ความจริงวันนี้ ถ้าข้าราชการทำงานแบบนี้...แล้วประชาชนจะยอมจ่ายภาษีจ้าง 15,000 บาท หรือ
กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ (Talk of the town) กรณีที่พรรคเพื่อไทยกำลังผลักดันการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท และให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีได้เงินเดือน 15,000บาท ขึ้นไป ซึ่งรวมถึงข้าราชการและรัฐวิสาหกิจด้วย ตามที่ได้ให้สัญญาไว้นั้น กำลังเป็นที่ถกเถียงกันว่าทำได้หรือไม่ได้
เลขาธิการ
พรรคเพื่อไทย สารภาพว่า เงินเดือนข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจ ต.ค. นี้
ส่วนค่าจ้างขั้นต่ำจะเริ่มได้เมื่อได้ทำความเข้าใจกับภาคเอกชน
(เอ๊ะ! ตอนหาเสียงไม่เห็นบอกว่าต้องมีเวลาทำ
.
ความเข้าใจเลยนี่...แล้วถ้าเอกชนไม่เข้าใจจะทำไง
.
ดีครับ)
วันที่ 6 ก.ค. 2554 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะทีมเศรษฐกิจของพรรคและอดีตปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวชี้แจงนโยบายการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท
ของพรรคหลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากภาคเอกชน และนักวิชาการว่า
เป็นนโยบายที่มุ่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
เพื่อทำให้คนจนและระดับล่างของสังคมหรือรากหญ้าสามารถลืมตาอ้าปากได้
ยืนยันจะให้เท่ากันทุกจังหวัด
ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของลูกจ้างที่เรียกร้องค่าจ้างขั้นต่ำควรจะอยู่ที่ 441 บาท
ขณะ
ที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ)
ก็ระบุว่าค่าจ้างต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานที่สามารถเลี้ยงดูของแรงงานได้โดยรวม
คู่สมรสและบุตร ดังนั้น แนวคิดพรรคจากนี้เมืองไทยจะไม่มีค่าแรงถูกอีกต่อไป
โดยจะยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานและยุทธศาสตร์การผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูง
ให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศในปี 2020
นายจารุพงศ์ กล่าว
ว่า ยืนยันจะไม่รื้อระบบไตรภาคีค่าจ้างถือว่าเป็นระบบที่ดีอยู่แล้ว
เพราะทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
แต่จะแก้กระบวนการสรรหาที่มาของตัวแทนไตรภาคีที่ยังมีปัญหาตัวแทนฝ่าย
ลูกจ้างไม่สามารถส่งตัวแทนที่แท้จริงเข้ามาเป็นคณะกรรมการได้
เพราะติดขัดเรื่องสหภาพแรงงานที่มีจำนวนน้อยมาก
เมื่อเทียบกับสัดส่วนแรงงานทั้งประเทศ โดยจะเริ่มจากการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการและรัฐวิสาหกิจให้มีเงินเดือนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท คาดจะเริ่มในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนค่าจ้างขั้นต่ำจะเริ่มได้เมื่อได้ทำความเข้าใจกับภาคเอกชน รวม
ถึงหานโยบายสนับสนุนให้เอกชนมีกำลังในการขึ้นค่าจ้าง เช่น
การลดภาษีนิติบุคคล ภาษีเครื่องจักร หาตลาดสินค้าส่งออกให้
คาดจะเริ่มได้ในเดือนมกราคม 2555
ส่วนกรณีหลายฝ่ายกังวลปัญหาค่าจ้าง จะส่งผลให้มีการย้ายฐานผลิตนั้น นายจารุพงศ์ กล่าว
ยืนยันว่าอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น หากจำเป็นต้องย้ายฐานการผลิต
ภาครัฐจะสนับสนุนให้เอกชนไปตั้งโรงงานในประเทศที่ค่าแรงถูกหรือตามแนวชายแดน
แทน
ก.พ. เด้งรับ ระบุปรับเงินเดือน 15,000 บาท ต้องรื้อโครงสร้างบัญชีครั้งใหญ่ พร้อมทั้งแก้กฎหมายข้าราชการพลเรือน
นายนนทิกร กา
ญจนะจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย
มีนโยบายปรับเพิ่มเงินเดือนให้ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีรุ่นใหม่
ที่จะเข้าทำงานในหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจเป็น 15,000 บาทต่อเดือนในเดือนตุลาคมนี้ว่า นโยบายดังกล่าวทำได้ไม่ยากเนื่องจากปัจจุบันโครงสร้างเงินเดือนของระบบข้าราชการแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ บริหาร อำนวยการ วิชาการ และทั่วไป
ซึ่งอัตราเงินเดือนแต่ละประเภทก็แบ่งเป็นขั้นต่ำถึงขั้นสูงสุด ปัจจุบันเงินเดือนบรรจุข้าราชการใหม่อยู่ที่ 9,100 บาทต่อเดือน และ พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 กำหนดให้ปรับขึ้นเงินเดือนในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ไม่เกินร้อยละ 10 ถ้าเกินกว่านั้น จะต้องเสนอรัฐบาลแก้ไขกฎหมาย
ขณะที่นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะมีการปรับเงินเดือนข้าราชการสูงถึงร้อยละ 50 จะต้องปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนข้าราชการใหม่ทั้งหมด รวมทั้งแก้ไข พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 หรือออกเป็นพระราชกฤษฎีกามารองรับในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีข้าราชการพลเรือนสังกัด ก.พ.อยู่ทั้งสิ้น 4 แสนคน และข้าราชการพลเรือนสังกัดหน่วยงานอื่นๆ อีก 1.6 ล้านคน รวมทั้งสิ้น 2 ล้าน
คน ซึ่งการปรับเงินเดือนข้าราชการคงต้องทำให้ครอบคลุมทั้งหมด
ไม่ใช่แค่เฉพาะข้าราชการบรรจุใหม่
แต่ข้าราชการที่มีอยู่เดิมก็ต้องได้รับการปรับเงินเดือนบวกประสบการณ์ด้วย
เช่นกัน ซึ่ง ก.พ.กำลังสำรวจและวิเคราะห์อัตราเงินเดือนที่ควรปรับใหม่
คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป
นายนนทิกร กล่าวอีกว่า เชื่อว่าการปรับเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่เป็น 15,000 บาท
ต่อเดือน จะช่วยจูงใจให้เด็กรุ่นใหม่หันมารับราชการมากขึ้น
เพราะมีอัตราเงินเดือนที่สามารถแข่งขันกับเอกชนได้
ทำให้หน่วยงานราชการได้เด็กเก่งๆ เข้ามาช่วยทำงาน แต่
การคัดเลือกเด็กเข้ามาสู่ระบบราชการคงต้องเข้มข้นขึ้น
เพื่อให้ได้คนที่มีคุณภาพเข้ามาทำงาน
ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพการทำงานของผู้ทำงานเดิมให้ประชาชนรู้สึกคุ้มค่ากับ
ภาษีที่จ่ายไป
ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจจะได้ปรับขึ้นเงินเดือนจาก
.
9,100 บาท เป็น 15,000 บาท เพิ่มขึ้น 64% โดย
.
ต้องรื้อโครงสร้างบัญชีเงินเดือนข้าราชการใหม่
.
ทั้งหมด 2 ล้านคน ใช้เงินจำนวนหลายพันล้านบาท
.
แล้วประชาชนผู้เสียภาษีเมื่อไปรับการบริการ ถ้าท่าน
.
เจอะเจอข้าราชการอู้งานแบบนี้ เช้าชามเย็นชาม...
.
ท่านจะยอมจ่ายเงินเดือนจ้าง 15,000 บาท หรือ
.
.
.
.
lส.ส. ผู้ทรงเกียรติ ต้องแก้ไขกฎหมายให้ข้าราชการ
.
.
คลิ๊ก...เลย เขาอู้งานกันแบบนี้
.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น