โดย Tan Rasana
http://www.temasek.com.sg/
http://tomorrow.sg/tag/temasek
http://graphics8.nytimes.com/images/2008/04/01/business/02graphic-full.jpg
ยุค อุตสาหกรรมการเงินครอบงำโลก การใช้กองทัพทุนการเงินขนาดใหญ่ตีเมืองขึ้นหรือไล่ล่าเมืองขึ้นแบบใหม่แทน กองเรือปืนไฟเป็นสงครามที่ไม่บอกกล่าว เป็นสงครามเศรษฐกิจที่อำมหิตโหดเหี้ยมแบบเร้นลึกและสร้างความเสียหายได้ มากกว่าสงครามโลกทั้งสองครั้งรวมกัน สิงคโปร์เป็นกลุ่มชนเล็กๆที่ร่วมกันสร้างรัฐเล็กๆจากไม่มีสู่มีและกลายเป็น จักรวรรดินิยมตัวใหม่โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง ๕๐ ปี หลังจากแยกตัวมาจากประเทศมาเลเซีย เมื่อ ๙ สิงหาคม ค.ศ. ๑๙๖๕
สิงคโปร์ ไม่สมควรที่จะถูกเรียกเป็นประเทศด้วยซ้ำไป เพราะทั้งจำนวนเนื้อที่และจำนวนพลเมืองที่ไม่ถึง ๗๐๐ ตารางกิโลเมตร มีประชากรน้อยกว่ากรุงเทพคือราว ๔.๕ ล้านคน แต่วันนี้สิงคโปร์ในรูปบรรษัทข้ามชาติ ได้ใช้กองทุนแห่งรัฐที่เรียกว่า GIC (Government of Singapore Investment Corporation)และบริษัทเครือข่าย Temasek Holdings และ Temasek-Linked Companies-TLCs ที่มีกองทุนขนาดใหญ่เท่า GDP ประเทศไทย โจมตียึดครองเศรษฐกิจไทย (ดูอาณาจักรเทมาเสก-แสงสว่างปลายอุโมงค์ อนาคตประเทศไทยเดินทางไหน-กมล กมลตระกูล)โดยเฉพาะเศรษฐกิจการเงิน-การลงทุนให้ตกอยู่ในมือของพวกเขาได้โดย ง่ายเพราะการขาดวิสัยทัศน์และความละโมบของผู้นำไทย รวมทั้งพลังก้าวหน้าในสังคมไทยที่ความสนใจรวมศูนย์อยู่ที่การไขว่คว้าหา ประชาธิปไตยทางการเมือง แบ่งแยกพลังของตัวเองเลือกข้างเป็นหางเครื่องให้กับการช่วงชิงอำนาจรัฐนอมิ นี
สิงคโปร์เป็นตัวอย่างรูปธรรมของการใช้อุตสาหกรรมการเงิน-ภาคบริการ และเทคโนโลยีสารสนเทศหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สอง(การปฏิวัติ เทคโนโลยีสารสนเทศ)เพื่อครอบงำชาติใหญ่แต่วิสัยทัศน์ล้าหลังกว่า เช่นประเทศไทย เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า โลกยุคใหม่ “อธิปไตยเหนือดินแดนมีราคาน้อยแต่ต้นทุนสูงกว่าอธิปไตยทางเศรษฐกิจ”
สิงคโปร์ ได้รับสมญาว่าเป็นอิสราเอลของเอเชีย อิสราเอลสร้างประเทศในดินแดนปาเลสไตน์ภายใต้เงื้อมเงาของจักรวรรดินิยมอเมริ กา เช่นเดียวกับอาณาจักรทางด้านเศรษฐกิจ หากจะนับได้ว่าสิงคโปร์เป็นร่างทรงของอเมริกาในเอเชียก็ว่าได้ นอกเหนือจากนั้น กองทุนต่างๆที่มั่งคั่งจากชาติตะวันออกกลางและกองทุนยุโรปก็ใช้ฐานการลงทุน ที่สิงคโปร์ ใช้เป็นแหล่งกบดานทุนทั้งถูกและผิดกฎหมาย สิงคโปร์มีกฎเกณฑ์ที่ผ่อนคลายต่อการเข้า-ออกของกระแสเงินของเหล่ากองทุน โลก(World Fund)จนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นแหล่งฟอกเงินที่ไม่เปิดเผยเช่นเดียวกันกับ เกาะเคย์แมน และบริติช เวอร์จิน เชื่อว่า ไม่ช้าไม่นาน ประชาชาติไทยอาจมีสภาพไม่ต่างจากชาวปาเลสไตน์ ผิดกันก็แต่เพียง นักล่าอาณานิคมยุคใหม่และสิงคโปร์ไม่ต้องการดินแดน ไม่ต้องการยึดครองรัฐชาติแบบดั้งเดิม พวกเขาเป็นตัวแทนของทุนอุตสาหกรรมยุคใหม่คืออุตสาหกรรมการเงิน การบริหารจัดการและภาคบริการ ที่พร้อมจะไปทุกที่ที่สามารถสูบกินกำไรและทรัพยากรความมั่งคั่งของประเทศ อื่นๆ จากกองทุนชาติที่เรียกว่า “กองทุนแห่งความมั่งคั่ง”( Sovereign Wealth Fund -SWF)ผ่านการลงทุนในตลาดทุน ตลาดเงินและครอบงำอุตสาหกรรมการเงิน
สิงคโปร์สร้างชาติด้วยการสร้างคน ทุ่มเทให้กับคุณภาพของคนที่มีจำนวนเพียง ๔.๕ ล้านคนให้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี ให้การศึกษา ฝึกทักษะการบริหารจัดการ เพื่อธุรกิจการเงินและการลงทุน ในขณะที่รัฐไทยดำเนินการทุกอย่างที่จะส่งผลให้ต้นทุนทางการศึกษามีราคาแพง และเข้าถึงได้ยาก เช่น การนำการศึกษาออกนอกระบบ(เข้าสู่การแข่งขันซึ่งจะทำให้สถาบันการศึกษาแต่ละ แห่งมีต้นทุนสูง) มีกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่จำลองแบบสวัสดิการรัฐ แต่นั่นก็คือ การผลักภาระให้ประชาชนรับผิดชอบสิ่งที่ควรเป็นภาระหน้าที่ของรัฐและทำให้ เยาวชนอนาคตของชาติเข้าสู่อุตสาหกรรมหนี้สินตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ
ที่ สำคัญวิกฤติที่ไม่บอกกล่าวของประเทศไทยในขณะนี้ก็คือ การที่รัฐยังดำเนินนโยบายเศรษฐกิจรับใช้ทุนต่างชาติ เป็นฐานการผลิตการส่งออกโดยแลกเปลี่ยนกับแรงงานราคาถูกและทรัพยากรชาติที่ นับวันจะหมดไป ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่นับวันเสื่อมโทรมลงอย่างยากที่จะฟื้นฟู
สิงคโปร์ ก็เช่นเดียวกับจักรวรรดินิยมพี่ใหญ่อเมริกาที่มองเห็นช่องทางสูบกินความ มั่งคั่งของประเทศอื่นๆโดยการสร้างอาณานิคมใหม่ทางเศรษฐกิจและกำลังทุ่มเงิน ซื้อตลาดหลักทรัพย์อันเป็นศูนย์รวมของทรัพย์สินและเป็นตัวบ่งชี้ความ มั่งคั่งของประเทศในสหภาพยุโรป ส่วนสิงคโปร์ สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่า SGX ซึ่งเป็นบริษัทผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เปิดเผยข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการ หรือเทกโอเวอร์ ASX ซึ่งเป็นบริษัทผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย ด้วยวงเงิน ๘,๓๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาทไทย ๒๔๙,๐๐๐ ล้านบาท (คิดอัตราแลกเปลี่ยนที่ ๓๐ บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ๔ ของเอเชีย รองจากตลาดหลักทรัพย์โตเกียว, ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ ซึ่งการรวมตัวกันของ SGX และ ASX ถือเป็นการควบรวมกิจการขนาดใหญ่ครั้งแรกของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชีย-แปซิฟิก นี่เป็นภาพรวมของทุนผูกขาดยุคใหม่ที่ไม่สนใจช่วงชิงดินแดนตามเส้นรุ้งตะแคง แวงตั้งแบบเดิม หากใช้เทคโนโลยีทีเหนือกว่า ใช้คนที่สันทัดในการบริหารจัดการสูงกว่า และใช้อำนาจเงินเป็นประหนึ่งอำนาจโลกเข้าครอบงำอำนาจรัฐของประเทศที่ใหญ่ กว่า
กองทุนเทมาเส็กเครือข่ายหนึ่งของกองทุน GIC ของสิงคโปร์มีทรัพย์สินราว๒.๕ ล้านล้านบาทเป็นครึ่งหนึ่งของจีดีพีประเทศไทยและเป็นผู้บริหารกองทุนขนาด เท่ากับจีดีพีของประเทศไทยคือ ๑๐๖ พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา.
ปฏิบัติการขายชาติกำ ลังจะเริ่มต้นใหม่แล้ว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น