บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อานันท์หวังคนไทยไม่พลาดโอกาสทอง ชี้ถึงเวลา "สังคายนา" ประเทศทุกด้าน


วันที่ 14 พ.ค. 2554 ที่ห้องออดิทอเรี่ยม อาคารปฏิบัติการ บมจ.อสมท. สำนักงานปฏิรูป เพื่อปฏิรูปสังคมไทยที่เป็นธรรม ได้จัดเวที "เลือกตั้งทั้งที ควรต้องมีปฏิรูป" โดยมีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ (คปร.) และกรรมการปฏิรูปฯ ประกอบด้วยนายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.สมชัย ฤชุพันธ์ อดีตอธิบดีกรมสรรพามิต และอดีตผอ.สนง.เศรษฐกิจการคลัง ดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ ผู้เชี่ยวชาญฐานทรัพยากรและเกษตรกรรายย่อย พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ เข้าร่วม

นายอานันท์ กล่าวถึงการทำงานช่วงระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา ได้ใช้งบประมาณไป 13 ล้านบาท โดยมีข้อเสนอใหญ่ๆ ออกมา 2 เรื่อง คือ ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร และปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ โดย ในวันนี้ได้ออกเอกสารชุดสุดท้ายก่อนที่จะลาออกไป เป็นเอกสารรายงาน และภาคผนวก ให้เห็นภาพรวม ซึ่งสาระของเอกสาร 2 ฉบับ คือ การพาดพิงข้อเสนอต่างๆ ที่เคยเสนอต่อสาธารณชน นอกนั้นเป็นการถ่ายทอดความนึกคิดของคณะกรรมการว่า มองการปฏิรูปประเทศ ในลักษณะใด และแนวความคิดนั้นจะนำไปสู่การตั้งประเด็นต่างๆ ตามมิติเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม
“คปร.การวางพิมพ์เขียว โดยมีหลายประเด็นที่ทำไปแล้ว มีการศึกษา พิจารณา โต้เถียงกันจนออกมาเป็นฉันทามติ เช่น เรื่องที่ดินเพื่อการเกษตร ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ ขณะเดียวกันก็มีหลายประเด็น ที่ด้วยเวลาจำกัด แต่ก็ได้มีการศึกษาแล้ว พิจารณาบ้างแล้ว แต่ที่ประชุมเห็นว่า ยังไม่ถึงแก่นสาร จึงได้พิมพ์ออกมาเป็นเอกสารทำงาน ซึ่งแม้จะมีข้อเสนอบ้าง ก็เป็นเพียงคณะอนุกรรมการ”
นายอานันท์ กล่าวถึงเรื่องที่คปร.ไม่ได้แตะต้อง แต่ได้ เห็นความสำคัญที่ต้องมีการปฏิรูป ประเด็นเหล่านั้นจะอยู่ในกลุ่มที่ไม่มีการศึกษา ไม่มีข้อพิจารณา หรือข้อเสนอ เพียงตั้งโจทย์ ตั้งคำถาม และเสนอแนวทางปฏิรูปในสิ่งเหล่านั้น เช่น เรื่องกระบวนการยุติธรรมที่พูดแต่หลักการใหญ่ๆ เรื่องปฏิรูปตำรวจ คปร.ไม่มีความรู้เลย รวมทั้งการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปรัฐธรรมนูญ
“คปร.มีอายุ 3 ปีตามระเบียบสำนักนายกฯ มาพิจารณาดูแล้ว การเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 3 กรกฎาคม คณะกรรมการจึงตัดสินใจลาออกทั้งชุด มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม จากนี้ไปจะไม่มีคปร. แต่ก็พร้อมสนับสนุนแนวทางความคิดนี้ต่อไป” นาย อานันท์ กล่าว พร้อมกับขอขอบคุณ คณะกรรมการ และประชาชนทั้งหลายที่ให้ความสนใจ ให้ความรู้ และเมื่อมีข้อเสนอไปแล้วมีการตอบรับพอสมควร พร้อมกับรับฟังไม่ว่าเป็นข้อชม ติ ด้วย อย่างไรก็ตาม แม้คปร.จะเป็นผู้เขียนข้อเสนอ แต่ก็ไม่ต้องการเป็นเจ้าของโครงการนี้ ดังนั้น นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป คปร.ขอมอบข้อเสนอทั้งหมดให้กับประชาชน สังคม และคนไทย และขึ้นอยู่ที่สังคม คนไทย จะให้ความสนใจติดตามเรื่อง บอกกล่าว วิพากษ์วิจารณ์ ถกเถียงประการใด
นายอานันท์ กล่าวถึงการลาออกว่า เราเกิดอยู่ในสังคมที่อารยธรรมการลาออกไม่ ค่อยมี อยู่ที่ไหนขออยู่ตลอดชีวิต หวงอำนาจ หวงเก้าอี้ การที่คปร.ลาออกไม่ได้มีอะไรลึกซึ้ง แต่เมื่อจะมีการเลือกตั้ง ตนและคณะจึงคิดว่า น่าจะสมเหตุสมผลในการปลีกตัวออกไป โดยไม่ใช่การทิ้งภาระหน้าที่ หรือน้อยใจแต่ประการใด
“เราคิดว่า เมื่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ เราควรให้เสรีภาพของรัฐบาลว่า เขาคิดเรื่องปฏิรูปอย่างไร ทำหรือไม่ทำ หากทำจะทำแบบใด แนวทางไหน หรืออาจมีแนวทางอื่น รวมทั้งเสรีภาพเลือกบุคคลมาทำงานตรงนี้”
ทั้งนี้ ประธานคปร. กล่าวเพิ่มเติมว่า เสียงสังคมมีโอกาสผลักดันให้นักการเมืองเอาใจใส่กับในเรื่องของนโยบาย ประเด็น ที่สำคัญสำหรับประเทศชาติ ซึ่งรายงานฉบับสุดท้ายเสนอให้ประชาชน โดยใจจริงแล้วเสนอให้พรรคการเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และประชาชนที่ไปเลือกผู้แทนฯ ซึ่งคิดว่าข้อคิดของ คปร.น่าจะเป็นประโยชน์ที่พรรคต่างๆ จะไปจับต้อง สัมผัส วินิจฉัยต่อไปว่า เรื่องใดอยากนำไปใช้ต่อ ทำเป็นนโยบายของพรรค ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนต้องการแค่ไหน
สำหรับภารกิจของสังคมไทย ต่อไป นายอานันท์ กล่าวว่า ก็คือ การลดอำนาจรัฐ เพิ่มความเข้มแข็งของประชาชนภายในกรอบของความเป็นรัฐเดี่ยว และภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
“คปร.ไม่ห่วงการปฏิรูป จะเป็นหรือไม่เป็น แต่พวกเรามีเยื่อใย และตั้งใจว่า นี่เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะสังคายนาประเทศชาติ ในทุกๆ ด้าน ไม่อยากให้พลาดโอกาสนี้ หรือไม่อยากให้คนไทยพลาดโอกาสนี้ โดยมีความหวังคนไทยจะไม่ทิ้งโอกาสนี้ให้เปล่าประโยชน์ โอกาสทอง โอกาสที่จะมีการเลือกตั้งด้วย”

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง