือ" เพื่อ "ฟอกความผิด" ก็ตาม
     แต่ดูเหมือนว่า การเคลื่อนไหวของ คณะนิติราษฎร์ ได้ทำให้เกิด "คำถาม" ติดตามมามากมายหลายประการ และที่สำคัญยังทำให้เกิดปม "ค้างใจ"
     ว่าที่จริงแล้ว "เป้าหมาย" ในการเคลื่อนไหว เสนอความคิดที่เต็มไปด้วยความล่อแหลม ไม่เพียงแต่เรื่องที่ต้องการให้ลบล้างความผิด หลังการกระทำ 19 ก.ย.2549 เท่านั้น

     หากแต่ว่ากันว่าสิ่งที่ทำให้กลายเป็น "ชนวนร้อน" และ "ช่องโหว่" ที่ทำให้คณะนิติราษฎร์ ถูกถล่มมากที่สุดคือการไปแตะ ม.112 ว่าด้วยการให้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบัน
     ที่สุดแล้ว  ทุกปมประเด็นที่ถูกขมวดเอาไว้ในข้อสุดท้ายของคณาจารย์กลุ่มดังกล่าว จะประกาศชัดเจนว่า "ข้อเสนอ" นั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่ยอมรับรัฐประหาร

     ทว่า "ผลพวง" ที่เกิดขึ้นตามมาหลังการออกมา "เปิดหน้าเล่น" ของคณาจารย์กลุ่มดังกล่าว ยังคงดิ้นไม่หลุดจากข้อครหาว่าเพื่อเอื้อและ "เปิดช่อง" ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายอำนาจไปโดยปริยาย
     เพราะไม่ว่า "เจตนารมย์" ที่แท้จริงของคณะนิติราษฎร์ จะมี "วาระ" ซ่อนเร้น อย่างไรหรือไม่ แต่มีความชัดเจนว่าเสียง " ตอบรับ" ที่ดังมาจากฟากฝั่งพรรคเพื่อไทย และคนในรัฐบาลดูจะไม่อาจ "ต้านทาน" ต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์และการโจมตีอย่างหนักจากฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ อย่างสิ้นเชิง
     อย่างไรก็ดี แม้ล่าสุดจังหวะการเคลื่อนไหวของคณะนิติราษฎร์ มีอันต้องเป็นฝ่าย "ถอยร่น" จนเสียรูปขบวนก็ตาม
     ทว่าหากโฟกัสให้ดีย่อมจะพบได้ว่า ฝ่ายที่กำลัง "เก็บเกี่ยว" ประโยชน์ หลังการปะทะกันทางความคิดระหว่าง คณะนิติราษฎร์ พรรคประชาธิปัตย์และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อล่าสุดมี "เสียงคำราม" จากผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว

     จะพบว่าท่ามกลางฝุ่นที่ตบลอบอวลนั้น คงมีแต่พรรคเพื่อไทย -คนเสื้อแดงและ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นที่พอจะประเมินได้ว่า จากนี้ต่อไปควรจะเดินเกมอย่างไร ?
     โดยเฉพาะคนที่ต้องการ "กลับบ้าน" และที่สำคัญที่สุด เขายังต้องการกลับมาในฐานะ "ผู้ชนะ" อย่างเบ็ดเสร็จด้วยแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ย่อม "อ่านเกมออก" ว่า "แรงต้าน" ที่ซุกซ่อนอยู่นั้น มีพลังมากน้อยแค่ไหน ?
     และไม่ว่าการออกมาเคลื่อนไหวของคณะนิติราษฎร์ใน ครั้งนี้ จะเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดก็ตาม แต่นาทีนี้พวกเขาย่อมยากที่จะปฏิเสธว่าในสายตาของคนนอกและฝ่ายตรงข้าม ไปจนถึงกลุ่มคนที่ประกาศตัว "ไม่เอาระบอบทักษิณ"
     ย่อมมองว่าพวกเขาไม่ต่างไปจาก "เครื่องมือ" หนึ่งในเครือข่ายในมือของอดีตนายกฯทักษิณ ที่ออกมาเคลื่อนเพื่อ "หยั่งเชิง" วัดกระแสเท่านั้น
     ส่วน "ผลลัพท์" ที่เกิดขึ้นหลังการปะทะกันในทางความคิดและ "ข้อวิพากษ์" ต่างๆ ที่ได้ถูกจุดประเด็นขึ้นโดย คณะนิติราษฎร์ จะถูกนำไปขยายผล ทางใดทางหนึ่งในช็อตต่อไป ย่อมเป็นเรื่องที่ต้องมีการออกมารับลูกต่อของฝ่ายเครือข่ายอำนาจเก่ากันต่อไป
     โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่ลืมว่า แม้การถอยร่น ด้วยการออกมาแถลงการณ์ปฏิเสธถึงความเชื่อมโยงระหว่างคณะนิติราษฎร์กับ "ประโยชน์"ที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รับหากมีการลบล้างความผิดหลังเหตุการณ์ 19 ก.ย.2549 มีอันต้องจำใจถูก "ชะลอ" จังหวะการเดินหน้าต่อไปก็ตาม
     แต่ทว่า "แผล" ที่กำลังจะนำไปขยายต่อในคราวต่อไปนั้น คือการพุ่งตรงไปยังการเปิดฉากโจมตี "อำนาจตุลาการ" รอบใหม่แทนหรือไม่ 
     เพราะ ผลพวงหลังเหตุการณ์ รัฐประหาร 19 กันยา 2549 นั้นบรรดาระบอบทักษิณ ต่างเชื่ออย่างฝังใจว่าเพราะมีอำนาจและบทบาทของตุลาการ จึงทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พรรคการเมืองมีอันต้องถูกยุบ สมาชิกพรรคแถวหน้าที่เป็นเสมือน "หัวแรงหลัก" กลับถูกจองจำเอาไว้ในบ้านเลขที่ 111-109
     บทบาทของคณะนิติราษฎร์ นับจากนี้ต่อไป จะออกมาเคลื่อนไหวเมื่อใด และจะมีขึ้นอีกหรือไม่ก็ตาม ย่อมไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญอีกต่อไป เพราะว่ากันว่าปฏิบัติการเขย่าอำนาจตุลาการและ "กลุ่มอำนาจนอกระบบ" ได้ถูก "จุดพลุ"ขึ้นแล้ว
     ที่เหลือเพียงแต่อาศัยการ "สานต่อ" จากฝั่งพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงเท่านั้นเอง !!
                                                                                                                                            ทีมข่าวคิดลึก. สยามรัฐ
 

1 ความคิดเห็น:

คนไทยกู้แผ่นดิน กล่าวว่า...

ธิดารับคณะนิติราษฎร์เป็นแนวร่วมคนเสื้อแดง เป้าหมายล้มรัฐธรรมนูญ50 ยกเลิกทุกอย่างที่มาจากคมช.

นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช. เปิดเผยว่า การแถลงข่าวของคณะนิติราษฎร์ว่า ในทางการเมืองคณะนิติราษฎร์ถือเป็นแนวร่วมทางยุทธศาสตร์ของคนเสื้อแดง เพราะเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเราคือยกเลิกรัฐธรรมนูญ 50 และยกเลิกทุกสิ่งทุกอย่างที่มาจาก คมช.เราจึงขอสนับสนุน

ธิดา ถาวรเศรษฐ

“ที่ผ่านมา เราทำ 2 ขา มาแล้ว ตอนนี้เราทำ 2 แขน แขนขวาคือมวลชนคนเสื้อแดง แขนซ้ายคือนักวิชาการ สื่อ ปัญญาชน ชนชั้นกลางที่มีหัวใจดวงเดียวกับเรา ดังนั้น เราจึงเน้นยุทธศาสตร์ 2 แขน ในช่วงเวลานี้”นางธิดา กล่าว

ทั้งนี้ในสัปดาห์จะมีการเชิญ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายคนเสื้อแดง มาร่วมแถลงข่าวในการให้ความช่วยเหลือกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังในเรือนจำ และความคืบหน้าการติดตามคดีผู้เสียชีวิตจำนวน 13ศพในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองด้วย.

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง