บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

จะมีพระราชาองค์ใดในใต้หล้า?? ทรงมุดรั้วลวดหนาม เพียงเพื่อ หาน้ำให้ประชาชน

by ก้อยกัลยา

   
  



   การทรงงานอันเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณ จากพระเมตตาอันลึกซึ้งด้วยพระราชหฤทัยห่วงใยที่ทรงมีต่อพสกนิกร โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่พระราชทานไว้มีมากกว่า 4 พันโครงการ นายสวัสดิ์ วัฒนายากร องคมนตรี มีโอกาสรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด เคยไปเล่าให้ฝรั่งฟังเขาไม่เชื่อ แต่ได้ยืนยันให้เขาเข้าใจว่านั่นคือเรื่องจริง !!!        
 
และนี่เป็นอีกหนึ่งในน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยราษฏรของพระองค์
 
       เมื่อวันที่ 25 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2535 ณ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์  ใกล้เวลาที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  จะเสด็จฯ ถึงได้มีผู้รอเฝ้าฯ รับเสด็จเป็นจำนวนมาก กลุ่มข้าราชการ กปร. และชลประทาน ตั้งแถวรับเสด็จ
       เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งบินวนเหนือบริเวณนั้นหลายรอบ พวกเราต่างแปลกใจ จน ฮ.พระที่นั่งลงจอด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ  มายังแถวข้าราชการ กปร. และชลประทาน พร้อมกับมีรับสั่งว่า
       “ได้พบแหล่งก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่แล้ว เราจะเข้าไปดูด้วยกัน”

     เมื่อเสร็จจากพิธีที่ทางจังหวัด อำเภอ และประชาชน จัดถวายการต้อนรับแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯ ลงมายังกลุ่มข้าราชการ ได้ทรงอธิบายจากแผนที่ 1: 50,000 ถึงจุดที่มีพระราชประสงค์จะเสด็จฯ ไปทอดพระเนตร

       ได้มีครูและปลัดอำเภอรับอาสาเป็นผู้นำทาง แต่เมื่อรถขบวนแล่นไปได้ระยะหนึ่ง ผู้นำทางทั้งสองยอมรับว่าไม่สามารถนำเข้าจุดเป้าหมายได้ ……เมื่อรถขบวนแล่นผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน พล.อ.ท.สุพจน์ ครุฑพันธุ์ (ยศในขณะนั้น) ได้ลงไปนำตัวชาวบ้านที่รับอาสาพาไปยังจุดเป้าหมายได้  

       โดยขบวนรถได้แล่นออกจากหมู่บ้านไปตามทางที่ชำรุดเสียหาย เป็นหลุมเป็นบ่อตลอดทาง…. ผ่านทุ่งนา..... คนในรถตู้ของ กปร. ต้องนั่งเบียดเสียดยัดเยียดกันแน่นขนัด อยู่ในสภาพโขยกโยกเยกหัวสั่นหัวคลอน....

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งถึงถนนสายนี้ว่า “ถนนดิสโก้” จนถึงจุดที่ผู้นำทางบอกว่าถึงจุดเป้าหมายแล้ว (สถานที่แห่งนี้อยู่ในเขตบ้านแดนสามัคคี) 

       เมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ลงจากรถพระที่นั่ง มีรับสั่งกับคณะตามเสด็จฯ ว่า “มาผิดที่แล้ว”   

       ได้ทรงอธิบายให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ เมื่อผู้นำทางเข้าใจถูกต้องแล้ว ได้กล่าวว่า จุดดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้าน ขณะที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปยังรถพระที่นั่ง ได้ทรงชี้ไปที่ผู้นำทางและมีรับสั่งว่าไกด์ผี …… ต่อจากนั้น.....รถขบวนจึงแล่นกลับเข้าหมู่บ้าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯ นำคณะติดตามไปยังริมฝั่งแม่น้ำลำพะยัง      

ได้เสด็จฯ ผ่านหมู่บ้าน มีราษฎรรอเฝ้าฯ รับเสด็จ จึงมีรับสั่งกับหญิงวัยกลางคนว่า
 - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งถามว่าทำอาชีพอะไร?
 - หญิงกลางคนกราบบังคมทูลว่า ทำนา
 - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งถามต่อว่า “ทำอย่างไร”
 - หญิงกลางคนกราบบังคมทูลว่า “ใช้ไม้แทงลงในดิน แล้วจึงนำต้นกล้าข้าวปักดำลงในหลุม ตอนกลางวัน ต้นข้าวโดนแสงแดด ยอดข้าวจะเหี่ยวห้อยลง แต่ช่วงกลางคืน เมื่อได้รับน้ำค้าง ต้นข้าวจะผงกชูยอดขึ้น”
      พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯไปยังกองข้าวที่ราษฎรได้เก็บเกี่ยวแล้ว ทรงหยิบต้นข้าวจากกอง 1 ต้น และมีรับสั่งกับข้าพเจ้า(องคมนตรีสวัสดิ์ วัฒนายากร) ว่า 

       “ต้นข้าวเหล่านี้มีเมล็ดลีบ และในแต่ละรวงมีเมล็ดข้าวน้อย ผลผลิตข้าวที่ได้ไม่เพียงพอสำหรับการบริโภคในครัวเรือน ให้ชลประทานหาน้ำมาเพียงเพิ่มความชุ่มชื่นให้พื้นที่นา ก็จะช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภคในครอบครัว”  

     ตอนนั้นเป็นเวลาค่ำ ในชนบทจะมืดมาก ต้องใช้ไฟฉายส่องทาง ไกด์นำทางบอกว่า ปกติเวลากลางวันก็เดินยากอยู่แล้ว นี่เป็นเวลากลางคืนยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่พระองค์ก็ทรงเสด็จพระราชดำเนินนำหน้าคณะติดตาม เมื่อไปถึง บริเวณนั้นกว้างมาก เหล่าผู้ติดตามก็นึกขึ้นได้ว่า เป็นบริเวณเดียวกันกับที่เฮลิปคอปเตอร์ของในหลวงบินวนเมื่อตอนกลางวันนั่นเอง ….

      บริเวณนั้นได้กั้นไว้ด้วยลวดหนาม เดินต่อไม่ได้ พวกชาวบ้านได้ทูลให้เสด็จกลับ แต่พระองค์ตรัสบอกให้ง้างลวดหนามออก และทรงก้มพระวรกายผ่านลวดหนามนั้นเข้าไป ด้านหน้าเป็นท้องน้ำและเป็นโขด แก่งหินอยู่โดยทั่ว ผม(องคมนตรีสวัสดิ์) ถึงกับน้ำตาร่วง...จุกที่คอ... 

      และคืนนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริให้กรมชลประทานก่อสร้างระบบรับน้ำจากคลองส่งน้ำของอ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบนฯ ไปลงสระเก็บน้ำขนาดใหญ่ ท่ามกลางความมืดมิด...มีเพียงไฟฉายเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณ 



       การออกติดตามผลที่ได้จากโครงการ เมื่อก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เมื่อยืนอยู่บนสันเขื่อน มองไปยังพื้นที่นาท้ายเขื่อน สิ่งที่ปรากฏต่อสายตา ก็คือ รวงข้าวสีเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่งสุดสายตา ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับก่อนจะมีโครงการฯ 

จะมีพระเจ้าแผ่นดิน พระราชา ผู้ปกครองใดในโลกนี้ ที่ต้องลำบากพระวรกาย ที่ต้องทรงงานหนัก ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน แม้แต่ทรงมุดรั้วลวดหนาม เพื่อ”หาน้ำให้ราษฏร” 


     




อ่างเก็บน้ำ”ลำพะยัง”  โครงการตั้งอยู่ที่  บ้านนาวี ตำบลสงเปลือย อำเภอเขาวง   จังหวัดกาฬสินธุ์                            
                              ที่ประมาณพิกัด   48 QVD 121-148  ระวาง 5842 III  

เป็นบุญเหลือเกินที่ได้เกิดใต้ร่มพระบารมีของ”พระภูมิพลมหาราช”
ขอเป็นข้าฯใต้ฝ่าพระบาท...ทุกชาติไป 
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะฯ 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง