บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โหวตโน เป็นไปถูกต้องทางกฎหมาย

โดย rattawut

ความเป็นไปได้ทางหนึ่ง ของการ Vote No ในทางกฏหมาย คือฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการเลือกสส.เขต แม้เพียงเขตเดียวเท่านั้นก็ตาม เพราะเขตที่คะแนน Vote No มากกว่า ผู้ชนะที่ 1 ในเขตนั้นๆ ประชาชนผู้ Vote No สามารถอ้างเจตนารมณ์ประชาธิปไตยที่ใช้เสียงส่วนใหญ่เป็นตัวตัดสิน เพราะเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้เลือกผู้ชนะตามกฏหมายคนนั้น จึงถือว่าผิดหลักประชาธิปไตย ขัดเจตนารมณ์ประชาธิปไตยที่แท้จริง และขัดกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญมาตรา ๓ ที่บัญญัติว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย

 

หากศาลตัดสินให้ Vote No ชนะในขตนั้น หลังจากเปิดสภาไปแล้ว ก็อาจจะเกิดกรณีสุญญากาศ เพราะสภาจะมี สส.ไม่ครบ 500 คน แม้สมมติว่า ศาลจะสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ถ้า Vote No ในเขตนั้นเข้มแข็งชนะตลอด ก็จะทำให้สภาไม่มีวันได้ สส.ครบ 500 คน ภายใน 180 วัน ตามที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๙๓ จึงเข้าสู่สภาวะไม่มีบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญบังคับใช้ได้ จึงต้องใช้ประเพณีการปกครอง บนพื้นฐานบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗ เข้าสู่ขั้นตอนการปฏิวัติ/ปฏิรูปประเทศ อย่างถูกต้องชอบธรรมตามกฏหมายทุกประการ

 

แต่ถ้าเกิดกรณี มีเขตมากกว่า 25 เขต ที่ Vote NO ชนะตลอด แล้วศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ Vote No ชนะ ก่อนการเปิดสภา ก็จะส่งผลให้เปิดสภาไม่ได้ เพราะจำนวนสส.ไม่เกินกว่า 475 คน (ต้องเกินกว่าร้อยละ 95 ของสส.ทั้งหมด 500 คน จึงจะเปิดสภาได้) จะเกิดสุญญากาศทางการเมืองทันที  

 

อ้างอิง 

 

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐

มาตรา ๓ อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้

 

การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม

 

 

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑) พุทธศักราช ๒๕๕๔

มาตรา ๙๓ สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกจำนวนห้าร้อยคน โดยเป็นสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวนสามร้อยเจ็ดสิบห้าคน และสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจำนวนหนึ่งร้อยยี่สิบห้าคน

 

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับโดยให้ใช้บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบละหนึ่งใบ

 

หลักเกณฑ์และวิธีการการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา

 

ในกรณีที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด และยังไม่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าที่มีอยู่

 

ภายใต้บังคับมาตรา ๑๐๙ (๒) ในกรณีที่มีเหตุใด ๆ ทำให้ในระหว่างอายุของสภาผู้แทนราษฎร มีสมาชิกซึ่งได้รับการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อมีจำนวนไม่ถึงหนึ่งร้อยยี่สิบห้าคน ให้สมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อประกอบด้วยสมาชิกเท่าที่มีอยู่

 

ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใด ๆ ทำให้การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใดมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ถึงห้าร้อยคน แต่มีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละเก้าสิบห้าของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด ให้ถือว่าสมาชิกจำนวนนั้นประกอบเป็นสภาผู้แทนราษฎร แต่ต้องดำเนินการให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ครบตามจำนวนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันและให้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่าอายุของสภาผู้แทนราษฎรที่เหลืออยู่

 

 

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ต้องเกิดแบบนี้สิักที
นักการการจะได้คลานเข้าหาประาชน
พูดในสิ่งที่ต้องทำให้ประชาชนเสียที่
หากถูกใจประชาชนที่โหวตโนแล้ว
ประชาชนที่โหวตโนก็เทคะแนนให้เอง
ถึงเวลานักการเมืองรักษาศีลแล้ว
ใครไม่มีศีล.....สอบตก.....แพ้ภัยตัวอง

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง