บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บิ๊กจิ๋วปลุกคนอีสานตื่น 'แดง'เดินแนวทางที่ผิด!












         บิ๊กจิ๋วปลุกคนอีสานตื่น 'แดง'เดินแนวทางที่ผิด! โจมตีเบื้องสูง-อำมาตย์ เชื่อสุดท้ายโดนทำลาย


"บิ๊ก จิ๋ว" ปลุกคนอีสานรับรู้ความจริง เผยเหตุต้องทิ้ง "พท." พรรคของคนเสื้อแดง เพราะกำลังเดินไปในแนวทางที่ผิด มีการโจมตีอำมาตย์-โจมตีเบื้องสูง-โจมตีกองทัพ-โจมตีหน่วยราชการ เชื่อสุดท้ายขบวนการเสื้อแดงจะถูกทำลาย เพราะกำหนดศัตรูไว้ใหญ่ แต่ตัวเองเล็กลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ลงพื้นที่ช่วยนายไชยยงค์ รัตนวัน ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 8 พรรคความหวังใหม่ หาเสียงเลือกตั้ง ที่ศาลาการเปรียญวัดเขวาน้อย ต.ยางชุมน้อย อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ พร้อมกับการบรรยายพิเศษเรื่อง “การพัฒนาด้านการเกษตร ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง” โดยมีประชาชนในเขต อ.ยางชุมน้อย มารับฟังการบรรยายเป็นจำนวนมาก

พล.อ.ชวลิต กล่าวตอนหนึ่งว่า สังคมไทยทุกวันนี้มีแต่การทะเลาะเบาะแว้งกัน มีความขัดแย้งทางสังคมมาโดยตลอดเวลา แต่ได้แก้ไขกันมา ครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 10-20 ปีที่ผ่านมา ความขัดแย้งในสังคมไทยขึ้นสู่จุดสูงสุด มีพี่น้องคนไทยส่วนหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนอีสาน ซึ่งเป็นคนที่สัตย์ซื่อ เป็นคนที่มีความจริงใจ เป็นคนที่เสียสละ และเป็นคนที่มีความรู้สึกที่ไวต่อความอยุติธรรมในสังคมมากที่สุด

“ถ้า สังเกตดู ในอดีตที่ผ่านมา หากว่ายังมีเหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งกับผู้ปกครองในบ้านเมืองทีไร ผู้ปกครองเป็นผู้ที่ประพฤติไม่ถูกต้อง ผู้ปกครองไม่สามารถสร้างความสุขให้กับพ่อแม่พี่น้องได้ ผู้ปกครองมีการคอรัปชั่น ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง คนอีสานจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ลุกขึ้นมาสู้กับความอยุติธรรมมาตลอด ครั้งสุดท้ายลุกขึ้นมาและหนีเข้าไปในป่า จับปืนขึ้นต่อสู้มากว่า 20 ปี”พล.อ.ชวลิตกล่าว

พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ที่ต้องพูดเรื่องนี้ เพื่อที่จะให้พ่อแม่พี่น้องรู้สึก และคนทั้งแผ่นดินนี้ให้รู้สึกว่าเขาเป็นคนอีสานบ้านเรา คนอีสานเป็นกลุ่มเดียวที่มีความไว และมีปฏิกิริยาต่อต้านการปกครองที่ไม่เป็นธรรม เป็นการต่อต้านการปกครองที่ไม่ได้เอื้ออาทรให้กับคนส่วนใหญ่ ตนใช้เวลามา 4 ปีเต็มๆ ที่ขึ้นมารับผิดชอบด้านนี้ เป็นผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้ง ตนคิดว่าแก้ปัญหาได้สำเร็จแล้ว เอาความสันติสุข เอาความสงบสุขมาแผ่นดินนี้

อดีต ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นึกไม่ถึงว่าในวันนี้ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นในแผ่นดินนี้อีก และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในวันนี้ หนักหนาสาหัสมากกว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเมื่อ 10-20 ปีก่อน เมื่อก่อนนั้นยังเป็นความขัดแย้งของกลุ่มคนบางกลุ่ม บางคน แต่วันนี้ความขัดแย้งในสังคมไทยเข้าไปถึงบ้าน ครัวเรือน พี่กับน้อง พ่อกับแม่ สามีกับภรรยา ทะเลาะกัน คนนี้สนับสนุนเสื้อสีหนึ่ง คนนั้นสนับสนุนเสื้ออีกสีหนึ่ง มีการทะเลาะกัน มีความขัดแย้งกันมาโดยตลอด นี่คือความเจ็บปวดที่ตนจำเป็นต้องกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเข้าไปแก้ปัญหานี้ให้จงได้

“เมื่อผมกลับเข้ามา ก็ได้ถามพ่อแม่พี่น้องว่าจะให้ไปอยู่กับพรรคการเมืองไหนเพื่อมาแก้ไขปัญหา ทุกคนชี้ไปที่เดียวเลยคือพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีความปรารถนาจะไปแก้ปัญหาในเรื่องการเมืองการปกครองที่ไม่เป็นธรรม กลุ่มคนเสื้อแดงนี้จะต้องเติบโตขึ้นทุกวัน ซึ่งการเติบโตของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นสิ่งที่ผมต้องให้การดูแล เพราะรู้ดีว่าการเติบโตของกลุ่มคนเสื้อแดงเติบโตแล้วเดินไปในแนวทางที่ผิด จะเกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง การเปลี่ยนแปลงของสังคมมีแน่นอน”อดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ระบุ

พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า สรรพสิ่งในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะอยู่คงที่ ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ตนได้บอกไปหลายที่ว่า สังคมไทยต้องการการเปลี่ยนแปลงแน่นอนที่สุด แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงโดยสันติวิธี ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ที่ดี แต่ต้องรักษาสถาบันที่เราเคารพบูชาไว้ เพราะเป็นสถาบันที่มีพระมหากรุณาธิคุณต่อบ้านเมืองมาโดยตลอด นี่คือสิ่งที่ตนเข้าไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย หรือพรรคเสื้อแดง เพราะพี่น้องประชาชนเป็นผู้ชี้ให้ตนเข้าไปอยู่

"ผมเข้าไปเพื่อนำ ความคิดไปชี้นำความคิด ไปพยายามทำให้เขาเติบใหญ่ พยายามทำให้เขาเข้าใจในเรื่องมหาชนหรือปวงชน มีความสำคัญสูงสุดต่อการพัฒนาชาติบ้านเมืองอย่างไร ผมทำได้สำเร็จ ทำสำเร็จไปได้ปีกว่า แต่มามีปัญหาตอนหลังนิดหน่อย ปัญหาที่ผมต้องออกมาจากสีแดง ไม่ได้ออกมาเพราะความขัดแย้ง แต่ออกมาเพราะต้องการรักษาบุคคลเสื้อแดงซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรักสันติ เป็นคนที่ต้องการสันติ เป็นคนที่ต้องการแต่เพียงเรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมืองไปสู่การ เมืองของประชาชน ไปสู่การเมืองที่ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ ไปสู่การเมืองที่ไม่มีความอยุติธรรม มีความถูกต้อง มาตรฐานเดียว ไม่ใช่สองมาตรฐาน นั่นคือสิ่งที่ผมออกมาเพื่อรักษาสิ่งนี้ เพราะเริ่มมีการเข้าไปโจมตีอะไรต่ออะไรเยอะแยะไปหมด เช่น โจมตีทหาร โจมตีกองทัพ โจมตีหน่วยงานราชการบางหน่วย โจมตีอำมาตย์ และโจมตีไปถึงข้างบนอีกด้วย"พล.อ.ชวลิตกล่าวและว่า การที่เราจะไปเติบโต การเติบโตนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีเพื่อน หลักการก็มีอยู่ว่า ระหว่างการสร้างความเติบโตไปสู่ความสำเร็จ ต้องให้ตัวเราหรือขบวนการพวกเรา โดยเฉพาะประชาชนใหญ่ที่สุด แล้วกำหนดศัตรูให้เล็กที่สุด แต่ตรงนี้กำหนดศัตรูให้ใหญ่ที่สุด แต่ตัวเราเล็กลง ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงจะถูกทำลายแน่นอน


/thaiinsider

1 ความคิดเห็น:

ohm กล่าวว่า...

ใครเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด และรับรู้ รู้เห็น ในการให้ตำรวจใช้ระเบิดนำ้ตาระดมยิงพธม. ประชาชนที่อยู่ในความสงบอหิงสาที่ทำเนียบฯจนตายบาดเจ็บ ..แล้วถูกศาลพิพากษาว่าผิด...? ก็คือ ชวลิต...*...เขาเองเป็นผู้แบ่งแยกปชช.ออกเป็น แดง-เหลืองแล้วอยู่ข้างแดง ...**จบบริบูรณ์แค่ตัวอย่างเดียว**

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง