จุดเปลี่ยนสำคัญที่พ.ต.ท.ทักษิณผิดเงื่อนไขกับกลุ่มว่าที่รัฐมนตรีคนนอกสายอำมาตย์ เริ่มจากผิดข้อตกลงเรื่องรมต.4 กระทรวงหลักและแนวทางปรองดอง
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเรื่องการจัดโผคณะรัฐมนตรี(ครม.)ครั้งหลังสุด เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2554 ในวันที่เธอได้รับเสียงโหวตจากส.ส.ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ของประเทศไทย โดยระบุว่า จะพยายามอย่างเร็วที่สุด ไม่เกินภายในอาทิตย์นี้ จะชัดเจนขึ้น
ทว่าสถานการณ์จริง นายกฯยิ่งลักษณ์ ก็คงไม่รู้ว่าโผครม.ที่นายกฯดูไบ จัดทำอยู่นั้น จะเสร็จพร้อมเสิร์ฟให้เธอเมื่อไหร่
ในเมื่อวันนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากแผนเดิม ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นพี่ชายของเธอวางไว้ เนื่องจากแคนดิเดทรัฐมนตรีคนนอก ในกระทรวงหลักสำคัญ ที่เคยตกลงกันไว้ล่วงหน้า ได้ทะยอยขอถอนตัวออกไปหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มที่โยงใยกับ "สายอำมาตย์"
เริ่มตั้งแต่หัวขบวนรายแรกที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทาบทามเอาไว้ก่อนการเลือกตั้ง คือ "วิชิต สุรพงษ์ชัย" ซีอีโอแบงค์ไทยพาณิชย์ ได้ถอนตัวจากแคนดิเดท รมว.คลัง ตามมาด้วย "อิสระ ว่องกุศลกิจ" ประธานกลุ่มมิตรผล ตัวแทนกลุ่มทุน"บ้านปู" ก็ถอนตัวจากแคนดิเดท รมว.พาณิชย์ ตามมาติดๆ โดยทั้งสองราย ถึงกับแจกเอกสารแถลงข่าว เพื่อแสดงความชัดเจนว่า ไม่ร่วมสังฆกรรมในครม.ชุดใหม่นี้อย่างไม่แคร์
นายกฯดูไบ จึงมีความพยายามจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการดึงคนใหม่เข้ามาเสียบแทน โดยเฉพาะปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการมอบซองรัฐมนตรีให้กับ "ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล" หรือหม่อมอุ๋ย อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เสียบแทน"วิชิต" ในตำแหน่ง รมว.คลังควบรองนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ทันข้ามวัน ปรากฎว่า "หม่อมอุ๋ย" ก็ได้ขอบาย...ถอยออกไปอีกราย
มิหนำซ้ำ เรื่องยังลุกลามไปถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)ที่เคยวางตัว ชญานินทร์ เทพาคำ ลูกชายลูกชายของ พล.ท.อัศวิน และท่านผู้หญิงสุวรี เทพาคำ อดีตนางสนองพระโอษฐ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเคยเป็นอดีตเลขานุการ รมว.ทส.ขณะที่ "ยงยุทธ ติยะไพรัช" นั่งอยู่ และยงยุทธนี่เอง เป็นผู้ทาบทามเข้ามา ในที่สุด ชญานินทร์ ก็ได้ถอนตัวออกไปเงียบๆ อีกราย
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ "รู้กัน" ระหว่างกลุ่มบุคคลที่ถอนตัวออกไป เนื่องจากไม่ไว้วางใจท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่บิดพลิ้วข้อตกลง ทั้งเรื่องตัวบุคคล แนวทางบริหารของรัฐบาล โดยเฉพาะแนวทางปรองดอง เนื่องจากสิ่งที่เคยพูดคุยกัน ไว้เริ่มไม่ชัดเจน
จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำผิดเงื่อนไขกับกลุ่มว่าที่รัฐมนตรีคนนอกสายอำมาตย์ ซึ่งเคยมีข้อตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะขอมีส่วนเลือกทีมที่ทำงานร่วมกันได้ ใน 4 กระทรวงหลักสำคัญ ว่าจะมีชื่อใครเป็นรัฐมนตรีบ้าง ดังนี้
รมว.คลัง คือ วิชิต สุรพงษ์ชัย รมว.พาณิชย์ คือ อิสระ ว่องกุศลกิจ รมว.พลังงาน ได้วางตัวประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ซีอีโอ ปตท.จำกัด มหาชน เอาไว้ และ รมว.การต่างประเทศ ได้วางตัว ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทยและอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นลูกชาย ปรีชา พหิทธานุกร อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ เอาไว้
ทั้งนี้เพื่อให้ภาพลักษณ์ของ ครม.ใหม่เป็นที่ยอมรับของสังคม และมีภาพของความปรองดองในทุกระดับและทุกภาคส่วน
แต่เอาเข้าจริง ปรากฏว่า โผ ครม.ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไม่เป็นไปตามหลักการและแนวทางที่เคยพูดคุยกันไว้ จึงทำให้ "วิชิต"และ"อิสระ" ถอนตัวออกไป โดยที่ 2 รายหลัง ทั้ง "ประเสริฐ" และ "ปานปรีย์" ก็ยังไม่ได้ถูกทาบทามให้เข้ามารับตำแหน่งตามที่วางเอาไว้
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ จึงทำให้โผครม.ที่คาดว่ามี "ดรีมทีม" ก็มีอันต้องล่มไป ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องพยายามเร่งหาคนนอกรายใหม่เข้ามาเสียบแทน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเมื่อคนนอกสืบเสาะข้อมูลรอบด้านมาได้ และพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงวางเครือข่ายคนใกล้ชิด เข้ามาอยู่ในครม.อย่างน่าสงสัยว่าจะมีวาระส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม จึงทำให้แทบไม่ใครยอมเสี่ยงเข้ามา
ผลสุดท้ายเจ้าของพรรคเพื่อไทย ก็คงต้องใช้บริการคนในพรรค ซึ่งก็กำลังกลายเป็นเรื่อง "ป่วน" แย่งตำแหน่งกันอยู่ภายในพรรค ที่กำลังวิ่งขอตำแหน่งที่ว่างลง และยังไม่ลงตัว โดยต้องรื้อโผกันใหม่ ได้แก่ รมว.คลัง รมว.พาณิชย์ รมว.การต่างประเทศ รมว.คมนาคม รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เป็นต้น จนส่งผลให้กระทบกับตำแหน่งในกระทรวงอื่นๆ เป็นลูกโซ่ เมื่อมีการขยับตัวบุคคลเพื่อสลับตำแหน่งกัน
แต่การปรับขยับโผครม.รอบนี้ ว่ากันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่แจ้งให้ใครได้รับรู้ เพื่อป้องกันปัญหาทำนองเดียวกันนี้ขึ้นอีก จนกว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ (8ส.ค.2554)
คำสัญญาของ นายกฯหญิง ที่บอกว่า "ดิฉันจะตั้งใจอย่างเต็มที่ ขอให้ประชาชนให้เวลาดิฉันในการพิสูจน์และทำงาน สิ่งสำคัญเราคนเดียวคงไม่สามารถขับเคลื่อนได้ มันต้องมีทีมงานและทีมเวิร์คที่ร่วมมือกันกับทุกภาคส่วนช่วยกันผลักดันเรื่องที่จะเกิดประโยชน์กับประชาชน เชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสและเวลางานทุกอย่างแม้มีอุปสรรค ตราบใดที่มีความตั้งใจและพยายามเต็มที่ ดิฉันตั้งใจว่า ทุกอย่างจะรายงานให้ประชาชนทราบ" นั้น ...
เชื่อว่า คงเป็นไปได้ยาก ตราบใดที่นายกฯของเรา ยังไม่มีอำนาจเหนือ นายกฯดูไบ อย่างแท้จริง
ขอบคุณ : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/analysis/20110808/403708/
**หมายเหตุ
เมื่อวานคงได้เห็นหน้าตาของ ครม.ใหม่ในรัฐบาลใหม่กันแล้ว เสียงบ่นเสียงรำพึง อึงมา " รมต.แต่ละตัวอัปลักษณ์ ขี้ริ้วขี่เหร่สิ้นดี อายุรัฐบาลคงสั้นเห็นๆ "
( ^__^ ) นายกสวย แต่รัฐมนตรีขี้เหร่ นปช.แดง ก็คงรับไม่ได้ ด้วยไม่ได้รับอย่างที่ยื่นข้อแม้ไปดูไบว่า ขอ 10 ตำแหน่ง..เงียบ ไม่ได้เลยสักตัว..เงินคงปลิวมาทับเลยยังไม่มีเสียงลอดออกมาจากปากสาวกแดง..
ขอประชาชนชาวไทย จับตาดูกันต่อไป
นิส.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน
คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค
บทความย้อนหลัง
-
►
2012
(274)
- ► กุมภาพันธ์ (51)
-
▼
2011
(1241)
-
▼
สิงหาคม
(263)
-
▼
11 ส.ค.
(9)
- จุดเปลี่ยนสำคัญที่พ.ต.ท.ทักษิณผิดข้อตกลงเรื่องรมต....
- ผบ.ตร.หน้าเครียดหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรี
- สุดยอดขรก.ไม่มีเหนียม อธิบดีสรรพากรออกโรง! ไม่เก็บ...
- "กรณ์" แจงผ่านเฟซบุ๊ค สรรพากรเว้นเก็บภาษี "โอ๊ค-เอม"
- ไทยแลนด์พลาซ่า"" จะหยุดหรือจะไปต่อ
- ค่าแรง300บาทในมุมมองCEOโตโยต้าไทย
- "รมต.ม้ามืด" จากเมืองลับแล "เจ๊แดง"จัดให้?
- เผยรายชื่อ ครม.ยิ่งลักษณ์ พร้อมประวัติ ครม ปู 1
- "ดร.ณรงค์" ชี้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท สามารถทำได...
-
▼
11 ส.ค.
(9)
-
▼
สิงหาคม
(263)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น