บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เปลี่ยนรับอำนาจใหม่ทันที! สรรพากรคืนภาษีโอ๊ค-เอม




โอ๊ค - เอม


เปลี่ยนรับอำนาจใหม่!ทันทีสรรพากรคืนภาษีโอ๊ค-เอม (ไทยโพสต์)

          อำนาจ เปลี่ยนมือ "สรรพากร" เปลี่ยนสีทันควัน หลังยื้อเรื่องคืนเงินโอ๊ค-เอมหมื่นล้านยาวกว่า 7 เดือน "อาปู" นั่งนายกฯ หญิงปั๊บ คืนเงิน 1.1 หมื่นล้านทันควัน พร้อมสร้างปรากฏการณ์ไม่อุทธรณ์คดี กั๊กไล่เบี้ย "แม้ว-อ้อ"

          นางจิตรมณี สุวรรณพูล รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเห็นชอบตามที่กรมสรรพากรเสนอเรื่องไม่อุทธรณ์เก็บภาษีนายพาน ทองแท้ ชินวัตร และน.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกฯ คนละ 5,675 ล้านบาท หรือรวม 1.1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากศาลภาษีกลางพิพากษาว่า ทั้งสองคนไม่ใช่เจ้าของหุ้นตัวจริง โดยคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร (ขณะนั้น) เป็นเจ้าของหุ้นที่แท้จริง ดังนั้นการที่กรมไปเก็บภาษีหุ้นจากนายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา จึงไม่ถูกต้อง
          "กรมสรรพากรจึงได้คืนเงินสด ประมาณ 200 ล้านบาท และทรัพย์สินที่เป็นที่ดินและหลักทรัพย์อีก 1,000 ล้านบาท ที่เคยอายัดไว้คืนให้กับนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" นางจิตรมณีกล่าว และว่า ส่วนการเก็บภาษีจาก พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานนั้น กรมอยู่ระหว่างดูรายละเอียดว่าจะเก็บภาษีจากทั้งสองคนได้หรือไม่

          แหล่งข่าวกระทรวงการคลังกล่าวว่า ปกติการฟ้องร้องกรมสรรพากรจะดำเนินการอุทธรณ์ทุกเรื่องเพื่อให้เรื่องถึงที่ สิ้นสุด และไม่มีปัญหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้ผู้เสียภาษี และหากจะไม่ยื่นอุทธรณ์ ก็ต้องส่งเรื่องมาให้กระทรวงการคลังพิจารณาเห็นชอบก่อน ซึ่งกรณีนี้เห็นว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาพิพากษาไว้ชัดเจน การอุทธรณ์จึงไม่มีประโยชน์ แต่กระทรวงเห็นว่ากรมสรรพากรต้องไปเรียกเก็บภาษีจากเจ้าของหุ้นตัวจริงต่อไป ก่อนที่จะหมดอายุความ เพราะทำให้รัฐเสียหาย

          สำหรับคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลางนั้น ศาลได้พิพากษาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2553 ซึ่งเป็นคดีที่นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา มอบอำนาจให้นางกาญจนาภา หงษ์เหิน ผู้แทนคดี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องกรมสรรพากร, นายสุทธิชัย สังขมณี, นายศิริศักดิ์ พันธ์พยัคฆ์ และนายณัฎฐภพ อนันตรสุชาติ ซึ่งเป็นคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์การประเมินภาษีของกรมสรรพากร เป็นจำเลยที่ 1-4 ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประเมินภาษี

          โดยศาลพิพากษาว่า นาย พานทองแท้และ น.ส.พินทองทามิใช่บุคคลที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 164,600,000 หุ้น เงินได้ที่เกิดขึ้นจากการขายหุ้น จึงเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน โจทก์ทั้งสองจึงมิใช่ผู้ที่ได้รับประโยชน์ที่อาจคิดคำนวณได้เป็นเงินอันเป็น เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 และมิใช่ผู้มีเงินได้พึงประเมินที่จะมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคล ธรรมดาตามมาตรา 41 แห่งประมวลรัษฎากร การประเมินภาษีของจำเลยที่ 1 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 จึงเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย พิพากษาให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสอง โดยกำหนดค่าทนายความ 150,000 บาท

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง