เกมเหลี่ยมซื้อเวลายั่วยุ ถือ'คนมีสี'เป็นพรรคร่วม รอ'สฤษดิ์น้อย'ตบะแตก กับแผน2หาตัวแทนปูกิ๊
เป็นที่ “ขำกลิ้ง...ลิงกะหมา” เมื่อ “เจ๊ปูกิ๊” พยายามออกมาบอกต่อพี่น้องประชาชีว่า “พี่ชายเหลี่ยมจัด” ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลโคลนนิ่ง เรียกว่า...เรื่องแบบนี้ “พูดได้แบบต่อยหอย” แต่ดันไม่มีคนเชื่อ เพราะรู้ทั้งรู้ว่า “จอมโกงเหลี่ยมจัด” ที่เวลานี้ไปซุกตัวอยู่ในยุโรป พร้อมกับเดินแผน “โลกล้อมไทย” ทั้งบนดิน-ใต้ดิน...ชนิดที่ “ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม” ที่ไหน...กำลังกำหนด “ตัวละคร” ที่จะมาเป็น “นอมินี” ในการทำงาน
แม้แต่ “เด็กสร้าง” ของ “ชายหวานเจี๊ยบ” ยังเผลอหลุดปากออกมาเองว่า ใครอยากได้เก้าอี้ต้องวิ่งไปหา “คนต่างแดน” เพราะเป็น “ธรรมเนียม” ที่ทำกันมา...555
เรื่องแบบนี้เข้าตำรา “ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือเดียว” ไม่ ได้...เพราะบรรดา “ก๊วนต่างๆ” ที่เข้าไปหานั้น หากไม่วิ่งไปขอตำแหน่ง ก็เป็นพวกที่ให้ “ข้อมูล-แนวคิด” ว่า “อะไรควร-อะไรไม่ควร” เพราะบทเรียนในอดีตก็มีให้เห็นแล้วว่า “ทำตัวเด่น...จะมีภัย” นั้นเป็นอย่างไร
จึงได้ยินเสียงแว่วจาก “คนแดนไกล” ว่า กลับมาหนนี้...จะไม่รีบ ร้อน “กระทำ” หรือ “ล้างบาง” โดยเฉพาะกับพวกขาใหญ่ที่เป็น “โจทก์เก่า” ทั้งหลาย แต่อันไหนที่ตัดไฟเสียแต่ต้นลมได้ ก็จะเร่งทำแบบฉับพลันทันที...นั่นคือการปิดปากสื่อตรงข้าม...ที่ไร้ทางสู้
ไม่แปลกหรอก...ที่พอได้ชัยชนะ “เครือข่ายวิทยุชุมชน” ของ “ชายปากห้อย” จะโดนเชือดเป็นเจ้าแรก ตามติดด้วย “คู่กัดเจ้าเก่า” ที่คอยตามแคะ-ตามคุ้ยเรื่องซุกหุ้น ซึ่งโดนแรงบีบ-แรงเค้น ห้ามเขียนบทความด่า ก็หันไปเปิดเว็บไซต์ส่วนตัว แต่ก็ตามลากไส้ไม่เลิก จึงมีประกาศิตให้ “เจ้านายแห่งค่ายประชาชื่น” จัดการ…เพื่อแลกกับเศษเงินที่จะตอบแทนด้วย “ค่าโฆษณา” ก็ไม่ว่ากัน แต่ก็พิสูจน์ชัดๆ ว่า “ลมปาก” ที่ใครเคยบอก “ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไข” นั้น...เหม็นเน่าเพียงใด???
แต่ที่จะต้องรอคอยอย่างอดทนก็คือ เคสของ “สฤษดิ์น้อย” ที่ยังกุมอำนาจใหญ่ของ “คนสีเขียว” อยู่ เพราะหากสุ่มสี่สุ่มหก...ก็จะตกคะเมนตีลังกา ก่อนเวลาอันควรได้...งานนี้จึงมีเสียงกระซิบบอกต่อๆ กันว่า ถ้า “รัฐบาลปูกิ๊” ได้ถืออำนาจจริงๆ จังๆ ก็จะปล่อยให้ “สฤษดิ์น้อย” ถือครองอำนาจต่อไป
โดยจะใช้สูตรพิมพ์นิยมที่ “พวกซ้ายจัด” ได้บอกไว้ก็คือ “รอคอย...ด้วยความอดทน” และคิดแบบเข้าข้างตัวเองเพื่อความสบายใจว่า “คนมีสี(เขียว)” ก็คือ “พรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง” ก็เท่านั้น เพราะรู้ดีว่า ถ้าเล่นบทแตกหัก เด้งดึ๋งๆ ดี-ไม่ดี คนที่เด้งดึ๋ง...อาจเป็นพวกตูเองก็ได้
เหตุเพราะว่า โครงสร้างของคนมีสี(เขียว) นั้นผูกโยงกับ “การปกป้องเบื้องสูง” ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่จะ Take Action ก็ทำได้ลำบาก แต่สำหรับสังคมไทย “การปกป้องสถาบันอันเป็นที่เคารพ” ยังเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นหน้าที่ของ “คนมีสี(เขียว)” เพราะในรัดทำมะนวยทุกๆ ฉบับก็เขียนกำกับไว้ชัดเจน ดังนั้น...ถ้าแตะแบบไร้เหตุไร้ผล จุดเดือดก็มีสิทธิ์พุ่งได้เร็วขึ้น
ไม่แปลกที่ก๊วนเหลี่ยมจัด จะหันมาเดินหน้าเล่นเกมใต้ดินยั่วยุให้ “ตบะแตก”...เพื่อลดความน่าเชื่อถือ และสุดท้ายจะสิ้นอำนาจด้วย “การกระทำ-คำพูด” ของ “ตัวสฤษดิ์น้อย” เอง และเกมที่แหย่ได้มันส์ที่สุดก็คือ “เครือข่ายโซเชียล เน็ตเวิร์ค” ทั้งเฟซบุ๊ค-ทวิตเตอร์-วิทยุชุมชน ที่กำลังทรงอิทธิพล และทรงอานุภาพสุดๆ เพราะไม่มีขีดจำกัดในการรุมถล่ม พ่วงด้วย “สื่อในเครือข่าย” ที่จ้องเหน็บแนม ตอดเล็กตอดน้อยตลอด
และเพียงแค่เริ่มต้น...อาการน็อตหลุดของ “สฤษดิ์น้อย” ก็ฉายแววให้เห็น ด้วยการเบรกแตกด่าสื่อ...ซึ่งก็เข้าเกมจอมโกงเหลี่ยมจัด...ที่ต้องการให้ “ภาพ” มันออกมาเป็นเช่นนี้จริงๆ งานนี้หาก “คนใกล้ชิดสฤษดิ์น้อย” ไม่รู้จัก “สะกิด” เตือน “นาย” ก็ให้ระวังจะสายเกินแก้ หลงไปเข้าทางเหลี่ยมจัด
อย่าลืมว่า “จอมโกงเหลี่ยมจัด” นั้น...ไม่ได้เก่งกาจ-สามารถอะไรนักหนา แต่รู้จักเลือกใช้ “รูปแบบ-วิธีการ” ด้วยวิธีการผสมผสาน หยิบของคนโน้นมาหน่อย-ลอกของคนนี้มานิด แล้วเอามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับ “รากหญ้าไทย” ที่ลากจูงกันได้ง่าย
ย้อนรอยให้ดูอีกนิดก็ได้ว่า รูปแบบในการรวบรวมพรรคการเมืองต่างๆ มาอยู่ด้วยกันในสมัย “ทุยรักทุย” นั้น...เพื่อให้เป็น “เสียงข้างมากพรรคเดียว” ก็ลอกแนวทางมาจาก “พรรคอัมโน” ของ “มหาเธร์” รวมถึงการลดบทบาทของ “สุลต่าน” จนในที่สุด “สุลต่าน” ที่เคยยิ่งใหญ่ในมาเลย์...ก็หมดอำนาจ เป็นเพียงแค่ “สัญลักษณ์” เท่านั้น
ส่วนแนวคิดในการจัดการ “คู่ต่อสู้-คู่กัด” แบบไม่ให้ผุดให้เกิด ทำทุกทางที่จะ “ขจัดให้สิ้น” ก็ยืมมาจาก “สิงค์โปร์” ที่ “พรรคฝ่ายค้าน” โดนรุมกระทำ...จนอ่อนเปลี้ย พร้อมๆ กับการก็อปปี้วิธีการหาเงิน ด้วยการใช้ “สัมปทานผูกขาด” เพื่อให้ตัวเองได้ร่ำรวยฝ่ายเดียว
หรืออย่าง “โอท็อป...ช็อปกระจาย” ก็ไปลอกมาจากญี่ปุ่นที่ทำสำเร็จมาแล้ว, ส่วนแนวคิด “เผด็จการนิยม” ก็เอามาจากฟิลิปปินส์, เคสขายชาติ-ขายทรัพย์สมบัติชาติ ก็ยืมมาจากเขมร, นโยบายถมทะเลก็ลอกเลียนแบบจากดูไบและสิงค์โปร์
เพียงแต่ว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ “ผู้คนไม่ค่อยรู้(จริง)” จึงไปให้ค่า-สร้างราคา ทำให้ “จอมโกง
เหลี่ยมจัด” หยิบฉวยมาเป็น “ผลงานให้ตัวเอง” จน “รากหญ้า” คิดว่าเป็น “ผู้วิเศษ” ที่จะเสกอะไรให้ก็ได้
บทเรียนของ “ยุคขิงแก่” กับ “ยุคหล่อเลื่อนลอย” เป็นเครื่องพิสูจน์ชัดว่า “รูปแบบเดินเกมเก่าๆ” ที่พึ่งพา “อำนาจพิเศษ” นั้น...จะใช้ได้ในช่วงระยะหนึ่งและใช้ได้เฉพาะกับ “คนบางกลุ่ม” เท่านั้น
แต่ตราบใดที่ “สัตว์มีเขา” ยังถูกเลี้ยงไว้ให้ไถนา...และมีมากในดินแดนหนึ่งที่มีพื้นที่กว้าง เมื่อถึงเวลาต้องไปทำงาน ก็จะถูกจูง...หันซ้าย-หันขวา...ได้เสมอ เมื่อเป็นเช่นนี้...ต่อให้มีการแข่งขันอีกกี่ครั้ง...ก็จะพบแต่คำว่า “แพ้พ่าย” ตลอดกาล ถ้าไม่รู้จักการปรับตัวและเอาใจเขามาใส่ใจเรา
ไม่ต้องคิดอื่นไกล...ช่วงหาเสียงก็เห็นๆ กันอยู่ว่า ยุทธวิธีที่ “เจ๊ปูกิ๊” แอ็คชั่น...ก็ถูกออกแบบ-เซ็ตอัพมาไว้แล้ว ทั้งรูปร่าง-ทรงผม-การแต่งกาย-การแสดงออก-การให้สัมภาษณ์ว่าควรพูดเรื่อง อะไรบ้าง ฯลฯ และทุกอย่างไม่มีการหลุดสคริปต์เลยแม้แต่น้อย ทำให้ไม่เดินเข้าไปสู่เกมยั่วน้ำลายที่ซีกแมลงสาปถนัด...สุดท้ายก็เห็น ผลลัพธ์อย่างที่รู้ๆ กัน
ที่น่าสนใจเวลานี้...อยู่ที่การฟอร์ม “ครม.ปูกิ๊” มากกว่า ว่าจะมีตะกวด-จำอวด...ทำให้ขายขี้หน้าหรือไม่ โดยเฉพาะกับ “เลขาฯ” ที่ถูกเรียกว่า “นายกฯน้อย” ที่ทรงอิทธิพลสุดๆ
ก็ลองคิดดูเพียงแค่เริ่มขยับ หลายคนที่เคยประเมินกันว่า น่าจะเป็น “คนผมขาว” ซึ่งเป็นคนสนิท-ลูกหม้อที่ทำงานกันมานมนานในบริษัทของคนเหลี่ยมจัดที่ถนัดแต่งาน “สัมปทานผูกขาด” จากภาครัฐ แต่ตอนนี้มีการ “ปล่อยของ” ออกมาใหม่ว่า จะเป็น “คนนอก” รุ่นหนุ่มๆ อายุ 40 กว่าๆ โดยเป็นคนที่ถูก “ส่งมา” จาก “อำนาจพิเศษ”
การปล่อยของครั้งนี้ก็เพื่อหวังสยบข่าว “จาบจ้วง-ล่วงละเมิด” พร้อมๆ กับแนวคิดที่จะให้ “คนผมขาว” ที่ว่านี้ไปคุมเกมในสภา เรื่องการยกมือ และเก็บไว้เป็น “SPARE” เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน...หากเกิดกรณี “น้องปูกิ๊” สะดุดขาตัวเอง ต้องกระเด็นกระดอน...ก็จะให้ “ลูกหม้อคนสนิทรายนี้” เขย่ง-ก้าว-กระโดด ขึ้นมาเป็น “นอมินีตัวสุดท้าย” แทน
เห็นหรือยัง...แค่ยังไม่เริ่มทำงาน ก็มีตัวตาย-ตัวแทน...เตรียมไว้แล้ว...555
………………….
คอลัมน์ “ซุบซิบไทยอินไซเดอร์”
โดย “ไต่กอ” |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น