บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

โต๊ะข่าวการเมือง การเมืองหลังน้ำลด!


สถานการณ์น้ำท่วมอ่วมหนักถึงขั้นต้อง อพยพผู้ประสบภัยจากมหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ ศูนย์รังสิต หนีน้ำมาอยู่ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ตื่นตระหนกเข้าไปใหญ่ เมื่อมีกระแสข่าวหลุดข่าวปล่อยออกมาว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. เตรียมถอนสมอออกจากท่าอากาศ ยานดอนเมือง ไปนั่งบัญชาการที่อำเภอศรีราชา จังหวัด ชลบุรี
ในขณะเดียวกัน กระแสน้ำเริ่มทยอยซึมลึกเข้าสู่ กทม.ชั้นใน รถราที่เคยวิ่งขวักไขว่ในเมืองกรุงชั้นใน วิ่งโล่งโปร่งสบายด้วย 2 สาเหตุ..คือเอารถไปจอดที่สูง และประชาชนหนีออกต่างจังหวัดเพื่อลี้ภัย มันก็ล้วน สะท้อนให้เห็นภัยร้ายแห่งมหาอุทกภัยได้เป็นอย่างดี
น้ำท่วมใหญ่รอบนี้ ดูเหมือนว่า สังคมไทยจะได้รับรู้อะไร อะไร มากมายเป็นพิเศษกว่าครั้งไหนๆ มีทั้งการแก้ปัญหาด้วยการใช้คันกั้นน้ำสู้ หรือถูกสภาพจิตตกบังคับจนต้องไปทำลายคันกั้นน้ำจนน้ำท่วมทะลักออกนอกเส้นทาง ส่งผลให้เหตุ แห่งเหตุบานปลาย ไหลไปไกลกว่าเก่า
ในส่วนของประชาชนผู้ประสบภัยและจ่อที่จะเผชิญกับกระแสน้ำ ก็มีทั้งคนที่เลือกจะสู้และ ไม่สู้ นั่นรวมไปถึงการเตรียมการ ซึ่งไม่นับการเตือนภัยอันคลาดเคลื่อนของ ศปภ. และ กทม. ก็พอจะสะท้อนให้เห็นการตั้งรับว่า แต่ละบุคคล แต่ละบ้าน แต่ละชุมชน มีการเตรียมพร้อมแตกต่างกันเช่นไร
สินค้าอุปโภคบริโภคขาดตลาดเนื่องจากคนบางส่วนซื้อตุน ในขณะที่คนอีกบางส่วนจนด้วยเกล้าที่จะแสวงหามาประทังชีวิตในยามยาก มันก็ล้วนแสดงให้เห็นวิถีที่แตกต่างในยามภัยธรรมชาติถล่มสยามเช่นกันหรือแม้ กระทั่งการบริหารจัดการน้ำในยามวิกฤติของ ศปภ. และ กทม.เอง ก็ยังไม่สามารถสอดประสานกันได้อย่างแนบสนิท นั่นก็เป็นหลุมดำหลุมใหญ่ในวันน้ำทะลัก
ประเทศชาติเหมือนมีกรรมเวร ประชาชนระทมทุกข์เดือดร้อน แต่นักการเมืองยังไม่เลิกเปิดสงครามน้ำลาย เพิ่มระดับความ เครียดให้ชาวบ้านสบถก่นด่าทั้ง 2 ฝ่าย ที่ไม่อาจสอบผ่านในการ แก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้
นี่ขนาดคนจะเป็นจะตาย ท่านผู้ทรงเกียรติทั้ง เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์Ž ยังอุตส่าห์เล่นการเมืองใต้บาดาลกันได้ นั่นก็เป็นอะไรที่ไม่แปลกใหม่แต่น่าสลดหดหู่หัวใจ เพราะพวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกไปเสียจากคนที่ชาวบ้านวางใจและเลือกเข้ามาเป็น ปาก เป็นเสียงแทนประชาชน
สถานการณ์น้ำต่อไปจากนี้ หลายฝ่ายต่างยอมรับโดยดุษณี ว่า ยังมิอาจคาดเดาได้ น้ำจะขึ้นสูงมากเท่าไหร่ จะกินลึกเข้ามา กทม.ชั้นในมากมายเพียงใด หรือจะจมบาดาลเต็มพื้นที่ รวมไปถึง น้ำจะท่วมนานแค่ไหน..
คำตอบสุดท้ายยังไม่มีใครบอกได้เหมือนเดิม..มันก็สะท้อนให้เห็นระดับความ พร้อมและมาตรฐานในการเผชิญกับมหันตภัยธรรมชาติของบ้านนี้เมืองนี้แต่สิ่งที่ มองออกและพอจะจับต้องกันได้ คงไม่พ้นสถานการณ์ทางการเมืองในวันน้ำลด ว่าทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จะเกทับ บลัฟแหลก เพื่อโยนบาปโยนความผิด ในความบ้องตื้นในการแก้ปัญหาของทั้ง 2 ฝ่าย ได้มันหยดเด็ดสะระตี่กลางสภามากมายขนาดไหน เนื่องด้วยในระหว่างคนค่อนประเทศต้องประสบภาวะน้ำท่วม แม้จะมีการสาดโคลนกันบ้าง แต่ก็ดูเหมือนทั้งสองซีกสองฝ่ายจะยังคงตกอยู่ในอาการน้ำท่วมปาก และไม่สะดวกอกสะดวก ใจสักเท่าไรนัก ในการชำแหละประมาณฆ่าหั่นศพฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากชาวบ้านกำลังจมน้ำและลอยคอรอคอยความหวัง

อย่างไรก็ดี เค้าลางที่น่าจะจับสัญญาณได้ว่าศึกในสภาหลัง วันน้ำลด จะเร่าร้อนรุนแรงแค่ไหน เพราะแค่ก่อนประชุมสภาสมัย สามัญไม่กี่วัน ทีมงานลิ่วล้อของทั้ง 2 ฝ่าย ต่างก็โหมโรงขย่ม ซึ่งกันและกัน จนประชาชนออกอาการเหม็นเบื่อน้ำเน่าที่ท่วมคละคลุ้งในสภา มันย่อมเป็นเครื่องการันตีว่า ในการประชุมสภาสมัยสามัญ ที่จะเปิดขึ้นในปลายเดือนตุลาคมนี้ ที่เผอิญฝ่ายค้านมีสิทธิ์ในการ ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะปรากฏโศกนาฏกรรมทางสงครามน้ำลายครั้งใหญ่ ด้วยการแก้ผ้าตัวเองให้เปลือยเปล่าจนล่อนจ้อน ถึงความเฮงซวยในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่ป้องปากบอกว่าแก้อย่าง บูรณาการŽ แต่กลับหักมุมเป็น บูรณากูŽ ไปซะอย่างนั้น พับผ่าซิ..นักการเมืองไทย!!!



สยามธุรกิจ


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง