ท่ามกลางความวุ่นวาย เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของรัฐบาลที่ออกมาในทิศทาง "ลบ"มากกว่า "บวก" สืบเนื่องมาจากการบริหารจัดการ "วิกฤติน้ำท่วม" ครั้งประวัติศาสตร์รอบนี้ กำลังส่งผลกระทบต่อสภาวะความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อรัฐบาล มีต่อนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มากขึ้นตามลำดับและดูจะยืดเยื้อ เรื้อรัง
จนมีแนวโน้มว่าปัญหาการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรง รอบนี้ยังไม่ได้รับการคลี่คลายลงไปโดยเร็วแล้ว
ยิ่งเมื่อผนวกกับ "ความขัดแย้ง" ระหว่าง "รัฐบาล-กทม." ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนของการเมืองต่างขั้ว ได้เพิ่มระดับดีกรีมากขึ้นแล้ว
ดูจะเป็นไปได้ว่า "แรงเสียดทาน" ในทางการเมืองที่เคยสร่างซาลงไปก่อนหน้านี้ ย่อมกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ผ่านทั้งเกมในและนอกสภา
การใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรของทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล ไปจนถึงสมาชิกวุฒิสภา เพื่อตรวจสอบ ซักฟอกและ "เปิดโปง" ปมปัญหาและข้อผิดพลาดจากการบริหารของทั้งรัฐบาลและกทม. ตลอดทั้งสามวันที่ผ่านมา
ภายใต้วาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ในวาระแรกนั้น สามารถสะท้อนให้เห็นได้ถึงเกมรุกและรับของแต่ละฝ่ายได้ในระดับหนึ่งว่า ต่างฝ่ายต่างเตรียมตัวกันมาเป็นอย่างดี
ทั้งที่วาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ เมื่อวันที่ 9-10 พ.ย.นั้นถือเป็นเพียงรายการ "เรียกน้ำย่อย" ก่อนถึงวันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรี ในสมัยประชุมหน้า ซึ่งอาจส่อเค้าลางว่า "ความร้อนแรง" เกมในสภา ณ ห้วงเวลาดังกล่าวย่อมดุเดือดอย่างยิ่ง !!
ฉะนั้นด้วยเหตุที่ในเวลานี้ดูจะมีความชัดเจนว่า "รัฐบาล" ของนายกฯยิ่งลักษณ์ กำลังเผชิญหน้ากับศึกรอบด้าน ทั้งจากการตรวจสอบ เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม ผสมกับความไม่พอใจของบรรดาประชาชนที่กลายเป็น "ผู้ประสบภัย"
ยังไม่นับรวมกับความวุ่นวายจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มและขั้วการเมืองภายในพรรคเพื่อไทยที่ยื้อแย่งสิ่งของบริจาคภายในศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เพื่อตอบสนองต่อ "ฐานเสียง" ในพื้นที่ของตัวเองกันชนิดไม่มีใครยมถอยให้ใคร
ถึงแม้ใน "ภาพย่อย" ภายในพรรคเพื่อไทยเอง จะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย และชุลมุนปั่นป่วนกันเองก็ตาม ทว่าใน "ภาพรวม" ฐานะที่พรรคเพื่อไทย คือแกนนำรัฐบาลย่อมไม่สามารถหลีกเลี่ยง "ผลกระทบ" ที่เกิดขึ้นไปได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
แม้ตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้จะมีเสียงเล็ดรอดดังออกมาเป็นระยะๆ ว่าหากมีการ "ปรับครม."จริงๆแล้ว ย่อมไม่ใช่เฉพาะแค่รัฐมนตรีในโควต้าพรรคเพื่อไทยเพียงเท่านั้น ที่อยู่ใน "กลุ่มเสี่ยง" หากแต่ยังมีรายชื่อรัฐมนตรีจาก "พรรคร่วม" จากพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคชาติพัฒนา มีชื่อติดโผด้วยอีกต่างหาก
ไม่ว่าจะเป็นการ "ปรับครม." เพื่อลดแรงเสียดทานจาก "ภายนอก" หรือเพื่อ "สบช่อง" ยึดคืนในบางกระทรวงจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อนำมาบริหารจัดการเสียเองหรือไม่ก็ตาม
อย่างไรก็ดีมีความน่าสนใจว่ากระแสข่าวการปรับครม.ที่มีขึ้นเป็นระยะ ๆสลับกับเสียงโจมตีที่ดังกระทบเข้าใส่รัฐบาลและตัวนายกฯยิ่งลักษณ์ ครั้งแล้วครั้งเล่านั้น
แท้ที่จริงแล้วอาจมีความน่าสนใจ มากกว่าที่เห็นอยู่เบื้องหน้า โดยเฉพาะในสายตาของ "ฝ่ายตรงข้าม" ทั้งฝ่ายค้านและสว.บางกลุ่ม ซึ่งคาดหวังที่จะได้เห็น "การเปลี่ยนแปลง" คาดหวังที่จะได้เห็น "การเปลี่ยนตัว" ในบางตำแหน่งที่ถูกประเมินว่า "ทำงานไม่เข้าเป้า" นั้น
ในเบื้องลึกแล้ว "นัยยะ" และ "เป้าหมาย" ต่อการตัดสินใจเลือก "ปรับครม." ของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ในฐานะ "เจ้าของครม." ตัวจริง ย่อมต้องเล็งเห็น "ผลประโยชน์"ที่คุ้มค่า คุ้มทุนในช็อตต่อไปหลังน้ำลด ที่ยาวไกล
การตั้งข้อสังเกตุของหลายต่อหลายฝ่ายที่มองว่า หากเชื่อว่าเวลานี้นายกฯยิ่งลักษณ์ กำลังเผชิญหน้ากับ "มรสุมลูกใหญ่" แล้วนั้น อาจถูกต้องเพียงบางส่วนเท่านั้น
เพราะ "วิกฤติใหญ่" ที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมาหลังน้ำลด สภาพบ้านเมืองเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว ย่อมหนีไม่พ้นความวุ่นวายและความขัดแย้งในทางการเมืองรอบใหม่ ที่รออยู่เบื้องหน้า !
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ "งานใหญ่" ซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้อง พัวพันกับ "การกลับมา" ของอดีตนายกฯทักษิณ ยังแทบไม่มีความคืบหน้าใดๆเลยทั้งสิ้น
ทั้งปมประเด็นว่าด้วยเรื่องของการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ - การนิรโทษกรรม และล่าสุดคือการรื้อ พ.ร.บ.กลาโหม 2551 เพื่อลดทอน "อำนาจ" ออกจากมือ "บิ๊กทหาร" ในกองทัพ ถ่ายเทกลับมาอยู่ในมือของ "ฝ่ายการเมือง"
ทุกประเด็นร้อนที่ว่านี้ ต่างมีอันต้องหยุดชะงักไปโดยปริยายเมื่อ รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ 1" จำใจต้องวางมือจากเรื่องราวทางการเมือง เพื่อหันมา "สู้" กับวิกฤติน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
แต่นั่นย่อมไม่ได้ทำให้ "ธง" ที่เคยปักเอาไว้มีอันต้อง "ยุติ" ลงไปด้วยแต่อย่างใด ดังนั้นการปรับครม.จะมีขึ้นจริงหรือไม่นั้น แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นเพียง "เกม" หนึ่งเกมบนกระดาน
เพื่อยุติและเริ่มต้น "เกมใหม่" เพื่อยุติ "แรงเสียดทาน" รอบด้านที่โหมเข้าใส่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด เพื่อ "เปลี่ยนตัวเล่น" ปลดระวางรัฐมนตรีแถวบีและแถวซี ในขณะนี้ให้ม้วนเสื่อกลับบ้าน
จากนั้นเปิดทางให้ "ผู้เล่นเกรดเอ" ที่กระจายกันอยู่ในบ้านเลขที่ 111 และ "คนนอก" ที่รอต่อคิว ร่วมขบวน "ยิ่งลักษณ์ 2" ได้เข้ามาทำหน้าที่ต่อไปแทน
นั่นจึงเท่ากับว่า งานนี้ไม่เพียงแต่จะสามารถลดทอนแรงเสียดทาน "ภายนอก" จากสังคมได้เท่านั้น หากแต่จากปัญหาและความเชื่อมั่นที่ลดถอยลงของรัฐมนตรีในบางกระทรวง ได้กลายเป็น "ความชอบธรรม" ที่ "สยบแรงต้าน" ภายในพรรคได้ในระดับหนึ่ง
เมื่อ "ตัวผู้เล่น" ที่อยู่ในข่ายเสี่ยง มีโอกาสที่จะต้อง "ออกจากสนาม" สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือการสามารถ "ตัดวงจร" การตรวจสอบจากฝ่ายค้านไปได้โดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ไปจนถึงการยื่นถอดถอนรัฐมนตรี ย่อมสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อ "อำนาจ" ในมือของพ.ต.ท.ทักษิณ เพียงน้อยนิด
ขณะเดียวกันยังมีการตั้งข้อสังเกตุล่าสุดว่า การปรับครม.หากจะมีขึ้นจริงหรือไม่นั้น ยังต้องรอดูกันในช็อตต่อไปว่า "งานใหญ่" ในแต่ละเรื่องที่เกี่ยวข้องโยงใยกับการกลับมาของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ การนิรโทษกรรมนั้น "คืบหน้า" ไปถึง "ขั้นตอนใด"
ยิ่งปมประเด็นร้อนแรงทั้งหลายทั้งปวง เดินหน้าเข้าใกล้กับ "ความเป็นจริง" มากเท่าใด ควบคู่ไปกับการเผชิญหน้ากับ "แรงต้าน" รอบด้านจากฝ่ายตรงข้ามแล้ว
ยิ่งเป็นไปได้ว่าครม. "ยิ่งลักษณ์ 1" อาจต้องแบกรับกับสภาพที่ไม่ต่างไปจาก "หนังหน้าไฟ" ไปอีกพักใหญ่ ก่อนที่เกมใหม่ จะถูกเปิดขึ้น ผ่านการปรับครม. ไปสู่ "ยิ่งลักษณ์ 2" เพื่อเปิดหน้าผู้เล่น "ตัวจริง" บนกระดานในลำดับต่อไป !!
ทีมข่าวคิดลึก.
สยามรัฐ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น