บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

ถึงคราว"ธาตุแท้"เป็นที่ประจักษ์



นี่ ก็เข้าเทศกาล "กินเจ" กันแล้ว นอกจากงดเว้นการกินเนื้อสัตว์ รวมทั้ง เลือด-หนัง-เอ็น-กระดูก-ไส้เล็ก-ไส้ใหญ่-ปอด-ตับ-ม้าม-หัวใจ-เซ่งจี้ ทั้งหลาย-ทั้งปวงแล้ว ผมว่าถ้าจะให้เจบริสุทธิ์จริงๆ ละก็ ควรงดการลบหลู่สัตว์บางชนิดด้วยการเอาชื่อไปเปรียบกับมนุษย์ "ผู้ทรามสุด" ด้วย!

    คือเจตนาของการกินเจ นอกจากหวังสุขภาพกาย-สุขภาพใจแล้ว อีกอย่างที่สำคัญคือ หวังละเว้นการเบียดเบียนชีวิตสรรพสัตว์ ทีนี้ ผมลองมาคิดในมุมกลับเชิงตรรกะ ใครเรียกเรา...ขอโทษ..เป็นเหี้ย..ไอ้ตะกวด..เป็นควาย..เป็นแรด..เป็น หมา..ร้อยละ ๙๙.๙๙

    จะไม่พอใจ ถึงขึ้นโกรธ และโกรธมาก...นี่มองแบบเอาใจเราไปใส่ใจเขา!

    และเมื่อมองแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา สัตว์แต่ละชนิดก็ย่อมมีวงศ์-มีสกุลแห่งสัตว์ แต่เมื่อมนุษย์ผลักไสบุคคลที่มีการกระทำอันไม่เป็นที่รักของคนทั่วไปให้ไป อยู่ร่วมวงศ์กับเขา เช่น วงศ์เหี้ย เป็นต้น

    ก็แน่นอนละ...สัตว์ที่เป็นเจ้าของสกุลวงศ์นั้นๆ ย่อมไม่พอใจ ถึงขั้นโกรธ และโกรธมากเช่นกัน เพียงแต่มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ไม่ค่อยเข้าใจภาษาสัตว์ ก็เลยจับสังเกต "ความรังเกียจมนุษย์เลว" จากสัตว์ไม่ได้เท่านั้นเอง!

    เมื่อทราบดังนี้ เพื่อความบริสุทธิ์ของการ "ล้างใจ" จากการกินเจ เมื่องดกินเนื้อสัตว์แล้ว ก็ควรต้องงดเหยียบย่ำสัตว์ด้วยการเอาไปเปรียบกับคน "อันไม่เป็นที่รัก" ทุกประเภทด้วย

    อันนี้ผมไม่ได้พูดเล่นนะ เพราะตั้งแต่มีการนำสัตว์ชนิดหนึ่งไปเปรียบกับมนุษย์อันไม่เป็นที่รักบาง คน-บางพวกบ่อยเข้า ปรากฏว่า "ความซวย" เกิดกับวงศ์พันธุ์ของสัตว์ชนิดนั้นอย่างจัง ตัวอย่างที่เห็น เมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ มีคนเสนอให้ทำ "ฟาร์มเลี้ยงเหี้ย"

    เพื่อ "ถลกหนัง" ส่งนอก!

    ฉะนั้น ใครก็อย่าข้ามไปผสมพันธุ์ ไปกอด ไปก้มวันทากันชนิดหัวถึงเป้าให้เกิดทัศนะอุจาดบ่อยนัก ไม่ใช่อะไรหรอก...อาถรรพณ์มันจะเกิดกับวงศ์เหี้ยเขา นำวิบัติสู่เผ่าพันธุ์เขาหนักขึ้น จากที่แค่พูดกัน ตอนนี้ทำท่า "จับเหี้ยถลกหนังขาย" จะเป็นจริง-เป็นจังกันแล้ว

     ในเทศกาลเจนี้ ถ้าต้องการล้างใจให้พ้นจาก โลภ โกรธ หลง อิจฉา พยาบาท อาฆาตละก็ การงดโกรธ งดเกลียด งดอาฆาต พยาบาทคนที่เราไม่ชอบ ด้วยการไม่ด่าเขาเป็นสัตว์โน่น-สัตว์นี่ ตรงนี้จะเป็นการ "ล้างใจ" ให้สะอาดได้มากกว่า-ดีกว่าการ กินผัก กินหญ้า

    ซึ่งได้แค่ล้างท้อง!?

    ผมก็ได้แค่พูดเท่านั้น แต่ทำไม่ได้หรอกครับ ใจยังหิงสา พยาบาท รัก ชอบ โกรธ เกลียด คนนั้น-คนนี้อยู่ ยังละเว้นการเบียนสัตว์ด้วยการเอามนุษย์อันไม่เป็นที่รักมาเปรียบไม่ได้ เพราะอย่างนั้น ปีนี้เลยกินเจแบบไม่ประจำ ใครเอาอะไรให้กิน

    กินเรียบ!

    ห่วงแต่พี่น้องหลายๆ จังหวัดที่จมน้ำ และติดอยู่ตามเกาะแก่งตรงนั้น-ตรงนี้มากมายเป็นพัน-เป็นหมื่นคนขณะนี้ ไม่มีทั้งเจ ทั้งไม่เจจะยังชีพ ผมก็เข้าใจอยู่ คนที่ใจเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ผู้ทุกข์ยากมีมาก ช่วยกันบริจาคข้าวของทองเงินมากมาย แต่มันติดอยู่ตรงว่า

    จะนำไปสู่ปาก-สู่ท้องพี่น้องที่ "ติดเกาะ" ซ้ำไม่รู้อยู่กันตรงไหนบ้างได้อย่างไร คือน้ำมันท่วม คนไปช่วยก็ไปได้-ช่วยได้ เฉพาะที่ไปถึง ส่วนที่ไปไม่ได้ ไปไม่ถึง และไม่รู้ติดน้ำอยู่ตรงไหนกันบ้าง แล้วเราจะทำอย่างไรกัน จะทำไม่รู้-ไม่ชี้ ปล่อยให้เขาอดตายอย่างนั้นหรือ?

    นี่...ตรงนี้ ต้องช่วยกันคิดไวๆ!

    ผมก็ได้ยินนายกฯ ยิ่งลักษณ์พูดประจำถึงคำว่า "บูรณาการ" แต่ผมไม่เห็น และไม่ทราบจริงๆ ว่า รูปธรรมของแผนบูรณาการเพื่อการช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพ และได้ผลเกิดขึ้นบ้างหรือยัง?


    ผมประเมินว่า น้ำท่วมรอบนี้ยังไม่จบ และต้อง "แช่ขัง" ชาวบ้านในหลายจังหวัด หลายหมู่บ้าน หลายตำบล หลายอำเภออีกนานเป็นเดือน

    คุณยิ่งลักษณ์ หยุดเคร่งคิดกับการผลิตนโยบายประชานิยมไว้ซักพักก่อนดีมั้ย แล้วลองไปคิดประชานิยมในแนว "กินกะได-ทากะได" เพื่อการยาไส้-ยากระเพาะ แก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้ก่อน

    ตั้ง "คลังสรรพาหาร" เป็นศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือขึ้นในแต่ละจังหวัดดีมั้ย?

    คือจัดระบบช่วยเหลือให้มีแบบแผนในแต่ละพื้นที่ จะได้ไม่สับสน และทำกันแบบสะเปะสะปะ ข้าวปลาอาหาร อุปกรณ์สิ่งของช่วยเหลืออะไร ส่วนกลาง-รวบแล้วก็ลำเลียงไปเก็บไว้ตามคลังสรรพาหารแต่ละจังหวัด ผู้บริหาร-จัดการอยู่ในแต่ละศูนย์

    สมัยนี้การสื่อสารทันสมัย นายกฯ มีทั้งดาวเทียม ทั้งโทรศัพท์สื่อสาร จะเอากี่จีล่ะ มีทั้งนั้น จีสตริงก็ยังมี เครื่องบินก็มีเยอะแยะ ขึ้นบินสำรวจว่าชาวบ้านติดเกาะกันอยู่ที่ไหนบ้าง เรือแพลำละกี่สตางค์กะมัน หมดไปกับ ส.ส.นั่งเรือบินเยี่ยมทักษิณ ไปเบิ่งเมืองนอกในชื่อดูงาน ปีละเป็นร้อย-เป็นพันล้าน

    เผด็จการเพื่อชาติไปเลยยิ่งลักษณ์!

    โยกงบนั่งเรือบิน ส.ส.มาซื้อเรือพาย เรืออีแปะ เรือหางยาว เช้าขึ้นมาแต่ละศูนย์ในแต่ละจังหวัด ก็เบิกข้าวปลาอาหารใส่เรือ แยกย้ายกันตระเวนไปแจกจ่ายตามจุดที่เครื่องบินและเครื่องสื่อสารแจ้งเป้า หมายให้ทราบ กระจายกันออกไปค้นหาให้ทั่วๆ

    คนเดือดร้อนริมถนนน่ะปล่อยเขาเถอะ คนช่วยมีเยอะแล้ว ไปช่วยคนติดเกาะดีกว่า ผมดูโทรทัศน์ นักข่าวเขายังล่องเรือดั้นด้นค้นพบ และช่วยเหลือไปตั้งมากมาย แล้วทำไมกับการช่วยเหลือระบบรัฐจึงไปไม่ถึง ค้นหาชาวบ้านติดเกาะไม่พบ?

    ใส่ความ "จริงใจ" ลงในหน้าที่อีกซักนิดเถอะน่า แล้วเติม "การบริหาร-จัดการ" ลงไปในระบบความช่วยเหลือในแต่ละพื้นที่ ไม่ใช่ต่างคน-ต่างทำ หรือหมู่บ้านไหน ตำบลไหนมีพวก ก็ไปขอ-ไปลากความช่วยเหลือจากจังหวัด จาก อบต.มาได้

    หรือตำบลนี้-บางนี้ "ฐานเสียงกู" ก็ลงปูเต็มพื้นที่ ที่ผ่านๆ มามักเป็นแบบนี้ แต่คราวนี้ท่วมหนักและท่วมนาน จะทำเป็นเอาหูไปนา-เอาตาไปไร่ หรือปล่อยให้ช่วยแต่พวกกู ส่วนพวกมึง-ช่างมึง ไม่ได้นะครับ ชาวบ้านจมน้ำตายก็พอว่า แต่อย่าให้เกิดเป็นข่าวพาดหัว-พาดจอเชียวว่า

    ชาวบ้าน "อดตาย" เพราะไร้การช่วยเหลือ!

    ทีงานแก้บนอย่าง คอป.ไม่เห็นจำเป็นเร่งด่วนอะไร กลับกระเหี้ยนกระหือรือ เพิ่มทั้งงบ-ทั้งคน จนเห็นพิลึก จะให้ คอป.คู่ขนานกับ คอ.นธ.ของนายอุกฤษ มงคลนาวิน รวมถึงนิติราษฎร์งั้นหรือ?

    คงไม่ใช่ "แยกกันเดิน-รวมกันตี" กระมัง คอป.นี่ แต่เดิมเข้าใจว่าซักปี-สองปีคงจบ แต่ตอนนี้นายคณิตบอกว่า อาจต้องมากกว่า ๒ ปี ไปเอาฝรั่งมังค่า คนบอกบ้าน-นอกเมือง มาตั้งเป็นทีมที่ปรึกษา รวมทั้งนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ตั้ง ๖ คน

    เนี่ย..ถ้า คอป.ทำด้วยเป้าหมายเดิม ไม่รับออเดอร์เพิ่มขยายจากรัฐบาล คงไม่ต้องเอาคนนอกชาติมายุ่งกับเรื่องในชาติกระมัง แน่นอนละ ในเมื่อเพิ่มเวลา-เพิ่มคน มันก็ต้องเพิ่มเงิน

    มันจำเป็นไหมที่ต้อง "ตัดเส้นทางประเทศไทย" ขึ้นใหม่อีกสาย เป็นบายพาส "เปิดประตูบ้าน-ประตูเมือง" ให้คนนอกชาติเข้ามาในลักษณะมีอำนาจชี้นำบังคับใช้ "อำนาจในระบบ" ของบ้านเมือง?

    เจตนาเพื่ออะไร หวังโปรเรื่องนี้ให้มันดังระดับอินเตอร์อย่างที่ทักษิณชอบทำ อย่างที่จ้างนายอัมสเตอร์ดัมทำใช่มั้ย? 

    แต่ผมคิดว่า นี่คงไม่ใช่การพยายามแยกร่องให้อำนาจนอกชาติ "เป็นลิ่ม" แทรก และหวังใช้ผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเป็น "แบรนด์อินเตอร์" รับประกันผลสอบ คอป.ใช่มั้ยทักษิณ เอ๊ย...ยิ่งลักษณ์?

    นับวัน "เรื่องภายในของเรา" จะไปดึงให้คนนอกชาติเข้ามาวุ่นวายหนักขึ้น ทั้งเรื่องชายแดน ทั้งเรื่องปราสาทพระวิหาร ทั้งเรื่อง ๔.๖ ตร.กม. แล้วนี่...เรื่องเผาบ้าน-เผาเมืองแล้วได้ดี ก็มีการดึงต่างชาติเข้ามาเป็น "อำนาจที่ ๒" ในบ้าน-ในเมืองอีก!

     "นายคณิต ณ นคร" ท่านเป็นอดีตอธิบดีกรมอัยการ เป็น ๑ ในคณะผู้ร่วมก่อตั้งไทยรักไทยกับทักษิณ รัฐบาลอภิสิทธิ์ตั้งเป็นประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อ การปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป.

    ที่ผ่านมาก็เรื่อยๆ เรียงๆ เห็นมีข่าวบ่นว่า "รัฐบาลที่แล้วไม่ค่อยร่วมมือ" แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์นี่คงได้รับความร่วมมือดี จึงเห็นคึกคัก กระตือรือร้นขนาดไปเอาฝรั่งต่างชาติมาเป็นแบรนด์

    อ้าว...คุยเรื่องน้ำ ดันมาเข้าเรื่องเนื้อ ประเทศไทย "ใกล้ยก ๕" เข้าไปทุกทีแล้ว โปรดสังเกต...ใครที่เราไม่รู้ธาตุแท้แต่แรกว่าเป็นแร่ตะกั่วหรือแร่ทอง ตอนนี้เผยธาตุแท้กันชัดแล้วทีละคน-สองคน "วัวใคร-เข้าคอกใคร" นั่นแหละ

    แล้วท่านล่ะ...คอกไหน?

เปลว สีเงิน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง