หมวด : การเมือง
พิมพ์หน้านี้ โหวต 9 คน
คุณกำลังประสบปัญหานี้ใช่หรือไม่?
- คุณไม่เข้าใจ ว่า ทำไมคนเล่นการเมืองแค่ 2 เดือน ถึงได้เป็นนายกฯหญิงคนแรกของประเทศ ทั้งที่ผู้หญิงคนนี้ยังไม่เคยผ่านงานการเมืองแม้แต่ระดับตำบล ยังไม่เคยโชว์วิสัยทัศน์ ไม่ดีเบต ไม่ชี้แจงอะไรทั้งนั้น ไม่แสดงกระบวนการทำงานของระบบต่างๆในสมองเธอ ว่าปราดเปรื่องสมกับที่เราจะวางใจให้เป็นผู้กำหนดชะตาประเทศได้..?
- คุณงง กับ นโยบายที่พรรคการเมืองบางพรรคหาเสียง ขนาดยังไม่ได้ผ่านการศึกษาว่ามันจะเป็นไปได้ ไม่มีแผนระยะสั้น กลาง ยาว ไม่ชี้แจงวิธีหาเงินเข้าประเทศเพื่อจะนำไปสนับสนุนให้นโยบายลดแลกแจกแถม เหล่านั้นให้เป็นจริง โดยที่ไม่ส่งผลกระทบในทางลบกับระบบการเงิน เศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย และวินัยทางการคลังฯของแผ่นดิน มีเพียงแต่วาทะ พูดๆๆๆ และพูดไป แต่กลับได้รับเลือกให้เป็นเสียงข้างมากของประเทศ และมากถึง 15 ล้านเสียง... ??
- ต่อจากด้านบน.... คุณไม่อยากจะเชื่อ ว่า ทำไมคนไทย 15 ล้านคนนั้นคิดเองไม่ได้ หรือไม่ได้คิด หรือมีข้อมูลไม่เพียงพอ ที่จะรู้ว่าไอ้ที่พรรคการเมืองบางพรรคโฆษณาปาวๆนั้น มันเป็นเพียงแค่ "เทคนิคการหาเสียง" มิใช่สัญญาประชาคมแบบประเทศเจริญแล้วเขามี Commitment ต่อสังคม ส่วนใครที่คิดเองได้และกำลังถามหาความรับผิดชอบ ก็ยังงงๆว่าไม่รู้จะเรียกร้องได้กับใครหรือหน่วยงานใด ... ??!!
- คุณสับสน วุ่นวายใจ ที่อยู่ดีๆไอ้พวกที่คุณเห็นว่าเป็นอันทพาล เผาบ้าน ผลาญเมือง กำลังจะกลายเป็นเสนาบดีปกครองแผ่นดินในอีกไม่กี่วัน...??
- คุณข้องใจ มา นานแล้วว่าทำไมคนระดับรองนายกฯ ไปประกันตัวให้พวกอันทพาลด้านบนนั่น ออกมาจากคุก ทั้งๆที่มีทั้งพยานหลักฐานมากมาย ว่าที่ๆไอ้อีพวกนั้นควรซุกหัวอยู่คือเรือนจำ ไม่ใช่รัฐสภาหรือทำเนียบรัฐบาล และอีกไม่นานทั้งท่านรองฯผู้ทรงเกียรติและมีเมตตา ก็กำลังจะได้ใช้ภาษีของเรา บริหาร (ผลาญ) ประเทศร่วมกับพวกมัน..??
- คุณคิดไม่ถึง ว่า เอกสิทธิ์ของการเป็น ส.ส. มันยิ่งใหญ่คับฟ้าจนไม่มีใครหรือกฎหมายใดทำอะไรไอ้พวกสารเลวเหล่านี้ได้เลย หรือ (เฉพาะที่เลวๆ ถ้าไม่เลวอย่าเดือดร้อน) การเป็นส.ส.สามารถปลุกระดมคนให้ปิดถนน บุกโรงพยาบาล ให้เผาศาลากลาง เผาห้าง เผารถเมล์ วางเพลิงธนาคาร ขนรถแก็สขู่ประชาชน หรือแม้กระทั่งจาบจ้วงบุคคลที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติได้เลย นี่มันเอกสิทธิ์ส.ส. หรือเอกสิทธิของซาตานกันแน่ งงไหม..?
- คุณจำใจ ที่ จะต้องเชื่อว่าคนที่โดนศาลสูงสุดของประเทศ ตัดสินว่าให้มีความผิดในคดีแพ่งและอาญา มีโทษจำคุก 2 ปี แต่กลับเป็นผู้มีอิทธิพลคับฟ้า สามารถกำหนดชะตาประเทศชาติของเราได้ ทั้งๆที่เขาหรือมันผู้นั้นยังไม่ได้แม้แต่เหยียบบนแผ่นดินไทย
- คุณไม่รู้ ว่า ทำไมคนไทยส่วนใหญ๋ ไม่เข้าใจคำว่า "ประชาธิปไตย" มันแปลยากตรงไหน ทำไมคนนับแสน นับล้านจึงเข้าใจว่าถ้าเราพวกเยอะกว่า เราสามารถปิดซอยแถวบ้านเพื่อทำกิจกรรมอะไรสักอย่าง คนแถวบ้านจะออกไปไหนไม่ได้ก็ช่างหัวมัน ไม่ใช่เพราะคนในซอยมีพวกน้อยกว่า แต่เพราะเขาไม่อยากออกมาวุ่นวาย ไม่อยากหาเรื่อง ไม่อยากเจ็บตัว พวกเราที่มีมากจึงสามารถริดรอนสิทธิของใครก็ได้ โดยใช้คำว่า "ประชาธิปไตย" บังหน้า และถ้าคนแถวบ้านเรากล้าหือ เราก็สามารถเข้าไปปล้นของบ้านมัน จุดไฟเผาบ้านมันได้เลย และถ้ามันจะยิงเราเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน คนที่ผิดคือมันไม่ใช่พวกเรา เพราะพวกเราเยอะกว่า ถ้าตำรวจจะมาจับเราเข้าคุกพวกเราอีกฝูงก็จะต้องเรียกร้องความยุติธรรม เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการ "ปรองดอง" มิอย่างนั้นเราจะปิดซอยอีกรอบ เพราะพวกเราเยอะกว่า (อีกแล้ว) .... อย่างนั้นหรือ...??
- สุดท้าย คุณท้อใจ (คน เขียน Blog ท้อมาก ยังมึนมาถึงวันนี้) ... ว่าทำไมพรรคที่ส่วนใหญ่มีแต่คนดีๆ มีฝีมือ มีผลงาน มีการศึกษา นานาชาติให้การยอมรับ เชิญไปเป็นผู้นำองค์กรระดับชาติไม่รู้กี่องค์กรแล้ว ทำไมไม่สามารถชนะการเลือกตั้งกับพรรคการเมืองที่มีแต่กุ้ยได้ เราติดตามการเมืองมานานแล้ว ได้เห็นพฤติกรรมอันไม่น่าจะเรียกว่าผู้ทรงเกียรติ วินมอไซค์ปากซอยบ้านเราบางคนยังสุภาพมากกว่าไอ้สส.ถ่อยพวกนี้อีก แต่ประหลาดใจ แปลกใจ หดหู่ใจมาก ที่วันนี้มันยังคงได้รับเลือกตั้งเข้าไปเป็นฝ่ายบริหารของบ้านเมือง ถ้าเป็นที่อเมริกาหรืออังกฤษที่เราไปลอกเลียนแบบการปกครองระบอบนี้มาจากเขา อย่าว่าเป็นผู้แทนราษฎรเลยค่ะ แค่ยามทำเนียบไอ้ถ่อยพวกนี้จะ Qualify หรือเปล่ายังไม่แน่ใจ...... โอ้ พระเจ้า นี่ฉันกำลังฝันร้ายอยู่ใช่ไหม ..??
เอาเถอะ ค่ะ ก่อนที่จะงงไปมากกว่านี้ ผู้เขียนขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันคือ หากคุณจะเลือกคนหรือปัจจัยอะไรสัก 3-4 กลุ่ม แล้วช่วยวิเคราะห์ทีว่าหรืออะไรกันแน่ที่เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้บ้านเมือง เราต้องเป็นแบบนี้ ระหว่าง
- ทักษิณกับเสื้อแดง
- นักการเมือง
- การศึกษาของคนในชาติ
- อำมาตย์ (เอากะเขาหน่อย) และสุดท้าย
- สื่อมวลชน .....???
เพื่อไม่เป็นการเยิ่นเย้ออีกต่อไป (จริงๆพี่สาวไล่ที่แล้ว) ขอแสดงความเห็นในทัศนะ "ของผู้เขียน" ว่าทุกคนหรือทุกอย่างตั้งแต่ข้อ 1-5 ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้น จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่สถานการณ์ แต่ที่ควรจะถูกตำหนิมากที่สุด (ย้ำอีกทีว่าในทัศนะของผู้เขียน) คือ "สื่อมวลชน" สื่อมวลชนนี่แหละตัวดี Play Save ตลอด ไม่ทำหน้าที่ของตนเองให้เต็มที่ ทั้งๆที่พวกคุณก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ใกล้ชิดข่าวสารความเป็นจริงมากกว่าประชาชนทั่วไปอย่างเราๆไม่รู้กี่เท่า ถ้าบ้านเราเต็มไปด้วยสื่อมวลชนที่มีจรรยาบรรณ มีอุดมการณ์อย่างแท้จริง ทุกอย่างจะไม่เลวร้ายแบบนี้แน่นอน ต่อให้ 10 ทักษิณ อีกล้านเสื้อแดงสมองฟองน้ำ ไร้สติเหมือนซอมบี้ หรืออีกร้อยนักการเมืองเลวชาติชั่วขนาดไหน ก็จะไม่ทำให้สังคมเราย่อยยับได้ขนาดนี้ หากพวกคุณได้ตระหนักหน้าที่ของตัวเองอย่างแท้จริง
กรณี ที่คุณประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ อดีตบรรณาธิการเฉพาะกิจสำนักพิมพ์มติชน ถูกเลิกจ้างนั้นไม่ได้ทำให้คนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองแปลกใจเลย ตอนที่ได้อ่านบทความ "คำถามที่ยิ่งลักษณ์ยังไม่(กล้า?)ตอบ" ของคุณประสงค์ ผู้เขียนยังคิดในใจว่านี่จะเป็น เรื่องที่นำความเดือดร้อนให้คุณประสงค์หรือไม่ และแล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้ก็เกิดขึ้นจริง ... ในส่วนตัวแล้วถ้าจะซื้อมติชนอ่าน คอลัมม์ของคุณประสงค์ก็จะเป็นเพียงกระดาษไม่กี่แผ่นที่ผู้เขียนให้ความสำคัญ และเปิดอ่านก่อนหน้าไหนๆ อ่านจบแล้วก็เอาที่เหลือไปฉีกเช็ดกระจกได้เลย ไม่ว่ากัน ก็ดีค่ะ...คนดีไม่มีที่อยู่แบบนี้ก็ดี คนอ่าน (ที่ดีๆ) ก็จะได้ไม่ต้องฝืนใจอุดหนุนสิ่งพิมพ์ในเครือนี้อีกต่อไป
ที่ขอกล่าวหารุนแรงว่าสื่อเป็นสาเหตุสำคัญนั้น ผู้เขียนมิได้มิอคติแต่อย่างใด เพียงแต่ บ้านเมืองเรายังอยู่ประเทศในกลุ่มโลกที่สาม ยัง มีคนค่อนประเทศที่ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมนายทุนหรือบริษัทฯที่จัดตั้งในรูปของพรรคการเมือง มีคนอีกค่อนประเทศที่ยังเชื่อว่าสิ่งชั่วร้ายนั้นเป็นสิ่งดี ไม่ใช่เพราะพ่อแม่พี่น้องร่วมชาติของเรานิสัยไม่ดีหรือไร้การศึกษา แต่พวกเขาได้รู้ได้ยินในสิ่งที่ผิดเพี้ยนไป ข้อมูลเลวๆโดนป้อนเข้าสมองคนรากหญ้าในประเทศเรามากกว่า 10 ล้านคน เป็นเวลายาวนานกว่า 5 ปีแล้ว โปรดอย่านิ่งเฉยกันอีกเลยค่ะคุณสื่อ ผู้เขียนทราบดีว่าทุกคนต้องทำมาหากินเพื่อเลี้ยงปากท้อง แต่การที่คุณเลือกแล้วว่าจะยึดอาชีพนี้ก็ขอเพียงให้ทำหน้าที่ของคุณอย่างมี จรรยาบรรณ มีอุดมการณ์ อย่าใช้อาชีพนี้เพียงเพื่อแลกกับเงินเจือจุลตัวคุณและครอบครัว ขอให้รับรู้และภูมิใจว่าคุณกำลังได้ทำหน้าที่ๆมีความสำคัญต่อบ้านเมืองของ เรามากๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ เหมือนที่ทหารหรือตำรวจ เขาเองก็เลือกแล้วว่าพร้อมจะตายเพื่อรักษาแผ่นดินเกิด หากท่านเลือกแล้วว่าจะเป็นสื่อมวลชน ก็ขอจงทำหน้าที่ของท่านให้สมเกียรติเช่นกัน และหากมีสื่อท่านใดที่กรุณาให้เกียรติมาอ่านบทความนี้ แล้วกำลังคิดว่า...
"ใช่ซี้ แกมันก็แค่คนเขียน blog มันก็ได้แต่เขียน ถ้าฉันทำตามจรรยาบรรณแล้วเดือดร้อน พวกแกจะมาเดือดร้อนแทนฉันหรือเปล่า"
ใน การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา หากประเทศไทยเป็นเหมือนอเมริกา หรือสื่อแถบยุโรปซึ่งเป็นประเทศต้นตระกูลของผู้เขียนเอง (ที่อ้างถึงเพราะ อยากบอกท่านว่าพอรู้และสามารถเปรียบเทียบได้) เขาจะออกมาเลือกข้างให้เห็นกันชัดๆเลยว่าใครเป็นยังไง มีนโยบายอะไร มีแผนระยะกลางและแผนระยะยาวในการวางรากฐานประเทศต่อไปอย่างไร ประวัติของ Candidate ผู้นำแต่ละคนของเขาขาวสะอาดแค่ไหน ทีมงานหรือทีมบริหารประเทศในอนาคตมีหน้าตาเป็นอย่างไร มีสรรพคุณดีเด่นหรือเกียรติประวัติควรเชิดชู ด่างพร้อยหรือไม่อย่างไร ... เมื่อเขาซักจนเข้าใจแจ่มแจ้ง หนังสือพิมพ์หรือสื่อข่ายนั้นก็จะทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ของพรรคการเมืองที่เขาเห็นด้วย และมีเหตุผลรองรับ 108-1009 ประการ สื่อต่างข่ายกันบางทีเป็นศัตรูขายข่าวแข่งกัน แต่พอเขาเห็นตรงกันว่านโยบายของพรรคนี้ OK กลายเป็นสื่อที่สนับสนุนพรรคการเมืองเดียวกัน เรื่องพวกนี้ก็มีให้เห็นบ่อยๆ บางทีนักข่าวยังตอบคำถามเรื่องนโยบายที่ซับซ้อนบางนโยบายแทนผู้สมัครส.ส. ได้แบบฉะฉาน นั่นเพราะเขาศึกษามาแล้วว่าดีจริง ควร Support พรรคนี้หรือคนนี้
ถึง แม้ว่าทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกัน แต่จะมีอาชีพไหนที่สามารถเป็นกระบอกเสียงได้เท่าพวกคุณ ทักษิณยังรู้ว่าถ้าคุมสื่อได้ ก็คุมทุกอย่างได้หมด กราบเถอะคะ ขอร้องเถอะ ช่วยกันแฉ เปิดโปง ใครดีก็ว่าดี ใครเลวก็ขุดคุ้ยความเลวหรือความไม่ชอบมาพากลให้ประชาชนได้เห็น ช่วยกันอย่างเป็นระบบและให้นานพอ ต่อให้บ้านเราจะมีนารีขี่ควายแดง หรือเศรษฐีชั่วๆสักอีกกี่คน ก็รับรองได้ว่าไม่ได้ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นของสื่อแน่ๆ บ้านเราจะเจริญรุ่งเรืองด้วยฝีมือและการร่วมแรงร่วมใจของทุกคน
สุดท้าย : ด้วยจิตคารวะต่อสื่อมวลชนไม่กี่ท่าน ผู้เขียนขอชื่นชมในความกล้าหาญและมีจุดยืนที่ตรงข้ามกับพวกนักการเมืองเลวมาโดยตลอด อาทิ
ปล. ก่อน หน้านี้เห็นพี่นักเขียนกว่าร้อยชีวิต ไปลงชื่อขอแก้ไขมาตรา 112 อันที่จริงผู้เขียนก็เป็นแฟนผลงานของหลายๆท่านนะคะ แต่มาตรา 112 น่ะ ถึงแม้ว่าจะเข้าใจว่าท่านเจตนาดีแต่มันไม่น่าจะใช่เวลาและกาละเทศะอันสมควร เลยที่จะมาทำแบบนี้ (คือแปลตรงๆก็คือไม่ต้องไปรวมตัวกันก็ได้ คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้หนักกบาลที่มีมาตรานี้ค่ะ) ดังนั้น ในฐานะผู้ติดตามผลงาน อยากเรียกร้องให้ท่านรวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อรณรงค์เปิดโปงนักการเมืองชั่วๆดีกว่าค่ะ อันนี้เราเดือดร้อนมากและหนักกบาลเรามากกว่า 112 ไหนๆก็ไหนๆ ถ้าอยากยกเลิกรัฐธรรมนูญอะไรสักมาตรา ขอเป็นมาตราเรื่องเอกสิทธิ์คุ้มกะลาหัวส.ส.เลวๆจะดีกว่า สัญญาว่าจะช่วยสนับสนุนอย่างเป็นทางการ และซื้อผลงานของท่านไม่ต่ำกว่า 2 เล่ม (อ่านเล่มเก็บเล่ม) พูดจริงๆนะเนี้ยะ ^^
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น