เปิดราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามมาตรา 32 (6) (7) พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะพุ่งพรวด เป็นประวัติการณ์ คาด ก.ต. ต้องการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ เข้มงวดเอาจริง ฟันไม่เลี้ยง หากไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม
แต่จะมี คนเก่ง ที่สอบผ่านเข้าไปเป็น ผู้ช่วยผู้พิพากษา เพียงหลักสิบ หลักร้อย เท่านั้น
ค่าตอบแทน และสิทธิประโยชน์ ของ ตุลาการ โดยเฉลี่ย 1.21แสนบาท/เดือน ถือว่า สูงกว่าวิชาชีพ อื่นๆ
ทั้งนี้ก็เพื่อให้บรรพตุลาการ ดำรงความบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ต้องข้องแวะกับอามิสสินจ้างใด ๆ
ทั้งนี้ เหตุที่ทำให้ ตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ส่วนใหญ่แล้ว เป็นไปตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 ส่วนที่ 3 ว่าด้วยการพ้นจากตำแหน่ง
มาตรา 32 (7) บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจาก ถูกสั่งลงโทษไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก
และมาตรา 32 (6 ) ถูกสั่งให้ออกจากราชการตามมาตรา 15 มาตรา 34 หรือมาตรา 35
ในช่วง2-3ปีที่ผ่านมามีตุลาการถูกไล่ออก ไม่ใช่น้อย
ทั้งนี้ เป็นเพราะคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม มีความเข้มงวดเอาจริงกับตุลาการผู้ไม่ยึดมั่นในจริยธรรม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการลงโทษตุลาการ มากกว่า ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบจากราชกิจจานุเบกษาพบ เรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ในช่วงปี 2552-2554ดังนี้
ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประกาศระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ นายสมศักดิ์ จันทกุล พ้น จากตำแหน่ง ผู้พิพากษา ศาลอุทธรณ์ประจำสำนักงานศาลยุติธรรม เนื่องจากถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ ตามมาตรา 32 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ฯ เพราะเหตุกระทำผิดวินัย อย่างร้ายแรง ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2553 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรม ราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก มหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และเหรียญจักรพรรดิมาลา ทั้งนี้ ตามข้อ 7 (4 ) ของ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พ.ศ. 2548 ประกาศ ณ วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 27 ธันวาคม 2553 เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ประกาศระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ นายอาคเนย์ เปาอินทร์ พ้น จากตำแหน่ง ผู้พิพากษา หัวหน้าคณะในศาลอาญา เนื่องจากถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ ตามมาตรา 32 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมฯ เพราะเหตุกระทำผิดวินัย อย่างร้ายแรง ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2552 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก และทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 17 ธันวาคม 2553เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ประกาศระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากกระทำ ผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 32 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ ศาลยุติธรรม ฯ ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2551 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามข้อ 7 (4) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
พ.ศ. 2548 จำนวน 2 ราย ดังนี้
1. นายธนา วิริยะวินิจเจริญ พ้นจากตำแหน่ง ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระโขนง และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก และทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย
2 . นายอภิชาติ รอดจากทุกข์ พ้นจากตำแหน่ง ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสมุทรปราการ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก และทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย
ประกาศ ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 14ตุลาคม 2553เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ประกาศระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ นายประยุทธ นีระพล พ้น จากตำแหน่ง ผู้พิพากษา ศาลอาญาธนบุรี เนื่องจากถูกลงโทษให้ออกจากราชการ ตามมาตรา 32 (6 ) แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ฯ ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2553 เพราะเหตุประพฤติตนไม่สมควรที่จะให้คงเป็นข้าราชการตุลาการต่อไป และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์ มงกุฎไทย
ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญ จักรพรรดิมาลา
ประกาศ ณ วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 23 กันยายน 2552เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ประกาศระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ นายมานะ ภูสอดเงิน พ้น จากตำแหน่ง ผู้พิพากษาศาลแพ่ง เนื่องจากถูกลงโทษให้ออกจากราชการ ตามมาตรา 32 (7 ) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ ฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมฯ ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2552 เพราะเหตุกระทำผิดวินัย อย่างร้ายแรง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย และชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย
ประกาศ ณ วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 13 กรกฎาคม2552เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ประกาศระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ข้าราชการตุลาการ พ้นจากตำแหน่งเนื่องจาก ถูกลงโทษปลดออกจากราชการ ตามมาตรา 32 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ฯ ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2552 เพราะเหตุกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา จำนวน 2 ราย ดังนี้
1. นายทพพงศ์ ทำเนียบ พ้นจากตำแหน่ง ผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย และชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก
2. นายชัยฤกษ์ หิมพานต์ พ้นจากตำแหน่ง ผู้พิพากษาศาลแพ่งธนบุรี และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก และชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย
ประกาศ ณ วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 24เมษายน 2552เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ประกาศระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ นายหัสนัย น้อมสุวรรณศรี พ้น จากตำแหน่ง ผู้พิพากษาศาลจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากถูกลงโทษให้ออกจากราชการ ตามมาตรา 32 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ฯ ตั้งแต่วันที่ 21มกราคม 2552เพราะเหตุกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย
ประกาศ ณ วันที่ 23กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 28 มกราคม 2552เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ประกาศระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ข้าราชการตุลาการ พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากถูกลงโทษ ให้ออกจากราชการ ตามมาตรา 32 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมฯ ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2551 เพราะเหตุกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และทรง พระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับ พระราชทานทุกชั้นตรา จำนวน 2 ราย ดังนี้
1 .นายเนติวิทย์ ศิริลักษณ์ พ้นจากตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย
ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก และชั้นมหาวชิรมงกุฏ
2 . นางฐิติรัตน์ บุตรดี พ้นจากตำแหน่ง ผู้พิพากษาศาลแพ่ง และเรียกคืนครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก และชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย
ประกาศ ณ วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ จากการค้นหาในราชกิจจานุเบกษา ไม่เพียง ข้าราชการตุลาการ เท่านั้นที่ต้องพ้นตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชย์ แต่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดก็ต้องพ้นตำแหน่งไม่ใช่น้อย
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนหลังกลับไปดู ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง ให้ข้าราชการตุลาการ พบว่า ในช่วงปี 2552-2554 หรือในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีจำนวนครั้งและจำนวนรายมากที่สุด
ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น