จากคำพิพากษาดังกล่าวทำให้ชีรักกลายเป็นอดีตผู้นำสูงสุดรายแรกของ ฝรั่งเศสที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญานับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ขณะที่จำเลยร่วมในคดีนี้อีก 9 คน ศาลตัดสินไปก่อนหน้านี้แล้วให้ 2 คนพ้นผิด ส่วนอีก 7 คนที่เหลือถูกตัดสินว่ามีส่วนช่วยให้ชีรักใช้ระบบตำแหน่งงานปลอมในเทศบาลนคร ปารีส เพื่อนำเงินจากเทศบาลนครปารีสไปจ่ายแก่คนใกล้ชิดที่มาช่วยงานการเมือง และหนึ่งในจำนวนนี้ คือ นายอแลง จุปเป อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เขาถูกตัดสินลงโทษจำคุก 14 เดือนโดยให้รอลงอาญาเมื่อปี 2547 และถูกตัดสิทธิทางการเมือง 1 ปี ก่อนกลับเข้าสู่การเมืองจนก้าวสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในปัจจุบัน
เหตุที่คดีของอดีตประธานาธิบดีชีรักเพิ่งมีคำพิพากษาออกมาเพราะชีรัก ได้ใช้เอกสิทธิ์ของการเป็นประธานาธิบดีของตนคุ้มกันมาโดยตลอดทำให้อายุความ ได้สะดุดหยุดอยู่ เมื่อเขาลงจากตำแหน่งจึงสามารถดำเนินคดีต่อไป
ชีรักเริ่มเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสสมัยแรกเมื่อปี 2538 และได้เป็นประธานาธิบดีสมัย 2 อีกในปี 2545 ด้วยคะแนนนิยมอย่างถล่มทลายถึง 82% ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน และที่โด่งดังที่สุดก็คือ การงัดข้อกับ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐอเมริกา เมื่อเขาคัดค้านการบุกอิรักในปี 2546 และหลังจากพ้นวาระประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในปี 2550 แล้วเขายังได้รับตำแหน่งเป็นสมาชิกตลอดชีพของสภารัฐธรรมนูญแห่งฝรั่งเศสอีก ด้วย
ที่ผมยกกรณีของอดีตประธานาธิบดีชีรักขึ้นมานี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและความเป็นอิสระของศาล ฝรั่งเศส และแสดงให้เห็นว่าแม้ผู้นำของเขาจะได้รับความนิยมสักปานใดก็ตาม ก็ไม่อาจรอดพ้นเงื้อมมือของกฎหมายไปได้ แม้ว่าในระหว่างดำรงตำแหน่งจะไม่สามารถดำเนินคดีได้ก็ตาม แต่เมื่อลงจากตำแหน่งแล้วคดีก็ว่ากันต่อไป เพราะความนิยมทางการเมืองกับการกระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองนั้นเป็นคนละเรื่องกัน
แต่ที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งก็คือท่าทีของอัยการที่ขอให้ศาลยกฟ้อง คดีพัวพันคอร์รัปชั่นของชีรัก โดยให้เหตุผลว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าตำแหน่งงานผีเหล่านั้น เป็นเรื่องที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมา แต่ศาลยืนยันที่จะนำคดีเข้าสู่การพิจารณา เพราะภายใต้กฎหมายฝรั่งเศส ผู้พิพากษาสามารถนำคดีเข้าสู่กระบวนการไต่สวนได้ แม้อัยการจะคัดค้านก็ตาม
จากกรณีของประธานาธิบดีชีรักในข้อกล่าวหาว่าทุจริตนั้นไม่ได้แตกต่าง จากคดีของคุณทักษิณเท่าใดนัก แต่ที่แตกต่างก็คือฝรั่งเศสใช้กระบวนการของศาลปกติธรรมดา ไม่ได้มีการปฏิวัติรัฐประหารโค่นล้มเพื่อเอาออกจากตำแหน่งแล้วตั้งคณะ กรรมการที่ส่วนใหญ่เป็นอริกับผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนเพื่อหาความผิด มิหนำซ้ำยังมีการออกกฎหมายของคณะรัฐประหารย้อนหลังไปยุบพรรคการเมืองเสียอีก ด้วย
ภายหลังที่ศาลยุติธรรมฝรั่งเศสมีคำพิพากษา ชีรักออกแถลงการณ์ว่าเขาจะไม่อุทธรณ์ต่อในคดีนี้ เพราะสุขภาพและพละกำลังที่ถดถอยลงตามอายุที่มากขึ้น ทำให้เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมายที่อาจกินเวลา ยาวนาน แต่เขาก็ยังยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตนเอง(ตามฟอร์ม) และหวังว่าความรู้สึกของประชาชนฝรั่งเศสที่มีต่อเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก เดิม
แต่กรณีของคุณทักษิณกลับตรงกันข้ามเพราะมีการดำเนินการทั้งสับขาหลอก ทั้งสับขาจริงเพื่อให้ได้มาซึ่งการนิรโทษกรรม ตลอดจนการจุดประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ซึ่งผมเห็นด้วยบางส่วนและไม่เห็นด้วยบางส่วน
ที่เห็นด้วยก็คือการถูกรัฐประหารเตะออกจากตำแหน่ง แล้วตั้งคณะกรรมการที่เป็นอริกันมาสอบสวนแล้วยังมีการใช้กฎหมายย้อนหลังไป ยุบพรรคการเมืองนั้นยอมรับไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง และไม่มีประเทศไหนที่เจริญแล้วสามารถยอมรับได้เช่นกัน และเห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะมีการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่เพื่อลบล้างผลพวง ของรัฐประหารให้หมดสิ้นไป ไม่ให้กลายเป็นตราบาปฝังใจอยู่ดังเช่นในปัจจุบันนี้
ที่ไม่เห็นด้วยก็คือการพยายามผลักดันให้มีการ นิรโทษกรรมให้คุณทักษิณและยอมแม้กระทั่งจะนิรโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี 91 ศพ เพียงเพื่อคุณทักษิณเพียงคนเดียว
ความหมายของผมก็คือ ให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ยกเลิกกระบวนการที่เป็นผลพวงของการรัฐประหาร 19 กันยา 49 เสียทั้งสิ้น แล้วดำเนินคดีไม่ว่าจะกี่คดีก็ตามกับคุณทักษิณในช่องทางปกติเช่นเดียวกับคดี ของอดีตประธานาธิบดีชีรักของฝรั่งเศส หากคุณทักษิณมีความผิดจริงก็ย่อมสมควรที่จะได้รับโทษไม่ว่าจะได้รับความนิยม ทางการเมืองสักปานใดก็ตาม
ที่สำคัญที่สุดนอกจากการนำเอาตัวคุณทักษิณมาพิจารณาคดีในกระบวนการ ปกติแล้ว ย่อมต้องดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี 91 ศพ เพื่อเป็นตัวอย่างในการใช้อำนาจที่เกินกว่าเหตุจนทำให้มีคนเสียชีวิตอย่าง มากมายเช่นนี้
เมื่อทำได้ดั่งนี้แล้ว คงไม่ต้องให้ใครมากล่าวอ้างถึงความเป็นนิติรัฐหรือนิติธรรมให้เปลืองน้ำลาย เพราะสิ่งที่ผมเสนอนี้คือการเป็นนิติรัฐและนิติธรรมอยู่อย่างสมบูรณ์ในตัว แล้วอย่างที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้
----------------
คุณชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการอิสระ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น