หนังสือพิมพ์ The Frankfurter Allgemeiner Zeitung (FAZ) รายงานว่า อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ลี้ภัยการเมือง ทักษิณ ชินวัตร ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศเยอรมนีได้อีกครั้งแล้ว ทั้งนี้จากรายงานข่าวตอนหนึ่งเปิดเผยดังนี้
"ทักษิณ ชินวัตร สามารถเดินทางเข้าประเทศเยอรมนีได้อีกครั้งแล้ว นับตั้งแต่เยอรมนีได้สั่งห้ามไม่ให้เขาเข้าประเทศมานับตั้งแต่ปี 2549 โดยให้มีผลเพิกถอนคำสั่งห้ามเดิมและมีผลทางปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้ ทั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของรัฐมนตรีต่างประเทศ Guido Westerwellse คำสั่งใหม่นี้ได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น"
รายงานข้างต้นมาจากเวบไซต์ASIAN CORRESPONDENT เขียนโดย Saksith Saiyasombutโดยบางตอนได้ให้ข้อสังเกตว่า เยอรมันอนุญาตให้ทักษิณเข้าประเทศได้อีกครั้งในช่วงความสัมพันธ์ทวิภาคีของ ไทยกับเยอรมันเลวร้ายลง เมื่อเยอรมันได้อายัดเครื่องบินพระที่นั่งมกุฎราชกุมารของไทยเอาไว้เป็น ประกันการชำระหนี้ให้แก่บริษัทเยอรมันรายหนึ่ง เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ทางด้านกลุ่มผู้สนับสนุนของทักษิณได้เขียนตามเวบบอร์ดต่างๆว่า น่าประหลาดใจที่เยอรมันอนุญาตให้ทักษิณเข้าประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม เพียง 3 วันให้หลังเหตุการณ์อายัดเครื่องบินเมื่อ 12กรกฎาคม อย่างไรก็ดีได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทักษิณไม่ควรหาเรื่องยุ่งยากให้ตนเองด้วยการเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องดังกล่าว ควรทอดธุระให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศผู้ตามไล่ล่าตัวเขามาตลอดการดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการกับ ปัญหายุ่งยากดังกล่าวจะเหมาะสมที่สุด
ระบอบปกครองของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีกษิตเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ได้แสดงตัวอย่างกระตือรือร้นในการไล่ล่าทักษิณ โดยเหตุการณ์ที่ทักษิณถูกสั่งห้ามเข้าเยอรมนีในยุคของรัฐบาลอภิสิทธิ์มัอ ำนาจนั้น นายชวนนท อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และโฆษกฝ่ายการเมืองของกระทรวงการต่างประเทศ เเคยเปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ว่า ทางเยอรมนีได้ใส่ชื่อ ทักษิณ ไว้ในบัญชี national exemption คือ เป็นบุคคลที่ห้ามเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอินจากประเทศอื่นเข้ามาในประเทศไทยบ่อยครั้ง อีกทั้งยังได้ประกาศว่า หากทักษิณ กลับมาเยอรมนีอีกก็จะถูกควบคุมตัว
อนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางเข้าไปในเยอรมนีโดยใช้พาสปอร์ตของนิการากัว และประทับตราวีซ่า ของฝรั่งเศสซึ่งสามารถเดินทางต่อไปยังเยอรมนีได้ อย่างไรก็ตามเมื่อทางการเยอรมนีทราบเรื่องจึงได้ถอนวีซ่าสำหรับการพำนักใน เยอรมนีตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2552 และเพิ่งเพิกถอนคำสั่งนี้ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2554
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น