บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เกาหลีชี้ประชานิยม"ทักษิณ"ทำชาติล่มจม



หนังสือ พิมพ์โชซุนอิลโบ ของเกาหลีใต้ นำเสนอบทบรรณาธิการในหัวข้อ "ระวังระบบประชานิยม" พร้อม ทั้งยกตัวอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยขึ้นมาเตือนสตินักการเมืองและประชาชนในประเทศ รวมทั้งระบุว่านโยบายประชานิยมของอดีตผู้นำไทย อาจนำภาวะล่มสลายมาสู่ประเทศเหมือนกรณีของอาร์เจนตินา

บทบรรณาธิการ ดังกล่าว ระบุถึงสถานการณ์การเมืองในไทยช่วงที่มีการปะทะกันระหว่างทหารและกลุ่มผู้ ชุมนุมประท้วงเสื้อแดง เมื่อวันเสาร์ (10 เม.ย.) ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย บาดเจ็บกว่า 800 คน หลังจากรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และว่าความรุนแรงระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก โดยเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้บุกเข้าไปยังสถานที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำ สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)+3 จนเป็นเหตุให้ต้องยกเลิกการประชุม และผู้นำประเทศต่างๆ 16 ประเทศ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงนายลี เมียงบัก  ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ต้องขึ้นไปบนดาดฟ้า เพื่อหลบหนีออกมาโดยใช้เฮลิคอปเตอร์

นอกจากนี้ ยังระบุว่า ศูนย์กลางของผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลคือ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2544 และได้รับเลือกให้กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งในปี 2548 แต่ในเดือนมกราคมปี 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว ได้ขายหุ้นของบริษัทโทรคมนาคมแห่งหนึ่งมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์ ให้แก่บริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ โดยไม่มีการจ่ายภาษี

สิ่ง ที่ปรากฏตามมาคือ หลักฐานต่างๆ ที่บ่งชี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ตำแหน่งหน้าที่สร้างความมั่งคั่งให้แก่ธุรกิจของตนเอง หลีกเลี่ยงภาษี รับสินบนและฉ้อฉลการประมูลโครงการต่างๆ และในเดือนกุมภาพันธ์ ศาลฎีกาของไทย ได้พิพากษายึดทรัพย์ที่ผิดกฎหมายของอดีตผู้นำไทยรายนี้เป็นเงินกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท

นับตั้งแต่ถูกรัฐประหารโค่นล้มอำนาจเมื่อปี 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางเร่ร่อนไปทั่วโลก ขณะที่ผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ได้เคลื่อนขบวนไปทั่วเมืองหลวง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ด้วยความหวังว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง จนทำให้ไทยกลายเป็นรัฐแห่งสงครามกลางเมือง  บทบรรณาธิการของสื่อเกาหลีใต้ ระบุว่า กลุ่มที่ให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนใหญ่เป็นชาวนา คนยากจนทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ  และอดีตผู้นำไทยใช้วิธีการสื่อสารกับกลุ่มสนับสนุนเหล่านี้ ผ่านทางทีวีดาวเทียมและข้อความโทรศัพท์มือถือ

โชซุนอิลโบ ระบุด้วยว่า เหตุผลที่ผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเห็นเขากลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง แม้ว่า อดีตผู้นำไทยรายนี้จะฉ้อโกงอย่างมโหฬาร ก็เพราะประชาชนกลุ่มนี้ ถูกล่อหลอกด้วยนโยบายประชานิยม โดยหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประกาศพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี มอบสิทธิรักษาในสถานพยาบาลของรัฐในราคา 30 บาท มอบเงินทุน 1 ล้านบาทให้แก่หมู่บ้านแต่ละแห่ง ภายใต้ข้ออ้างที่ว่า ต้องการขยับช่องว่างรายได้ระหว่างผู้อยู่อาศัยในเมืองและชาวนาให้แคบลง

อย่าง ไรก็ตาม บทบรรณาธิการฉบับนี้ ระบุว่า นโยบายที่ฟังดูดีจบลงที่เงินทุนในคลังของรัฐบาลหดหายไปมาก และท้ายที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจ หลังจากต้องเผชิญหน้ากับกระแสความไม่พอใจอย่างรุนแรงจากคนชั้นกลาง ที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับคุณภาพการบริหารประเทศ ทั้งๆ ที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น

แต่อีกด้านหนึ่ง ประชาชนชาวไทย ที่มีรายได้น้อย กลับเสพติดสิ่งที่ได้มาฟรีๆ โดยไม่ต้องลงแรง และไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาประชาชนจากการเสพติดนโยบายประชานิยมนี้ได้ ซึ่งไทย ไม่ใช่ประเทศเดียวที่เจอกับปัญหานี้ อาร์เจนตินา ที่เป็นประเทศเจริญที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคละตินอเมริกาในช่วงปลายทศวรรษ ที่ 1990 ยังมีจุดจบที่การกลับไปสู่สถานะโลกที่ 3 หลังจากพยายามทำตามความต้องการของประชาชน ที่เคยชินกับนโยบายประชานิยมอย่างไม่สามารถถอนตัวได้

บทบรรณาธิการ ของโชซุนอิลโบ ถือโอกาสปิดท้ายด้วยการระบุว่า ในเกาหลีใต้ก็ เช่นกัน พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดด้วยนโยบายที่หวังจะชนะใจประชาชน ก่อนหน้าการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 2 มกราคมปีหน้าจะเริ่มเปิดฉาก โดยพรรคประชาธิปไตย เสนอใช้เงินภาษีจำนวน 1.5 ล้านล้านวอน มาใช้ในโครงการมอบสิทธิเรียนฟรีแก่นักเรียน 5.48 ล้านคน

ส่วนพรรคแก รนด์ เนชั่นแนล ก็คลอดนโนบาย 9 ข้อ ที่มีเป้าหมาย เพื่อนำเงินของรัฐจำนวนกว่า 1.22 ล้านวอน มาช่วยคนยากคนจน ซึ่งบทบรรณาธิการโชซุนอิลโบ แนะนำว่า ทั้งสองพรรคการเมือง ควรดูเหตุประท้วงและปะทะกันขั้นนองเลือดในไทยเป็นกรณีศึกษา เพราะนโยบายประชานิยมที่ทั้งสองพรรคการเมือง กำลังงัดออกมาใช้  ไม่ต่างอะไรกับแหวนแห่งลางร้าย

atnnonline

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง