บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

โลกจับตาไทยขัดแย้งถึงขีดสุด-ละเมิดสิทธิอื้อ

โลกจับตาไทยขัดแย้งถึงขีดสุด-ละเมิดสิทธิอื้อ ‘ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ’ แนะแก้ค้ามนุษย์-ค้าสัตว์ป่า ชี้เสรีอาเซียนไทยยังได้เปรียบ

ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อม ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ สาธารณูปโภค การแพทย์ แรงงาน การคมนาคมขนส่ง และระบอบการปกครอง ฯลฯ มากกว่าหลายประเทศในภูมิภาคนี้ ทำให้เป็นเป้าหมายและโอกาสทั้งด้านการลงทุน การค้า อุตสาหกรรม ฯลฯ ขณะเดียวกัน เป็นที่จับตามองของประเทศต่างๆทั่วโลกทั้งในแง่บวกและแง่ลบ อันส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆที่เป็นกิจการภายใน หรือการบริหารประเทศโดยรวม
โดย เอมพงศ์ บุญญานุพงศ์ ศูนย์ข่าว TCIJ
โดยเฉพาะในห้วงกว่า 10ปีที่ผ่านมา ประเทศต่างๆทั่วโลกและประเทศในแถบเอเชีย เกิดความเปลี่ยนแปลง เกิดการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ โดยมีเป้าหมายหรือฐานหลักอยู่ในประเทศไทย‘ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ’ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศ จับตามองสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงอันหลากหลายที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย
ไกรศักดิ์กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน และคาดว่าส่งผลกระทบต่อประเทศไทย คิดว่ามี หลายระดับ ระดับภูมิภาค มี 2 ระดับด้วยกันคือ อาเซียน เอเชียอาคเนย์ ผมหมายถึง ความความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอาเซียน กับเอเชีย กับโลก มองรวมๆ แล้ว อยากจะมองข้างนอกเข้ามาข้างใน
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มาตรฐานทางความเป็นธรรม สิ่งแวดล้อม ความยุติธรรมในระดับสากล เรื่องสิทธิมนุษยชน ขึ้นๆลงๆมาก คือตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ดูเหมือนว่าจะดีขึ้นตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่เหตุการณ์ภายใน ยกระดับประเทศไทยให้เป็นประเทศที่มีมาตรฐานก้าวไกล และเป็นตัวอย่างที่ไม่ใช่ในเอเชียอย่างเดียว แต่พอสถานการณ์เปลี่ยนไปตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา เราก็ลดลงมา ยกตัวอย่างง่ายๆ เราอยู่ในสายตาของชาวโลกมาก เพราะไทยเป็นประเทศที่มีสำนักงานของสหประชาชาติอยู่จำนวนมาก ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสิทธิเสรีภาพมากกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ มากกว่าพม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน และมากกว่าสิงคโปร์ด้วยซ้ำไป
เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่า สื่อมวลชนใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ของการสื่อสารข่าวของประเทศเพื่อนบ้าน สำนักงานเกือบทุกสาขาทั้งใหม่และเก่ามาอยู่ที่กรุงเทพฯเกือบทั้งหมด มิหนำซ้ำประเทศไทยเป็นประเทศที่นักการเมืองผู้ลี้ภัยทั้งเศรษฐกิจ และการเมือง มาอยู่ที่ประเทศไทย ผู้ลี้ภัยจากการเมืองหลายคนจากบังคลาเทศ ปากีสถาน พม่า เวียดนาม ลาว มาเลเซีย
ซึ่งเมื่อ 10 ปีมาแล้วประเทศไทยเป็นประเทศที่ มีมาตรฐานค่อนข้างสูง แต่ในเวลาเดียวกันเรารู้สึกว่าเราชะงักงันในการเติบโตทางด้านนี้ เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเริ่มมีปัญหาในด้านการควบคุมสื่อ มาครอบงำสื่อ พอตัวเองมีปัญหา เพราะพฤติกรรมผลประโยชน์ทับซ้อนตามมาโดยข้อครหา ว่ามีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ตามมาที่หนักยิ่งกว่านั้นคือว่า การละเมิดสิทธิถึงขั้นที่ว่า เป็นอาชญากรต่อมนุษยชาติ เช่น ฆ่าตัดตอนยาเสพติด 3,000 คน ในปี ค.ศ.2004 การฆ่าประชาชนกรณีของตากใบ เป็นต้น ทุกวันนี้ตกต่ำถึงขั้นที่ว่า เรามีคดีที่เราไม่ยอมรับเป็นคดีการเมือง ราว 2,000 กว่าคดี ถือว่ามากกว่าพม่าแล้ว ซึ่งพม่าไม่มีประชาธิปไตย ไม่มีสิทธิเสรีภาพเท่าประเทศไทย แต่ด้วยความขัดแย้งการพัฒนาของการด้อยพัฒนา

ไกรศักดิ์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยนับว่า มีความขัดแย้งค่อนข้างจะสูงสุดแล้ว และปีนี้จะเป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อเลยว่า ประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าหรือจะถอยหลัง เพราะถึงขั้นมีการถกเถียงกันว่า อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายเกี่ยวกับสถาบันสูงสุด ที่เป็นสัญลักษณ์ของรัฐไทยมาเป็นเวลายาวนาน
อันนี้ถ้ามองในสายทั่วโลกแล้ว ประเทศไทยพัฒนาจริง แต่ในปี 2006 ถูกสหประชาชาติกล่าวหาว่า ละเมิดสิทธิ 23 เรื่องด้วยกัน เริ่มด้วยการหายไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร การตายของผู้นำท้องถิ่น จาก 13 คนเป็น 30 กว่าคนไปแล้ว กรณีฆ่าตัดตอนยาเสพติดโดยเจ้าหน้าที่ 3,000 กว่าคดี การเสียชีวิตในพื้นที่ภาคใต้เกือบ 6,000 คน
รัฐบาลที่เข้ามา และรัฐบาลที่ไม่ได้กระทำเหล่านี้ ก็ไม่ได้แก้ไขปัญหาในอดีต กรณีการฆ่า 3,000 คน ก็ไม่ได้มีการสอบสวนอะไรเลย ปล่อยปละละเลย มิหนำซ้ำการประท้วงในประเทศไทยปัจจุบัน เป็นการประท้วงติดอาวุธไปแล้ว ไม่ใช่เป็นการประท้วงเหมือนในอดีตที่ประชาชนมีความบริสุทธิ์ แต่ปัจจุบันเป็นการจัดตั้ง เป็นระบบ มีหน่วยติดอาวุธร้ายแรง อันนี้หลักฐานชัดเจน แต่การละเมิดสิทธิกลับกล่าวหาว่า รัฐบาลในอดีตเป็นฝ่ายกระทำ ทั้งๆที่ตัวรัฐบาลก่อนนั้น เป็นฝ่ายทำลายกระบวนการสันติวิธีอย่างสิ้นเชิง
เราจะแก้ปัญหานี้ยังไง
ยังไม่เห็นลู่ทางที่จะกู้ขึ้นมาจากอันนี้เลย ไม่เห็นลู่ทางว่าจะหลุดจากอันนี้ได้อย่างไร มีอยู่ทางเดียวคือ ประเทศไทยอาจจะต้องไปพึ่งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลสูงสุด ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง กลายเป็นว่าฝ่ายนิติบัญญัติทำงานไม่ได้ เพราะฝ่ายรัฐไม่ปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมาย ทุกคนต้องไปพึ่งศาลหมด ประชาชนมีเรื่องกับบริษัทที่มาขุดทำลายสิ่งแวดล้อม ฝ่ายรัฐสนับสนุน ให้ทำลายชุมชน ให้ทำลายวิถีชีวิต ประชาชนไม่มีทางเลือกต้องไปฟ้องศาล ระบบนิติบัญญัติไม่ทำงาน เพราะส.ส. ส.ว.มีส่วนร่วมด้วย
ส่วนในระดับโลกเขามองเรื่องการใช้ความรุนแรงทางการเมือง เป็นที่รู้กันว่าเขายิงกันตอนเลือกตั้ง ไทยก็ยิงกันในระดับท้องถิ่นตอนนี้ยิงกันเป็นประจำ ผ่านมาไม่รู้กี่ศพแล้ว ต่อไปคงระดับชาติ ระบบที่เขาตั้งขึ้นมาคือระบบที่รัฐ สมมุติว่าไม่สามารถควบคุมดูแลความขัดแย้งได้ จนมีการแบ่งเป็นพรรคเป็นพวก มันจะเกิดความรุนแรงขึ้นมา เพื่อช่วงชิงและใช้ควบคุมอำนาจ เขามองว่าอันนี้คืออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งมีเกิดขึ้นในหลายประเทศ เขาจึงมีศาลอาญาระหว่างประเทศขึ้นมา ในสมัยคุณชวน หลีกภัย ปี 1996 ไปเป็นสมาชิกแล้ว ไปเซ็นสัญญา แต่พอมาถึงสมัยคุณทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่สนใจ ปล่อยปละละเลย มาจนกระทั่งปัจจุบันคุณสุนัย จุลพงศธร ยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อจะมาเล่นงานคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการปราบปรามม็อบเสื้อแดงเมื่อเดือนพ.ค.2553 อันนี้ผมสนับสนุนนะว่า ถ้าเราไม่มีทางออกภายใน ก่อนที่จะไปสู่การฆ่าหมู่อีกเหมือนเมื่อสมัยคุณทักษิณ เราจะระงับผู้นำลักษณะนี้ได้อย่างไร มีอยู่ทางเดียวคือ เราต้องเป็นสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งเราก็ต้องดูว่าไปสมัครใหม่ได้หรือเปล่า เพราะเวลามันหมดแล้ว ไปลงเป็นสมาชิกใหม่แล้ว ก็ขอให้รัฐสภาอนุมัติจะได้เป็นสมาชิกถาวรเลย ทีนี้ต่อไปถ้าผู้นำเราฆ่าคน เราสามารถให้ทนายนำพยานไปฟ้องศาลนี้ได้ ทีนี้ผู้นำจะได้อยู่ในวินัยของกระบวนการยุติธรรมทันที
ตอนนี้โลกมองเราอย่างไร เพราะเรามีความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองบ่อย
โลกของความหวือหวาทางสื่อ สื่อมักจะรายงานผิดอย่างสิ้นเชิง อันนี้เรื่องอันตรายมาก เช่น กรณีเกี่ยวกับคนเสื้อแดง กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีอาวุธ ไม่มีอะไรเลย โดยที่ไม่คำนึงถึงว่ามีทหารกี่คนที่ตายไป เจ้าหน้าที่บาดเจ็บสาหัสกี่ร้อยกี่พันคนไม่ได้คำนึงถึงเลย เอะอะก็ 91 ศพ พอมีสื่อมวลชนตายด้วย ซึ่งใครยิงก็ไม่รู้ การปั่นเรื่องเพื่อให้เกิดความรุนแรง ไม่ได้อยู่ในสายตาเลย ไม่ได้คิดเลยว่า คนที่อยู่ฝ่ายประท้วงนี้มีมาตรฐานแบบนี้ แต่ผมเชื่อเป็นอย่างนั้น เพราะหลักฐานบ่งชี้ไปทางนั้นมาตลอด เพราะฉะนั้นเมืองไทยมองแต่ว่ารัฐบาลโหดเหี้ยม ทีนี้พอยิ่งลักษณ์เข้ามามันเป็นคนละเรื่องกันเลย
อย่างเรื่องน้ำท่วมนี่ ถือว่าเป็นความผิดทางมนุษย์อย่างชัดเจนนะ ทำให้ต่างประเทศเริ่มถอยหลังจากประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง อย่างรมว.ต่างประเทศ ไม่เคยเรียกทูตมาชี้แจงเลยว่าน้ำท่วมจะไปรุนแรงไปถึงขั้นไหนอย่างไร เราจะป้องกันอย่างไร ไม่พูดไม่จา ไม่บอกเขา สถานทูตต่างประเทศย้ายหนีออกจากกรุงเทพฯหมดเลย เขาสั่งย้ายหมดเลย เพราะเขาคิดว่าต้องตายกันหมดแน่ๆ
สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจด้วยหรือเปล่า
ผมว่ามีสูงพอสมควรนะ แต่อย่างไรก็ตามเราวางฐานของการลงทุน ของเศรษฐกิจว่าฝ่ายของคนไทยมีประสิทธิภาพสูง อันนี้ยังมีเครดิตอยู่ แต่ถ้าเราไม่ปรับปรุงเรื่องน้ำท่วมแล้วปล่อยให้ปีหน้ามาอีก ผมมองว่าไม่เหลือแล้วอุตสาหกรรม เขาจะไปหมด ไปหมดจริงๆ อย่างอุตสาหกรรมรถยนต์ คอมพิวเตอร์ อิเลคทรอนิกส์ เขาจะย้ายหนีไปอยู่จีนกันหมด

มองอย่างไรที่สหรัฐอเมริกาเริ่มกลับมาในเอเชียอีก และจีนก็ยังขยายตัวอยู่ในแถบนี้ ประเทศไทยเราควรวางตัวยังไง
สหรัฐอเมริกาไม่กลับมาในเชิงการลงทุนมากนัก ทั้งที่อเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของไทย แต่ตอนนี้ก็เล็กลง ยุโรปกับจีนมีบทบาทสูงขึ้น แต่ปัญหาของประเทศไทยคือว่า ทั้งได้ทั้งเสียตลอดเวลาจากประเทศจีน ได้ในเชิงตลาด แต่เวลาเดียวกันเราก็เสียด้านการแข่งขันด้านการผลิต ทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม แต่วัดไปวัดมาแล้ว จีนได้เปรียบเรา แต่มันไม่ออกมาเป็นตัวเลข เพราะสินค้าจีนใช้วิธีการลักลอบนำเข้ามา อย่างมหาศาลโดยผ่านเส้นทางภาคเหนือ ถ้าเราทำทางรถไฟ ถ้าเราทำถนนยิ่งไปกันใหญ่เลย นี่ขนาดเรืออย่างเดียว เรือที่ลงมาจากจีนที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีอยู่ท่าเดียวที่มีด่านศุลกากร อีก 5 ท่าไม่มี เรือจีนลงปล่อยสินค้าเป็นสินค้าเถื่อนทั้งนั้น อันนี้เป็นปัญหาของรัฐ ที่ไม่เคยมีการแก้ไขเลย
ปัญหาที่สองคือว่า ถ้าบทบาทเปลี่ยนไปมากกว่านี้ อย่างเช่นพม่า พม่าที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่ดูเหมือนว่าอเมริกากลับเข้ามา เพราะว่าตัวเองนั้นไม่สามารถต้านทางการครอบงำของจีนได้อีกแล้ว อันนี้มีหลักฐานชัดเจนว่า เมืองมัณฑเลย์ กลายเป็นเมืองจีนไปแล้ว ชาวพม่าไปอยู่รอบนอกหมด ไปอยู่ตามสลัม ตรงกลางเป็นคนจีนหมดเลย ไม่พูดภาษาพม่า พูดภาษาจีนอย่างเดียว แล้วภาคเหนือทั้งหมดตั้งแต่เมืองยอนลงมา กลายเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะฉะนั้นอยู่ใกล้จีนมีทั้งดีทั้งเสีย ถ้าเราไม่ระมัดระวัง  ไม่เข้มแข็งด้วยตัวของเราเอง เราจะลำบาก และเราจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ในการควบคุมทั้งสินค้าที่เป็นสินค้าคน ยาเสพติด สินค้าผิดกฎหมายทุกอย่าง
ผมว่าอนาคตทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับภายในประเทศ ทำไมประเทศสวิตเซอร์แลนด์จึงเข้มแข็งได้ ก็เพราะระบบภายใน จึงต้านทานสงครามโลกครั้งที่ 2 การฆ่ากัน การทิ้งระเบิด มันไม่เคยเข้าไปร่วมเลย มันได้ประโยชน์อย่างเดียว และสร้างสรรค์สังคมที่มีประสิทธิภาพมาก แล้วสังคมที่มีประสิทธิภาพมาจากอะไรรู้มั้ย มาจากการมีประชาธิปไตยที่สูงที่สุดในโลก ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกระดับเลย อันนี้คือความเข้มแข็ง ซึ่งตรงกันข้ามกับการพัฒนาที่เราเห็นมา แต่บ้านเราจะมาแก้กฎหมายเพื่อให้คนมีอำนาจไม่ต้องโดนลงโทษอะไรอย่างนั้นหรือ เปล่า
เมื่อก่อนนี้คนชั้นล่างในต่างจังหวัดไม่มีความคิดทางการเมืองเท่าไหร่ แต่ว่าโดนกำหนดโดยการประท้วงที่กรุงเทพฯ ที่นำไปสู่การอุ้มชูของปัญญาชน ที่จะมาร่างกฎระเบียบใหม่ เพื่อที่จะปรับปรุงสังคมไทยในรูปแบบใหม่ นี่คือการพัฒนาส่วนหนึ่งของประเทศไทย แต่ปัจจุบันนี้เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว แต่การที่จะมี ส.ส.ร.(สภาร่างรัฐธรรมนูญ) ไม่ได้หมายถึงได้รับเสรีภาพเพิ่มขึ้น หรือเดินไปข้างหน้า บทที่ว่าด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนยังไม่เกิดการปฏิบัติเลย
ปัจจุบันเราจะไปสร้างถนน สร้างเขื่อน สร้างทางหลวงขนาดใหญ่ ไปทำลายทั้งหมู่บ้านก็ยังทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายบังคับการมีส่วนร่วมของประชาชน รัฐธรรมนูญมาตรา 68 หัวใจของประชาธิปไตยของประเทศเราไม่มีใครพูดถึงเวลา ตอนนี้กลายเป็นเรื่องทักษิณอย่างเดียว เรื่องของบุคคลเลย ความก้าวหน้าหรือล้าหลังจะอยู่กับคนๆนี้เหรอ ฝ่ายที่ไม่นิยมสถาบันเก่าก็มาสนับสนุนคนนี้ คนนี้ก็สนับสนุนให้รัฐบาลปราบปรามผู้ที่จะละเมิดสถาบันอีก แล้วเอาอะไรเป็นมาตรฐานละทีนี้ (หัวเราะ)
ความเปราะบางทางการเมือง และสภาพสังคมไทย ทำให้ประเทศไทยเกิดช่องว่างที่ต่างชาติจะเข้ามาทำอะไรก็ได้หรือเปล่า เช่น เรื่องการลงทุนแบบไม่รับผิดชอบ ขบวนการยาเสพติด มาเฟีย แก๊งต้มตุ๋น ฯลฯ
มีคนเคยเล่าให้ผมฟังว่า ตอนนี้พัทยาเป็นศูนย์อาชญากรของโลกไปแล้ว ทั้งรัสเซีย อุซเบกิสถาน จีน ไทย ฯลฯ ไปรวมกันอยู่ที่นั่นแล้ว รถราคาแพงขายดีที่สุดในโลกที่พัทยา เป็นแหล่งฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุด แต่ยังโชคดีที่อาชญากรรมวันต่อวันไม่สูงมากนัก ก็แสดงว่ามีระบบควบคุมให้มันอยู่อย่างสันติในประเทศไทย แต่ละปีอังกฤษขอให้เราส่งตัวผู้ต้องหากลับไปปีละ 10 กว่าคนทุกปี นี่คือน่าเป็นห่วง
อีกอย่างเรามีชายแดนติดกับพม่า ที่มีการผลิตยาเสพติด ล่าสุดสหประชาชาติรายงานว่าการผลิตฝิ่น และเฮโรอีนสูงกว่าอาฟกานิสถาน  แล้วประเทศไทยยังเป็นศูนย์ของการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายมากที่สุด ในโลก  สภาพแบบนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่เคารพกฎหมายของเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะว่าอยู่ในเศรษฐกิจที่ผิดกฎหมายด้วย มันก็สร้างรายได้สร้างอะไรขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง เขาก็ยินยอมร่วมมือ เพราะเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่มาก ที่ร่วมกันสร้างและร่วมกันปกป้องด้วย แล้วมีหน่วยไม่กี่หน่วยที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย ผมทำเรื่องการค้ามนุษย์ การค้าสัตว์ป่า มา 15 ปีแล้ว แต่ละปีเราได้ตำรวจที่ฝึกฝนมาอย่างดี เราผลิตขึ้นมาทุกปี แต่ตลาดสิ่งเหล่านี้ก็ขยายขึ้นทุกปี ทุกปีจับได้มากขึ้นแต่จับไม่ไหว เพราะรุ่งขึ้นมันมาอีกแล้ว
ส่วนการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์เราต้องตกลงกับจีน พม่า ลาว เขมร เวียดนาม ไทย เราต้องตกลงกันว่าเราต้องร่วมมือกันปราบปรามเรื่องนี้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย จะต้องร่วมมือกัน แล้วรัฐบาลจะต้องหาวิธีที่จะแก้ไขให้ดีที่สุด ให้การค้ามนุษย์ไม่เกิดขึ้น ข่าวที่ว่าชาวเขมร พม่า ต้องมาตายในเรือประมงของไทยต้องยุติแล้ว ต้องหยุดแล้ว และจะต้องมีการร่วมมือกันในระดับสากล
ไทยดูเหมือนจะทำดีแต่กลายเป็นตัวละเมิดหลักเลย เพราะนักธุรกิจไทยเป็นตัวนำเลยในการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรืออย่างเรื่องการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย จีนเป็นตัวนำเลย เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในการบริโภคสัตว์ป่า ตามมาด้วยเวียดนาม ตามมาด้วยเกาหลี ประเทศพวกนี้ต้องเปลี่ยนวัฒนธรรม อเมริกาเป็นประเทศที่ค้าสัตว์ป่าใหญ่ที่สุดรองลงมาจากจีน ประเทศพวกนี้ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่มันต้องเปลี่ยน เพราะประเทศเล็กแบบเราเป็นแหล่ง Supply

มองเรื่องการพัฒนาในประเทศแถบนี้อย่างไรเช่น เรื่องท่าเรือน้ำลึกและเขตอุตสาหกรรมในทวาย ประเทศพม่า การทำเขื่อนในลาว-เขมร การทำถนนจากจีนผ่านพม่า ลาว เพื่อไปออกทะเล
ประเทศไหนที่เข้มแข็งประเทศนั้นจะได้เปรียบ ที่สร้างนี่ ไม่ใช่ว่าลาวอยากจะสร้างนะ แต่ลาวไม่รู้ว่าจะเอารายได้มาจากไหน ลาวไม่มีคน ต้องใช้แรงงานจีน ฉะนั้นจีนจะสร้างตรงไหนลาวก็บอกเอาเลย จะเอาไม้เท่าไหร่เอาเลย ขอให้รายได้มา เพราะลาวไม่มีวัฒนธรรมในการสร้างโรงงาน ในการสร้างรายได้อื่น เพราะอยู่กันแบบเผ่าพันธุ์แบบพ่อแม่พี่น้อง ไม่มีวัฒนธรรมการใช้แรงงาน จึงถูกเอารัดเอาเปรียบเยอะมาก เช่นเดียวกับพม่า
ถ้าไปดูที่สอบสองปันนา ยูนาน จะเห็นต้นไม้ใหญ่ๆ เขาขายกันเลย อายุร้อยปีพันปี ตัดเป็นโต๊ะเลย ถามว่าเอามาจากไหนบอกว่าเอามาจากพม่า เอามาจากลาว เฟอร์นิเจอร์ทำกันแบบเกือบยกกันไม่ไหว ขาหนึ่งอายุเกือบร้อยปี รูปแกะสลักทำด้วยหยกรูปมังกรขนาดใหญ่มาจากพม่าทั้งนั้น เป็นทรัพยากรแบบดิบๆจริงๆ ถามว่าคนพื้นที่ได้อะไร ก็ไม่ได้อะไร ตรงกันข้ามทำให้น้ำตกเสีย ทำให้ต้นน้ำลำธารเสียหาย ทำให้เขาอยู่ไม่ได้ เขาก็เลยต้องจับอาวุธสู้ ตามชายแดนทุกกลุ่มรบกับจีน รบกับพม่า รัฐบาลก็ทำหน้าที่ปกป้องการกระทำของจีนต่อประเทศของเขา ชนกลุ่มน้อยก็สู้ถึงวาระสุดท้าย จนเกือบจะสูญพันธุ์อยู่แล้ว นอกจากนี้การสร้างถนนหนทางเข้ามา ถ้าเราไม่พร้อมภายใน สร้างไปก็ไม่มีประโยชน์ เช่น สหพันธ์ยุโรปที่มีอยู่ 10 กว่าประเทศตอนนี้ เอาประเทศด้อยพัฒนาเข้าไป ซึ่งไม่เคยมีแหล่งทุน พอเข้าไปนายทุนที่ไม่มีศักยภาพ ไม่มีประสิทธิภาพ จาก กรีซ สเปน โปรตุเกส ก็ได้ทุนกู้จากประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน มันก็กู้หูดับตับไหม้ ทีนี้พอเจ๊ง ก็เจ๊งทั้งระบบ
ไทยพร้อมรับกับการจะเปิดเสรีอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือเปล่า
ปี 2558 เราจะได้เปรียบมหาศาล ถ้าเราไม่เปิด 100 เปอร์เซ็นต์กับจีนนะ ถ้าเราเปิดกับอาเซียน เราได้เปรียบ เพราะเราเข้มแข็งที่สุด เราแข็งกว่ามาเลเซีย อินโดนีเซีย คือเราผลิตสินค้าหลายระดับมาก ตั้งแต่เสื้อผ้า อิเลคทรอนิกส์ รถยนต์ คอมพิวเตอร์ มิหนำซ้ำช้อนส้อม ปิ่นโต โต๊ะ ถ้วยชามรามไห ฯลฯ ซึ่งประเทศของเรามีศักยภาพมากในการส่งออก ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านเขาก็กลัวเราด้วยนะ โดยเฉพาะมาเลเซียกลัวเรามาก รมว.ต่างประเทศมาเลเซียเคยบอกว่า สินค้าทุกอย่างในประเทศเขามาจากประเทศเราหมดแล้ว จริงๆแล้วมาเลเซียประชากรเขาน้อยกว่าเรา แต่เงินทุนเขาสูงกว่าเรา เพราะเงินทุนเขามาจากน้ำมัน แล้วเขาไปลงทุนที่อินโดนีเซียเยอะมาก ใช้แรงงานอินโดนีเซีย ส่งออกถ้าเสรีจริงๆ ไทยเราจะได้เปรียบมาก แต่สินค้าอินโดนีเซียก็เริ่มมีสีสัน ถ้าสินค้าอินโดฯ เข้ามาได้มากขึ้นผมว่ามีสีสันมาก อาจจะมีตลาดที่มีรสนิยมสูง คนที่ชอบวัฒนธรรม ความสวยงามอาจจะซื้อสินค้าจากอินโดนีเซียในราคาถูกหน่อย อาจจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับอินโดฯ และหากเราจะขายให้อินโดฯก็น่าจะดี เพราะประเทศเขาตลาดใหญ่มาก
มองเรื่องผลกระทบอย่างไร อย่างเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรี
ไม่ต้องกังวล เพราะในประเทศเราตอนนี้เกือบ 5 ล้านคนมาจากพม่า มันจะมาอัดไปมากกว่านี้ก็ลำบากแล้ว ของเรามันเคลื่อนย้ายแบบเสรีมานานแล้ว แต่เสรีแบบผิดกฎหมาย แล้วเราก็รับไม่รู้กี่รุ่นแล้ว ข้อสำคัญคือว่า มันเป็นสิ่งดีหรือเปล่า มันมีความพยายามที่จะให้ความเป็นธรรมหรือเปล่า หรือเป็นการซ้ำเติมความอยุติธรรมที่อยู่ในประเทศไทย แล้วจะไปกดดันให้วัฒนธรรมของคนไทยต่ำลงด้วยหรือเปล่า กลัวเรื่องสุดท้ายนี้ เพราะที่ผ่านมาน้อยมาก ที่จะเอาเรื่องแรงงานต่างด้าวมาเป็นประเด็น ไม่ว่าในรัฐสภา หรือที่ไหน แต่ในสื่อนี่มีบ้างไม่มากก็น้อย แต่อย่างน้อยก็มีความพยายาม
ผมหวังว่าความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น อย่างคนที่ใช้แรงงานพม่า และอยู่ในสภาก็ยังพูดถึงบ้าง ยังพูดถึงโดยยอมรับความเป็นจริงว่า เรายังไม่ได้ให้ความเป็นธรรมเขาอย่างเพียงพอ หมายถึงว่าถ้าประชากรที่มหาชัย มีพม่าอยู่ 3 แสนคน มีคนไทยอยู่ราว 8 หมื่น คน 3 แสนคนนี้รวมลูกหลานไปด้วยก็ราว 5 แสนคน เราจะให้บริการด้านการสาธารณสุข ด้านการศึกษาต่อลูกหลานของเขาหรือเปล่า นี่เป็นคำถามใหญ่ที่เราจะต้องทำ 4-5 แสนคนที่แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเข้ามาอยู่ค่อนข้างจะถาวรแล้ว เราจะทำอย่างไร

ขอบคุณภาพจาก www.backtohome.org, www.oknation.net

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง