มันต่างจาก 112 ของไทยอย่างไร

ท่านทูตครับ ไหนบอกว่าอเมริกันชนส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ช่วยตอบหน่อย มันต่างจาก 112 ของไทยอย่างไร

 by บินผาดโผน , ผู้อ่าน : 1123 , 06:57:52 น.   

ศาลในมลรัฐเคนตักกีได้สั่งจำคุกผู้ที่เขียนบทกวีข่มขู่นายบารักโอบามาเป็นเวลาถึง 33 เดือน มากกว่ากรณีนายโจ กอร์ดอนที่ถูกตัดสินจำคุกในไทยตามมาตรา 112 ด้วยซ้ำ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาพยายามแสดงความเห็นห่วงต่อการดำเนินคดีผู้กระทำผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในไทยในทำนองที่ว่าเป็นการกำจัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและอ้างว่ารัฐบาลสหรัฐสนับสนุนให้มีเสรีภาพในการแสดงออกในทุกประเทศทั่วโลกและถือว่าเสรีภาพนี้เป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ นั้น แต่ในสหรัฐอเมริกาเองก็มีกฎหมายที่เอาผิดกับคนที่ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ เช่นกัน โดยมีกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งศาลในมลรัฐเคนตักกีได้สั่งจำคุกผู้ที่เขียนบทกวีข่มขู่นายบารัก โอบามาเป็นเวลาถึง 33 เดือน มากกว่ากรณีนายโจ กอร์ดอน ที่ถูกตัดสินจำคุกในไทยตามมาตรา 112 ด้วยซ้ำ คดีดังกล่าว ศาลในเมืองหลุยส์วิลล์ มลรัฐเคนตักกีได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2553 ให้จำคุกนายจอห์นนี่ โลแกน สเปนเซอร์ ชาวเมืองหลุยส์วิลล์ วัย 28 ปี เป็นเวลา 33 เดือน ด้วยข้อหาข่มขู่นายบารัก โอบามา กรณีที่นายสเปนเซอร์ได้เขียนบทกวี 16 บรรทัด ซึ่งมีเนื้อหาบรรยายถึงการใช้ปืนสไนเปอร์ลอบยิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ขึ้นบนเว็บไซต์แห่งหนึ่ง สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายสเปนเซอร์ได้กล่าวคำขอโทษต่อกรณีที่เขาได้เขียนบทกวีดังกล่าว และให้การว่า ขณะที่เขาเขียนบทกวีนั้น เป็นช่วงที่เขาอยู่ในภาวะโศกเศร้าเพราะการเสียชีวิตของมารดาและได้เข้าไป อยู่ในกลุ่มเชิดชูคนผิวขาว (white supremacist) ซึ่งช่วยให้เขาเลิกยาเสพติดได้ ผู้พิพากษาโจเซฟ เอ็ช.แม็กคินลีย์ จูเนียร์ ได้ตัดสินว่าบทกวีของนายสเปนเซอร์คือสิ่งที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งยวด จึงถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 33 เดือน และจะถูกคุมประพฤติอีก 3  ปีหลังพ้นโทษจำคุกแล้ว สำหรับบทกวีของนายสเปนเซอร์ที่ชื่อ"สไนเปอร์"นั้นเคยถูกโพสต์ขึ้น เว็บไซต์ NewSaxon.org ของกลุ่ม white supremacist ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มนาซีใหม่ เมื่อปี 2550 และถูกโพสต์ขึ้นอีกครั้งในปี 2552 หลังจากนายโอบามาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว ซึ่งจากการติดตามของหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ ทำให้สามารถจับกุมตัวนายสเปนเซอร์ได้เมื่อต้นปี 2553 โดยบทกวีดังกล่าว ได้พรรณาว่ามือปืนได้สาดกระสุนปลิดชีวิต"ทรราช" ซึ่งต่อมาได้ระบุชัดเจนว่าเป็นประธานาธิบดี ทำให้เขาถูกตั้งข้อหาจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ว่า กระทำการข่มขู่ประธานาธิบดีและข่มขู่เอาชีวิตหรือทำร้ายร่างกายผู้เข้าชิง ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งข้อหาข่มขู่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้นถือเป็นข้อหาร้ายแรงมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี และปรับสูงสุด 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7,500,000 บาท (เจ็ดล้านห้าแสนบาท)                                                                        Johnny Logan Spencer Jr คดีนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกหรือไม่ โดยฝ่ายที่ปกป้องนายสเปนเซอร์ให้เหตุผลว่า ข้อความในบทกวีของนายสเปนเซอร์เพียงแค่แสดงความไม่พอใจเท่านั้น ขณะที่ฝ่ายอัยการระบุว่าข้อความที่ว่า "คนผิวดำต้องตาย" (DIE negro DIE) นั้น เพียงพอแล้วที่จะยกเลิกการให้เสรีภาพในการพูดแก่นายสเปนเซอร์ นี่อีกกรณี เด็กอังกฤษ เขียนอีเมล์ส่งไปที่ทำเนียบ White House เรียกว่า Barack Obama "a prick". โดนแบนห้ามเข้าสหรัฐฯ ตลอดชีพ... Luke Angel  ชาวอังกฤษ วัย 17 ปี หลังชมทีวีเรื่องเหตุการณ์ 9/11 อ่านต่อได้ที่ : http://goo.gl/Eitqu prick,[N]อวัยวะเพศชาย (คำต้องห้าม),prick อ้างอิง -http://www.huffingtonpost.com/2010/12/06/johnny-logan-spencer-obama-threat_n_792894.html -http://whitereference.blogspot.com/2010/02/johnny-logan-spencer-latest-thought.html -http://www.newser.com/story/81371/man-charged-with-threatening-obama-in-web-poem.html -http://articles.businessinsider.com/2010-02-20/law_review/29977646_1_social-networking-supremacists-pazienza#ixzz1giFCKtcM -http://www.hillbillyreport.org/diary/1201/johnny-logan-spencer-jr-louisville-ky-arrested-for-threatening-barack-obama-with-poem-the-sniper   ข้อมูลจาก FBเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ช่วยกันไปเขียนประท้วง ที่ facebook ของสถานทูตมะกัน กรณี ทูตวิจารณ์ กฎหมายมาตรา ๑๑๒ เธอไม่รู้จริง แต่กรุณาใช้ภาษาสุภาพนะครับ ที่ http://www.facebook.com/usembassybkk?sk=wall&filter=12                       ลองอ่านข่าวเรื่องนี้ดูนะครับ อดีตทหารอเมริกันคนในภาพ ผู้ก่อเหตุโหดเหี้ยม ข่มขืนฆ่าเด็กหญิงอิรัคพร้อมครอบครัว แต่ในที่สุดก็ผิดหวัง ฆาตกรโหดคนนี้รอดโทษประหารเพราะลูกขุนลงมติไม่เป็นเอกฉันท์เรื่องโทษประหาร นายสตีเว่น เดล กรีน ทหารผ่านศึกชาวอเมริกัน ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มทหารอเมริกันที่ก่อเหตุรุมข่มขืนอาเบียร์ อัล-จานาบี เด็กหญิงชาวอิรักวัย 14 ปี ก่อนจะฆ่าโหดเธอกับพ่อแม่และน้องสาววัย 6 ขวบ ที่เมืองมามูดิยา ทางใต้ของกรุงแบกแดดเมื่อปี 2549 ทำให้เขารอดจากโทษประหารชีวิต และได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีทัณฑ์บนแทน ไบรอัน สการ์เรด อัยการผู้ช่วยบ่นว่า ทนายจำเลยพยายามทำให้กรีนกลายเป็นผู้เสียหาย โดยโทษว่าเป็นความผิดที่สมัยเด็กเขามีชีวิตที่ถูกทอดทิ้ง และปัญหาความเครียดในการออกรบ สการ์เรด ย้ำว่ากรีนไม่ได้ฆ่าโหดครอบครัวนี้จากสัญชาติญานหรือแรงกระตุ้นจากความเครียดในการสู้รบ และการที่เพื่อนทหารถูกสังหาร เขาชี้ว่า กรีนวางแผนข่มขืนและฆาตกรรมครอบครัวนี้ล่วงหน้า ด้วยจิตใจของอาชญากรที่ผิดมนุษย์และยังฉลองเมื่องานสำเร็จด้วย จากรายงานข่าวบอกว่า เด็กหญิงที่น่าสงสารคนนี้ถูกรุมข่มขืนอย่างทารุณ กระโหลกศีรษะของเธอถูกทุบแตก ขาทั้งสองข้างและหน้าอกถูกจุดไฟเผา ข้อมูลจาก ทหารอเมริกันที่ฆ่าข่มขืนเด็กหญิงอิรักและครอบครัวรอดโทษประหาร  http://www.oknation.net/blog/inter/2009/05/22/entry-2 อ่านแล้ว ลองวิจารณ์ดูเล่นๆคับ มีความพยายามทำให้เป็นคดีของคนโรคจิต เพื่อให้ได้รับการลดหย่อนโทษ ใช่หรือไม่ แต่ที่แน่ๆมันยังมีเพื่อนร่วมก่อคดีอีกตั้ง 3 คน สรุปทหารไอกัน มันบ้าๆบอๆกันเป็นส่วนใหญ่เลยหรือ... น่ากลัวว่าหากพวกนี้พ้นโทษมาเมื่อใด คนอเมริกันอาจตกเป็นเหยื่อฆ่าโหดอีกมากมายเป็นแน่... แล้วมาตรฐานการตัดสินคดีของคณะลูกขุน ดีพอแล้วหรือ ดีกว่าศาลไทย ดีกว่านานาชาติ จริงหรือ...?