ประชาชนล้นมธ.แห่ลงชื่อ กล่าวโทษปู "ตุลย์"ลั่นฟื้นคดีซุกหุ้นSC

ประชาชนล้นมธ.แห่ลงชื่อ กล่าวโทษปู "ตุลย์"ลั่นฟื้นคดีซุกหุ้นSC "แก้วสรร"เตือนคนไทย อย่าให้"ทักษิณ"หลอกซ้ำสอง นัด21มิ.ย.เจอกัน"ที่ดีเอสไอ" เมื่อบ่ายวันที่ 18 มิถุนายน ที่ห้องประชุมประกอบ อุตสิงห์ อาคารเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์(มธ.) นายแก้วสรร อติโพธิ และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมทักษิณ (คนท.) ได้ตั้งโต๊ะเปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อแสดงเจตนารมณ์กล่าวโทษ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ฐานร่วมกับพวกให้การเท็จกรณีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยจะมีการนำรายชื่อพร้อมหลักฐานเบื้องต้นส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานอัยการ โดยนัดพบกันเพื่อยื่นให้กับดีเอสไอเป็นแห่งแรกในวันที่ 21 มิถุนายน เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนกันอย่างล้นหลาม โดยมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมลงชื่อจนล้นห้องประชุม นอกจากนี้ยังมีประชาชนอีกส่วนหนึ่งส่งคำกล่าวโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผ่านไปรษณีย์มาถึง คนท. ด้วย นายแก้วสรร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีหน่วยงานใดดำเนินคดีกับ ยิ่งลักษณ์ ฐานเบิกความเท็จ แต่เมื่อมีการประกาศให้มีการนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชนักที่ปักหลังอยู่แล้ว จึงต้องปักลึกลงไป การกล่าวโทษยิ่งลักษณ์หยุดกฎหมู่ชินวัตร เป็นการแสดงออกถึงการต่อต้านการใช้เสียงข้างมากมาเป็นประโชยน์ส่วนตัว หากในการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยชนะด้วยเสียงข้างมากประชาชนก็ยอมรับในนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นการให้เงินเดือน 1.5 หมื่นบาทแก่นักศึกษาจบใหม่ ทุกนโยบายสามารถทำได้เลย แต่ต้องไม่ใช่การกระทำเพื่อประโยชน์ของเจ้าของพรรค ซึ่งถือเป็นการทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน พ.ต.ท.ทักษิณ ทรยศเรามาแล้ว 1 ครั้ง จากการเล่นหุ้น ซุกหุ้น ตอนนี้กำลังส่ง ยิ่งลักษณ์ มาช่วยเขา ซึ่งจะเป็นการทรยศเป็นครั้งที่ 2 สอง ซึ่งพวกเราทนไม่ได้ ด้าน นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา คนชั่ว คนโกงย่ามใจว่าไม่มีใครแตะหรือเปิดโปงเขาได้ และถึงจับได้ก็ไม่มีใครเอาผิด ในสมัยรัฐบาลคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ขณะนั้นมี นายสุนัย มะโนมัยอุดม เป็นอธิบดีดีเอสไอ ได้สั่งฟ้องคดีซุกหุ้น บริษัทเอสซีแอทเซส จำกัด (มหาชน) แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลพรรคพลังประชาชนอัยการกลับสั่งไม่ฟ้อง และต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนตัวอธิบดีดีเอสไอเป็น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ทำให้คดีต้องยุติลง ซึ่งตนจะหาทางเพื่อรื้อฟื้นคดีนี้กลับมาอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารแนบท้ายคำกล่าวโทษ ยิ่งลักษณ์ ยังได้อธิบายการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แก่สำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการยอมรับว่า ยิ่งลักษณ์ กับพวกให้การเท็จต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดี ซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "ทุกวันนี้เหลืออยู่ 1,000 ล้านดอลล่าร์ หลังศาลสั่งยึดทรัพย์ไป 1,400 ดอลล่าร์ เมื่อปีก่อน รัฐบาลได้ขโมยเงินของผมไป" โดยเงินที่เหลือ 30,000 ล้านบาท ก็เป็นเงินที่ศาลคืนให้ และจ่ายกลับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ถือหุ้นจริง แสดงว่าเงิน 30,000 ล้านบาทเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ของนอมินี ดังนั้น ยิ่งลักษณ์ นายบรรณาพจน์ ดามาพงศ์ น.ส.พินทองทา และ นายพานทองแท้ ชินวัตร จึงให้การเท็จทุกคน ไม่เช่นนั้น เงิน 30,000 ล้านบาท ต้องคืนให้แก่ นายบรรณาพจน์ 8,000 กว่าล้านบาท คืนให้ นายพานทองแท้ อีกกว่า 9,000 ล้านบาท คืนให้ น.ส.พินทองทา กว่า 12,000 ล้านบาท และคืนให้ ยิ่งลักษณ์ อีก 400 ล้านบาท ดังนั้นการตัดสินของศาลจึงถือว่าถูกต้องแล้ว ที่สำคัญเมื่อรับเงินคืนจากนอมินีแล้ว อย่าทำให้ประชาชนเข้าใจศาลผิดว่า เมืองไทยมี 2 มาตรฐาน เลิกโกหกเสียว่า ไม่ได้รับความยุติธรรม บ้านเมืองจะได้สงบ โดยสร้างความขัดแย้งเพื่อหาอำนาจครั้งใหม่ เป็นการโหดร้ายกับประเทศมากเกินไป