กรณี “เฟซบุ๊ค” ของ “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2554 เวลา 10.15 น. ได้แพร่ข้อความว่า “5 ธันวา รวมพลังคนไทย รวมหัวใจถวายพระพรชัยมงคล” แต่ภาพประกอบกับลงพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8) ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก
จนที่สุด “บัณฑูร สุภัควณิช” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพราะทีมงานที่คอยดูแลเฟซบุ๊คนายกฯเป็นคนทำ นายกฯไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยทีมงานดังกล่าวไม่ใช่คนของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นออร์แกไนเซอร์ที่จ้างมาอีกทีหนึ่ง
ขณะที่ “ยิ่งลักษณ์” ก็ระบุว่า ได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว...แต่ “ความเคลื่อนไหว” ในการ “นำตัวบุคคลที่ดำเนินการเรื่องนี้” กลับเงียบหายไป ผิดกับกรณีทวิตเตอร์นายกฯที่โดนแฮ็กข้อมูล ที่เจ้าหน้าที่รัฐและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง...ต่างกระตือรือร้นในการตามตัว “คนทำ” มาเอาผิดได้อย่างรวดเร็ว
ล่าสุด “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ให้ข้อมูลผ่านคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา...เองว่า “คนที่โพสต์ชื่อ ‘ยู้’ เป็นเด็กที่ตามน.ส.ยิ่งลักษณ์มาจากบริษัท จนตามมาทำงานที่พรรค แล้วก็มาอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยโพสต์ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะไม่รู้ว่า พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 8 กับพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 แตกต่างกันอย่างไร”
โดยประเด็นที่สำคัญก็คือ ในช่วงท้าย...ร.ต.อ.เฉลิมเป็นคนหลุดปากออกมาเองว่า “น้องยู้...ยังอยู่หน้าห้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่”
ความเคลือบแคลงใจดังกล่าว...ก่อให้เกิดความสับสนอย่างยิ่งว่า ตกลงแล้ว ผู้ที่เป็นคนโพสต์คือ ทีมงานออแกไนเซอร์ที่จ้างมาตามคำกล่าวอ้าง หรือเป็นทีมงานส่วนตัวของนายกฯกันแน่...และโดยเฉพาะกับประเด็นว่า “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างไร และจะดำเนินการเอาผิด “คนโพสต์” อย่างไร...
เพื่อให้ได้ความคืบหน้าต่อเรื่องนี้ “ไทยอินไซเดอร์” ขอนำไปสนทนากับบุคคล 2 ท่านจากพรรคฝ่ายค้านและจากวุฒิสภา
คนแรก...น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะพรรคฝ่ายค้านที่จะเดินหน้าเกาะติดเรื่องนี้
คนที่สอง...นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา...ที่เกาะติดเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
ข้อสงสัยที่แทบจะไม่ต่างกันของทั้งคู่คือ “ความผิดพลาดหนี้...ทำกันเป็นขบวนการหรือไม่” นี่คือโจทย์ที่ถูกตั้งขึ้น...เพื่อรอคอยค้นหา “คำตอบ”...โปรดติดตาม
................................
“รังสิมา รอดรัศมี” ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์
Q : กรณีที่มีคนโทรศัพท์มาร้องเรียนเกี่ยวกับบุคคลใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร) ที่เป็นคนโพสต์ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ในเฟซบุ๊คส่วนตัวที่มีข้อผิดพลาด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
A : มีคนโทรศัพท์มาบอกว่า กรณีที่มีคนในรัฐบาลออกมาบอกว่าคนที่ชื่อ “ยู้” (ทีมงานนายกฯที่เป็นคนโพสต์ ภาพ) ออกไปแล้ว แต่จริงๆแล้วคนที่ชื่อ “ยู้” นี้ก็ยังอยู่ที่ทำเนียบฯ ยังไม่ได้ไล่ เพราะฉะนั้นเนี่ย มันไม่มีความผิดอะไรเลยหรือ เขาก็มาถามเรา
Q : เมื่อมีการร้องเรียนมายังคุณรังสิมาแล้ว พรรคประชาธิปัตย์จะมีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรต่อไป
A : คือยังไม่ได้เข้าประชุม เพราะเขาเพิ่งโทรมา แล้ววันอังคารหน้า (27 ธ.ค.) จะมีการประชุมพรรค พี่ก็จะไปคุยเรื่องนี้ที่เขาร้องเรียนมาที่เรา อาทิตย์ที่ผ่านมา เรายังไม่ได้ข้อมูลตัวนี้ เราก็เลยว่า เดี๋ยวจะเอาเข้าหารือในที่ประชุมพรรค ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ
Q : เหตุใดจึงมีการโทรศัพท์มาหาคุณรังสิมา
A : คือเขาติดต่อหลายๆคน แต่ทีนี้หลายคนมันติดต่อไม่ได้ และเขาเห็นว่าเราเป็นคนตรงไปตรงมา ร้องเรียนอะไรแล้วมันไม่เสียหาย หมายถึง...มันไม่หายไป เราก็จะดำเนินการให้ แต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องสถาบัน เพราะฉะนั้นเราต้องไปหารือในพรรคก่อน
Q : ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเอาผิดได้อย่างไรบ้าง
A : ที่จริง...น่าจะเอาผิดได้นะ เพราะว่ามันเป็นสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ อีกอย่างหนึ่ง...จากการที่มีการคุยกับพี่ “เขา” แจ้งไปหลายหน่วยราชการ ทั้งรัฐมนตรี ใครต่อใครให้ดำเนินการ ก็ไม่มีใครดำเนินการ “เขา” ก็เลยต้องโทรไปหาท่านนายกฯเองให้ดำเนินการ มันก็ไปลิงค์กับวัดทางขอนแก่น ที่เอารูปรัชกาลที่ 8 ขึ้น คือมันสื่อถึงอะไร...มันเป็นเจตนาหรือเปล่า “เขา” ก็เลยเกิดความสงสัยว่ามันทำเป็นขบวนการ มันไม่ใช่ว่าผิดพลาด คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีถ้าเมื่อจะโพสต์อะไรแล้วมันต้องรับผิดชอบ จะมาอ้างว่าทีมงานทำแล้วตัวเองไม่รู้เนี่ยมันไม่ได้ แล้วมันผิดพลาดบ่อยๆอย่างนี้ทำยังไง ผิดทุกวัน ขอพระราชทานอภัยโทษทุกวันมันถูกมั๊ย มันไม่ได้ไง
Q : การเสนอต่อที่ประชุมพรรคจะเสนอในแง่มุมใด
“ต้องไปถามว่าตามกฎหมายสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ถ้าดำเนินการได้จะดำเนินการได้อย่างไร ต้องให้พรรคตอบเราด้วย เพราะมีคนโทรมาเยอะ”
Q : การที่มีคนส่งเรื่องนี้ เพราะไว้ใจคุณรังสิมาให้ดำเนินการ เพราะเป็นคนไม่ทิ้งเรื่อง เชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการได้มากน้อยเพียงใด
A : พี่นี่ให้ความสำคัญกับคนที่ร้องเรียนแทบทุกเรื่อง ก็ต้องไปสืบดูว่า เรื่องที่ร้องเรียน “จริงหรือไม่จริง” แต่อันนี้มันเป็นเรื่องจริง เพราะเขาขอพระราชทานอภัยโทษ เพราะมีคนมาชี้แจงตอนประชุมกรรมาธิการงบประมาณฯ พี่ก็ถามเรื่องนี้ในที่ประชุม เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นอย่างนี้จริง เขาร้องเรียนมาว่าการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ แล้วอีกอย่างคือที่บอกว่า “ไล่ออกแล้ว” แต่ไม่ได้ไล่ออกเนี่ย ก็ยังทำงานเหมือนเดิม ถ้าเกิดเป็นแบบนี้บ่อยๆ ผิดพลาดบ่อยๆ เขาจะดำเนินการอย่างไร พรรคเราจะดำเนินการในประเด็นนี้อย่างไรบ้าง
Q : ในที่ประชุมกรรมาธิการงบฯมีการสอบถามถึงประเด็นนี้และมีการชี้แจงอย่างไร
A : พี่ถามว่ามีมั๊ยในกรณีที่ไปทำผิดแล้วไปขอพระราชทานอภัยโทษ แล้วท่านไม่เคยอภัยโทษมีมั๊ย...ส่วนใหญ่ก็จะอภัยโทษหมด พี่ก็บอกว่าถ้าอภัยโทษแล้วคนที่มันทำผิดซ้ำๆ มันไม่สำนึก มันก็ขออภัยโทษอย่างนี้ ทางหน่วยงานเขามีการป้องกันแก้ไขอย่างไร
Q : ถ้าอ้างว่าเป็นทีมงาน จ้าง “ออร์กาไนเซอร์” มาทำงานให้ นายกฯไม่ได้ทำเอง เราสามารถเอาผิดตัวนายกฯได้หรือไม่
A : ประเด็นนี้เป็นประเด็นทางกฎหมายไง พี่ต้องไปถามนักกฎหมายก่อนว่า ในกรณีนี้เขาเป็นผู้ว่าจ้างออร์กาไนฯไปทำผิดเนี่ย คนว่าจ้างต้องรับผิดชอบมั๊ย ถ้าคนว่าจ้างไม่ผิด แล้วคนที่ไปรับจ้างมันผิดมั๊ย ถ้าไม่ผิดมันก็ทำผิดอย่างนี้บ่อยๆ ถูกมั๊ย มันก็จะได้ใจ ต่อไปมันจะโพสต์อะไรก็ได้ แล้วก็ไปขอพระราชทานอภัยโทษ อย่างนี้ก็ขอกันทั้งปี ถ้ามันจงใจ
Q : คนระดับนายกฯถ้าทำผิดบ่อย มันก็ไม่ดี
A : ก็นี่ไง การเป็นนายกฯแล้วทำอะไรผิดแล้วผิดซ้ำๆ ผิดบ่อยๆ แล้วโดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับสถาบัน พี่ว่ามันน่าจะมีความรับผิดชอบตัวเอง ว่าสมควรที่จะอยู่หรือไม่อยู่ เป็นได้มั๊ยนายกฯเรื่องแค่นี้ยังบริหารจัดการไม่ได้เนี่ย แล้วมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบันด้วย มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
Q : ส่วนตัวในฐานะเป็นผู้หญิง การเป็นผู้หญิงย่อมจะต้องละเอียดอ่อนอยู่แล้วหรือไม่
A : ปกติ “ผู้หญิง” ต้องละเอียดอ่อนกว่า “ผู้ชาย” ด้วยซ้ำไป แต่มันอยู่ที่คนอีกแหล่ะ ผู้หญิงบางคนก็แย่ก็มี...เยอะแยะไปที่ไม่ใส่ใจอะไรเลย ไม่ได้ดูอะไรเลย เพราะมันไม่มีสมอง คือบางคนสักแต่ว่าเป็นผู้หญิง แต่ความละเอียดอ่อนไม่มี ความรอบคอบไม่มี ผู้หญิงต้องละเอียดรอบคอบ อดทน ซื่อสัตย์ แต่บางคนมันไม่มี ไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย มีแต่ร่างกายเป็นผู้หญิง แต่อย่างอื่นไม่เป็นเลยก็เยอะแยะไป
……………………………
“สมชาย แสวงการ” ส.ว.สรรหา และรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา
Q : ในส่วนของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา จะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร
A : เริ่มต้น...เราพบข่าวจากหนังสือพิมพ์ ก็เห็นว่าเรื่องกระทบกระเทือนร้ายแรง ถึงแม้นายกฯจะทำหนังสือขอพระราช ทานอภัยโทษแล้ว กรรมาธิการฯก็หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพิจารณา เพราะเห็นจากข่าวที่นายกฯออกมาให้ สัมภาษณ์ว่าเป็นทีมงานออร์กาไนซ์ทำ และได้ยกเลิกการจ้างไปแล้ว แต่เราก็คิดว่า เรื่องนี้จะปล่อยเฉยไปไม่ได้ เพราะว่าเป็นความผิดพลาดที่ควรจะสอบต่อว่าใครเป็นผู้กระทำ และทำด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือมีเจตนาอย่างหนึ่งอย่างใด เรื่องนี้เลยมีการเชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะเจ้าของเฟซบุ๊ค ไม่ได้เชิญในฐานะนายกฯ เชิญในฐานะตัวบุคคล ซึ่งบังเอิญมีตำแหน่งเป็นนายกฯด้วย
ทีนี้คุณเฉลิม (อยู่บำรุง) แกเป็นรองนายกฯ แกก็รับมอบจากนายกฯ โดยบอกว่านายกฯมีภารกิจสำคัญเดินทางไปต่างจังหวัดที่เชียงใหม่ ขอมาชี้แจงแทนในฐานะผู้มีหน้าที่เป็นประธานตรวจสอบเรื่องการกระทำความผิด เกี่ยวกับเว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่นายกฯแต่งตั้ง กรรมาธิการก็พิจารณาแล้วว่าเราเชิญนายกฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นการส่วนตัว แต่เมื่อคุณเฉลิมรับมอบอำนาจมาชี้แจงด้วยความอาจจะไม่เข้าใจว่า “เราเชิญเป็นการส่วนตัว” ก็มีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบเว็บไซต์ฯก็ได้เชิญมาด้วยเพื่อจะได้ฝากเรื่องไป โดยก่อนหน้าที่คุณเฉลิมจะมาถึง ก็มีคณะบุคคล นำโดย “บวร ยสินทร” (อดีตกรรมการสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) มายื่นหนังสือในช่วงเช้าวันเดียวกัน ขอให้มีการดำเนินการสอบเรื่องนี้ กรรมาธิการก็รับเรื่อง โดยมีการลงเลขรับเรียบร้อย ก็ถือเป็นการเข้าเรื่องร้องเรียนของกรรมาธิการ เป็นการดำเนินการตามกระบวนการ
“คุณเฉลิมได้ชี้แจงว่า แกได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ว่ามีการทำอย่างไร เขาบอกว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้ติดตามนายกฯมาจากบริษัท และเคยมาอยู่ที่พรรค แล้วตอนนี้นายกฯไม่ได้ให้ทำงานแล้ว ให้ออกไปแล้ว อันนี้ทราบแต่เพียงชื่อเล่น ยังไม่รู้ว่าชื่อจริงคือใคร ก็บอกว่าเรื่องนายกฯได้ทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว ส่งผ่านท่านราชเลขาฯ แล้วท่านราชเลขาฯก็ได้ตอบกลับไปแล้วว่า ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลแล้ว เรื่องก็เพียงแค่นี้ที่ท่านเฉลิมชี้แจง ซึ่งก็ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการก็ต้องพิจารณาสอบถามไปยังคุณยิ่งลักษณ์โดยตรงว่า เป็นเช่นนั้นจริงหรือเปล่า และเราประสงค์จะเชิญผู้ที่ถูกพาดพิงก็เป็นคนสนิทของน.ส.ยิ่งลักษณ์ผู้นั้น ซึ่งขณะนี้เราทราบชื่อเล่นแล้ว แต่คงไม่ขอเปิดเผย แล้วก็จะเชิญท่านนั้นมาให้การกับคณะกรรมาธิการฯต่อไป”
Q : ตัวคุณยิ่งลักษณ์และคนสนิทคนนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องมาชี้แจงกับคณะกรรมาธิการฯด้วย
A : จำเป็น...เนื่องจากเรื่องนี้คงจะปล่อยผ่านไปเฉยๆไม่ได้ เพราะ 1.มีผู้ร้อง 2.มีเหตุการณ์ประจวบเหมาะกันโดยบังเอิญหรือไม่ อันนี้ต้องสอบต่อเพราะว่ามีข่าวเรื่องการนำรูปพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 8 ไปโพสต์ตามเว็บต่างๆ แล้วก็เหมือนกับจะพร้อมๆกันกับกรณีการโพสต์ภาพดังกล่าว ซึ่งต้องเรียนตรงๆว่าเวลาจะถวายพระพรพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน คุณสามารถ Search ในเว็บหาได้เป็นพันเป็นหมื่นรูป และหาง่ายมาก การไปหาพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นวันที่พระราชทานพระราชหัตถเลขารัฐธรรมนูญให้กับนายปรีดี พนมยงค์ ไม่ใช่ภาพที่หาง่าย มันก็เลยทำให้อยากจะรู้ว่าผู้ที่อ้างว่านำมาโพสต์เพราะความตั้งใจดีว่าเป็นภาพที่ไม่เหมือนใครด้วยความเข้าใจผิดเนี่ย มันจริงหรือเปล่า หรือมันเป็นการทำร่วมขบวนการซึ่งทำพร้อมๆกัน เรามาพบเอกสารบางอย่างในเว็บไซต์บางแห่งมีการเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวใน ระยะเวลาต่อเนื่องกัน...ใกล้เคียงกัน
Q : มีข่าวว่าคุณเฉลิมให้การกับคณะกรรมาธิการค่อนข้างสับสนเอง โดยเฉพาะกรณีของตัวบุคคลที่เป็นคนโพสต์รูป ที่ตอนแรกบอกว่าไล่ออกไปแล้ว แต่ตอนหลังก็บอกว่ายังทำงานอยู่ในทำเนียบฯ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
Q : มีการระบุว่า จะมีการส่งหลักฐานให้คณะกรรมาธิการฯเพื่อพิสูจน์ถึงตัวบุคคลคนนี้ ว่ายังทำงานกับนายกฯจริงในทำเนียบฯ เช่นบัตรประจำตัวที่ทางทำเนียบฯออกให้ ทางกรรมาธิการได้รับหรือยัง
A : ยังไม่ได้รับ เพราะถ้ามี...กรรมาธิการก็จะรับไว้พิจารณา ก็ต้องดูให้ความเป็นธรรมด้วยว่าเป็นคนๆเดียวกันหรือเปล่า เพราะกรรมาธิการก็ทราบแต่ว่าชื่อเล่น เป็นผู้หญิง
Q : เหตุใดการดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายเรื่องนี้ จึงไม่คืบหน้าทั้งที่เป็นคนใกล้ชิดนายกฯเอง ต่างจากกรณีการจับกุมมือป่วนทวิตเตอร์นายกฯก่อนหน้านี้ ซึ่งสามารถติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็ว
A : ก็สังคมคงตั้งข้อสังเกตได้ครับ ตอนนั้นรัฐมนตรีไอซีทีก็แถลงโดยเร็วว่า มีเด็กสถาปัตย์ จุฬาฯคนนั้นที่แฮ็กฯเข้าไปในข้อมูลของนายกฯ ก็ภายในวัน 2 วันก็เรียบร้อย อันนี้ก็เป็นข้อสังเกตครับ เพราะว่าเป็นคนของท่านนายกฯเอง โดยที่คุณบอกว่าเป็นคนติดตามนายกฯตั้งแต่อยู่ที่บริษัท แล้วติดตามมาที่พรรคการเมือง แล้วก็ติดตามมาที่ทำเนียบฯ ก็ขัดแย้งกับข้อมูลที่บอกว่าเป็นออร์กาไนซ์แล้วถูกปลดไปแล้ว อันนี้ท่านนายกฯต้องเป็นคนชี้แจง อีกทั้งหน้าเว็บไซต์มันถูกเผยแพร่อยู่นานถึงประมาณ 10 กว่าชั่วโมง แล้วก็มีคนทักแล้ว เหตุไฉนยังไม่เอาออกตั้งแต่ตอนต้น ซึ่งก็รู้ว่าผิด อันนี้เป็นคำถามที่กรรมาธิการสงสัยอยู่
Q : กรรมาธิการฯจะติดตามตัวบุคคลคนนี้มาสอบและพิสูจน์ยากหรือไม่
A : ไม่ยากครับ ก็คงถามจากคุณยิ่งลักษณ์ เพราะว่าชื่อที่คุณเฉลิมให้การไว้ ก็เป็นชื่อเล่น และถูกระบุว่าเป็นคนของคนยิ่งลักษณ์ ทำงานอยู่ที่ทำเนียบฯ
Q : ตามกฎหมายถ้ามีการขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว สามารถดำเนินการเอาตามกฎหมายได้หรือไม่
A : คงไม่ได้หมายความว่า จะเอาผิดใครนะครับ เราคงต้องการรู้ข้อเท็จจริงว่า ตกลงมีเจตนาอะไร ผู้กระทำ กระทำการแทนในเฟซบุ๊คของนายกฯ ซึ่งได้ขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว...อันนี้รับได้ หมายถึงนายกฯไม่ได้มีความผิดอะไร แต่ว่าผู้กระทำกระทำการแทนโดยสุจริต หรือมีเจตนาแอบแฝง อันนี้กรรมาธิการก็อยากทราบ และถ้าเกิดเขามีเจตนาสุจริต ก็จะได้พูดคุยทำความเข้าใจกัน
Q : กรรมาธิการฯยังไม่ถึงขั้นระบุความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 มาตรา 16
A : คงไม่...ตอนนี้อยู่ในชั้นหาข้อมูลครับ
Q : ตามข้อมูลที่ได้มาถึงขั้นระบุว่า เป็นการกระทำที่ส่อเจตนาชัดเจนหรือไม่
A : ผมยังพูดถึงเรื่องเจตนาไม่ได้ เพราะว่าที่รองนายกฯเฉลิมมาให้การกับกรรมาธิการฯว่าได้พูดคุยแล้ว เขาบอกเขาไม่มีเจตนา อันนี้ก็ต้องมาดู
Q : จะใช้เวลานานหรือไม่ในการติดตามเรื่องนี้
A : สัปดาห์นี้คงพูดคุยว่าได้เชิญตัวนายกฯไปถึงไหน ตอบมาอย่างไร และจะสามารถส่งบุคคลดังกล่าวมาให้การกรรมาธิการได้หรือไม่ เมื่อใด ก็คงใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
Q : การที่คุณเฉลิมและคุณยิ่งลักษณ์ไม่มีการดำเนินการอะไรกับคนใกล้ชิด สามารถเอาผิดตามาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่
A : ก็คงต้องดูก่อนครับว่า “เขาผิดหรือเปล่า” ตอนนี้เรายังอยู่ในสมมติฐานที่อยากจะรู้ข้อมูลจากเขาว่าการทำมีเจตนาหรือขาดเจตนา
“เรื่องนี้คงต้องตาม ซึ่งต้องให้เวลากรรมาธิการฯด้วย ซึ่งสังคมเห็นแล้วว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น ซึ่งได้ขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว ที่กรรมาธิการรับเรื่องจากพี่น้องประชาชนมาก็คงต้องติดตามเพื่อตอบให้ได้ว่า เรื่องนี้ถ้าไม่มีเจตนาก็ต้องมีคำตอบ หรือมีเจตนาแล้วไปเกี่ยวพันกับขบวนการ เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิด”
Q : ขบวนการที่พูดถึงเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่
A : ยังไม่ระบุ เพียงแต่ว่ามีข้อมูลเห็นความเคลื่อนไหว แต่ว่าจะเชื่อมโยงกันหรือไม่ อันนี้ยังต้องดู
Q : กรรมาธิการฯได้รับข้อมูลการเชื่อมโยงไปถึงการดำเนินการติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ที่วัดแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่นหรือไม่
Q : สงสัยว่ามีความเกี่ยวโยงถึงกันหรือไม่
A : ก็มีการพูดถึงกันในข่าว เพราะว่าในภาพข่าว และฟังข้อมูลการชี้แจงก็ยังเป็นประเด็นที่บางคณะกรรมาธิการก็พูดถึง แต่ว่าก็ต้องติดตามต่อ
Q : มีการพูดถึงขั้นว่าที่กรรมาธิการฯเข้ามาทำเรื่องนี้ต้องการล้มนายกฯยิ่งลักษณ์ จะชี้แจงอย่างไร
A : เรื่องนี้คงล้มนายกฯไม่ได้มั้งครับ และเราไม่ต้องไปทำเรื่องการล้มนายกฯหรอกครับ ท่านทำอะไรท่านก็รับผิดชอบเองอยู่แล้ว มันก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้านกับรัฐบาล คงไม่เกี่ยวกับวุฒิสภา เราเองมีหน้าที่สอบสวนหรือพิจารณาตามที่กฎหมายให้อำนาจเรา แล้วเราเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการกระทำที่หมิ่นเหม่และเป็นความผิดพลาด เราไม่อยากให้เกิดขึ้นในฐานะกรรมาธิการมีหน้าที่ติดตามศึกษาติดตามการบังคับ ใช้กฎหมายเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ เราก็มีหน้าที่ดู ถ้าเป็นเรื่องอื่นเราก็ไม่ไปเกี่ยว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น