บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

สัมภาษณ์พิเศษพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน" คือผู้นำกองทัพ


ประชาชาติธุรกิจ





5 ปีก่อน "พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน" คือผู้นำกองทัพ คือผู้นำคณะรัฐประหาร

สวมหัวโขนผู้บัญชาการทหารบก - ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และรองนายกรัฐมนตรี

เหตุผลของการยึดอำนาจจากรัฐบาล "ไทยรักไทย" ของ "บิ๊กบัง" อดีตหัวขบวนกองทัพคือ ป?ญหาการทุจริต ทำให้คนในชาติแตกแยก

วาระ 5 ปีรัฐประหาร

"ประชาชาติธุรกิจ" บันทึกความรู้สึก"บิ๊กบัง" วันที่สวมหัวโขน ส.ส.หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ท่ามกลางเสียงเสียดสี และข้อครหาจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย

- ความรู้สึกกับการทำหน้าที่ ส.ส.ครั้งแรกเป็นอย่างไร

จริง ๆ แล้วเราเรียนรู้ทางทฤษฎีมาเยอะ จากนี้มาสู่ขั้นปฏิบัติ ทำให้นักการเมืองที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ ๆ ได้มองไปถึงภาพของนักการเมืองที่ควรจะเป็น เราไม่ได้หนักใจ เพราะเราไม่ได้เป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล แต่เราเป็นฝ่ายที่ตรวจสอบการทำงานพร้อมกับเป็นตัวแทนของประชาชน เรามีแนวคิดทางสร้างสรรค์

- รู้สึกอย่างไรเวลาที่นั่งอยู่ในสภา ได้ยิน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเสียดสีว่าเป็นผู้นำรัฐประหาร แต่กลับมาเล่นการเมือง

เฉย ๆ นี่คือการเมือง ก็ต้องมีคนรักมาก รักน้อยธรรมดา ไม่มีนักการเมืองคนไหนมีแต่คนรักหมด หรือมีคนเกลียดหมด เป็นธรรมดา ทุกคนก็ต้องมีรักมากหรือรักน้อย เหมือนสุภาษิตว่าคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ เป็นเรื่องปกติ จะไปคิดอะไรมาก

- เคยคิดโกรธบ้างหรือไม่

จะไปโกรธได้อย่างไร ไม่เห็นจะต้องโกรธอะไร เราไม่เคยทะเลาะกับใคร ไม่เคยโกรธเกลียดใครเลยเหรอ มันก็ธรรมดา เขาพูดก็ต้องฟังเขาไป บางครั้งมันก็เป็นประโยชน์

- อย่าง ส.ส.ด้วยกันให้การยอมรับท่านมากน้อยแค่ไหน

ก็โอเคนะ... ก็เรามีเพื่อนเยอะ ส.ส. ในพรรคเพื่อไทยก็เยอะ แล้วการเมืองจะมาทะเลาะกันได้อย่างไร เพราะมันเป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

- ตอนนี้มีสถานภาพ ส.ส.แล้ว เห็นว่า ส.ส.ไทยควรปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง

มันมีหลายอย่าง ส.ส.ในบ้านเรา ควรนำหลักการของนักการเมืองมา ใช้เป็นแนวคิดในการปฏิบัติ

เพราะนักการเมืองจะต้องทำเพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติเป็นหลัก บนพื้นฐานของอุดมการณ์ คุณธรรม จริยธรรม

- คิดว่าคุณธรรม จริยธรรม ในด้านไหนที่ ส.ส.ควรมี

ทุกคนจะต้องมีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ฝ่ายนิติบัญญัติทำอย่างไรให้ผล ที่มันออกมานำไปสู่การพัฒนาประเทศให้ประชาชนมีความสุข มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นหน้าที่ของ ส.ส.จะต้องพยายามทำ แต่หากมีนักการเมืองคนไหนที่ทำหน้าที่ไม่ตรง เราก็จะเสนอแนะ แต่ไม่ถึงกับขั้นตักเตือน

- มองรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างไร

ก็โอเคนะ รัฐบาลเพิ่งมาเป็นใหม่ ๆ นโยบายที่แถลงไว้ก็ถือเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน ก็ต้องให้ทดลองทำงานดู แล้วเราก็คอยตรวจสอบ ขณะนี้ต้องปล่อยให้เขาทำงานไป

- ให้เวลารัฐบาลทำงานกี่เดือน

ไม่ได้ให้เวลา แต่ตัวเราเองมองทุกปัญหาที่รัฐบาลทำ เพราะนโยบายให้ดีอยู่แล้ว สิ่งที่รัฐบาลทำสอดคล้องกับ ข้อเท็จจริงไหม สอดคล้องกับนโยบายไหม สอดคล้องกับประชาชนหรือไม่ถ้าไม่สอดคล้องเราก็ต้องเสนอแนะไปบอกรัฐบาลว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง

- รัฐบาลถูกฝ่ายค้านโจมตีว่า นโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาไม่ตรงกับที่หาเสียงไว้

ตรงนี้ (นิ่งคิด) เป็นกลยุทธ์ที่เขาหาเสียง แต่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในเรื่องแนวนโยบายของรัฐบาล

- อนาคตหากเพื่อไทยขอ 2 เสียงของมาตุภูมิไปร่วมรัฐบาล จะยินดีหรือไม่

เรื่องพวกนี้ต้องคุยเรื่องใหญ่ ส่วนตัวไม่กล้าไปตัดสินใจเรื่องนี้ เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกรรมการพรรค

- พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคีที่มาจากไทยรักไทยที่ถูกรัฐประหาร แต่ชนะเลือกตั้งได้กลับมาเป็นรัฐบาล มองเรื่องนี้อย่างไร

มันขึ้นอยู่กับประชาชน เมื่อประชาชนตัดสินใจอย่างไรก็ต้องยอมรับผลการตัดสินใจนั้น เราไม่มีสิทธิ์ไปมองว่าอันนั้นถูก อันนี้ไม่ถูก หรือผิด ประชาชนรู้ เมื่อประชาชนรู้เขาถึงเลือก เพราะฉะนั้นจากนี้ไปถึงเวลาที่ประชาชนจะเฝ้ามองรัฐบาลว่าทำเพื่อประชาชนหรือทำเพื่ออะไร

- เวลานี้เริ่มมีการจุดประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

มันต้องยอมรับความเป็นจริงอันหนึ่ง เมื่อเวลาเปลี่ยนไปอะไรก็เปลี่ยนได้หมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ วันนั้น เวลานั้นเป็นอย่างนี้ พอถึงสถานการณ์ตอนนี้มันควรเป็นอย่างนี้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของมัน

- พรรคเพื่อไทยให้เหตุผลว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2550 เพราะมันเป็นมรดกของการรัฐประหาร

อันนั้นมันเป็นเทคนิค มันเป็นกุศโลบาย เป็นเรื่องของการหาทางที่จะพูดคุยมากกว่า

- ในฐานะที่เป็น ส.ส.1 ใน 500 คน สมควรหรือยังที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ

การจะแก้รัฐธรรมนูญ มันต้องถามว่าแก้ไขในสภาทำได้ไหม ประชาชนคิดเห็นอย่างไร มันต้องช่วยกันคิดทุกส่วน เพราะประชาชนเป็นผู้เลือก ส.ส.เข้ามา แม้ ส.ส.ที่เข้ามาจะมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่เขาต้องฟังประชาชน ซึ่งประชาชนจะเป็นตัวชี้วัดอยู่ข้างหลัง นักการเมืองก็ต้องฟัง หากเขาอยากทำอะไรที่ไม่ฟังเสียงประชาชน อย่าลืมว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าเขาจะลำบาก ส.ส.นักการเมืองก็ต้องคิดตรงนี้

- มาตราไหนไม่เหมาะสมกับสถานการณ์และจำเป็นจะต้องแก้ไข

คิดว่าสิ่งไหนที่ไม่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ จะต้องมีการพัฒนาก็ต้องว่ากันไป เช่น แก้ไขเรื่อง ส.ว.สรรหา อย่างนี้ก็ต้องขึ้นกับที่ประชุมสภาว่า ส.ส.จะคิดอย่างไร เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส.ไม่ได้มีส่วนอย่างเดียว แต่ ส.ว.ก็จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไข

- เป้าหมายรัฐบาลอย่างหนึ่งคือ แก้ไข หรือตัดทิ้งรัฐธรรมนูญมาตรา 309 ที่ถูกมองว่าเป็นมาตราแห่งการนิรโทษกรรม

ก็แล้วแต่...เราไม่มีความเห็นเรื่องนี้

- จะทำให้คณะกรรมการ้การตรวจสอบ "ทักษิณ" ถูกล้างไปหมดหรือไม่

มันย้อนอดีตได้เหรอ กฎหมายมันย้อนอดีตไม่ได้ มันต้องพูดถึงปัจจุบัน กฎหมายส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนี้ ต้องไปดูในกฎหมาย

- ถ้าหากตัดมาตรา 309 จะทำให้คดีต่าง ๆ ที่เสนอโดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) จะเป็นโมฆะ ไม่เอาผิด ได้เลย

อันนี้ต้องดูเรื่องกฎหมาย แต่เราไม่มีความเห็น

- เวลานี้มีประเด็นนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

โอเค...มันก็เป็นสิทธิของประชาชน ของผู้แทนประชาชน ส่วนตัวไม่มีความเห็น

- จำเป็นต้องทำประชามติเพื่อขอความเห็นสำหรับนิรโทษกรรมหรือไม่

มันก็เป็นวิธีการ เพราะรัฐธรรมนูญ 2550 มันเป็นประชามติของประชาชน มันก็แล้วแต่เขาจะใช้วิธีการอย่างไร ก็ต้องฟังด้วย

- พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน ส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลว่า จะต้องนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา ดำเนินคดีในประเทศไทย ในฐานะที่มาตุภุมิเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นด้วย หรือไม่

เราบอกแล้วว่าบางเรื่องเราเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย และเป็นเรื่องของประชาชน เราไม่สามารถตอบได้

- มองว่าหนทางปรองดองในประเทศ จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ อย่างไร

ก็แล้วแต่นายกรัฐมนตรีคนเดียวว่า จะปรองดองได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับท่าน ต้องดูกันว่าท่านเดินไปอย่างไร

- การทำงานของพรรคมาตุภูมิในฐานะฝ่ายค้านเป็นอย่างไร

เราคุยกับ 3 พรรค คือ พรรครักประเทศไทย พรรครักษ์สันติ และพรรคมาตุภูมิ จัดเป็นกลุ่มพรรคเดียว เพื่อทำงานร่วมกันให้เกิดประโยชน์ กับประชาชน อาจไม่ตรงกับเรื่องของบางฝ่าย แต่เราร่วมกันด้วยเหตุผล

นโยบายเราคือสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ทั้ง 3 พรรคจะเดินไปด้วยกัน ขับเคลื่อนไปด้วยกัน

- มีวิธีหาข้อมูลตรวจสอบรัฐบาลอย่างไร

เรามีคณะกรรมาธิการอยู่แล้ว ทุก คนจะเข้าไปอยู่ในคณะกรรมาธิการที่ ดูแลด้านใดด้านหนึ่ง รัฐธรรมนูญก็เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองสามารถรวมกลุ่มเพื่อต่อรองเลือกคณะกรรมาธิการได้ เราพร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

- 2 เสียงของมาตุภูมิทำอะไรได้หรือไม่

มันอาจจะน้อยไปหน่อย

- จะแก้ไขปัญหาตรงนี้อย่างไร

ส่วนตัวมองว่ามีหลายอย่างที่เป็นปัจจัยทำให้ได้แค่ 2 เสียง เพราะพรรคใหญ่เขามีบทบาทในการดำเนินการทางการเมืองอยู่แล้ว เป็นลักษณะของการชี้แจงประชาชน มีอัตราต่อรอง มีแรงจูงใจสูงกว่าพรรคเล็ก

- แสดงว่าต้องปรับยุทธศาสตร์การจูงใจประชาชน

มันมีวิธีการของมัน อย่างพรรคเล็ก ๆ ก็ประสบความสำเร็จ เช่น พรรคพลังชล พรรคชาติไทยพัฒนา ฉะนั้น เราพยายามหาหนทางของเราที่จะเดินต่อไปในวันข้างหน้า โดยเราจะนำสูตรของพรรคต่าง ๆ มาปรับใช้ให้เป็นวิธีการของพรรคมาตุภูมิ โดยเราจะเก็บสิ่งที่ดีของแต่ละพรรคมาใช้

อย่างพรรคของคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนสนใจเป็นเอกลักษณ์ของคุณชูวิทย์ แต่ของเราคงเป็นอีกสไตล์หนึ่ง

- จะสร้างแบรนด์ของตัวเองอย่างไร

คงต่างกับของคุณชูวิทย์ เพราะ แบรนด์ของเราเป็นแบบนั้นไม่ได้ คนละรูปแบบ

- สไตล์การทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคมาตุภูมิจะนำมาศึกษาด้วยหรือไม่

ก็ใช่ เพราะเป็นพรรคการเมืองที่ยาวนาน ต้องดูว่าเขามีกุศโลบาย มีเทคนิคอย่างไร

- วางแผนเดินเกมในสภาแบบไหน

โอ้...มาตุภูมิเป็นพรรคเล็ก เราก็ศึกษาหาความรู้ไปว่า คณะกรรมาธิการเราจะช่วยเขาตรงไหน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง