"เทพมนตรี" อึ้ง"มาร์ค" จ้อเฟซบุ๊กเรียกเรตติ้ง มารยาร้อยเล่มเกวียนยังแพ้

"เทพมนตรี" อัด "มาร์ค" ขี้โกงเรียกคะแนนสงสารด้วยบทโศก สร้างมายาภาพเอาดีใส่ตัว ซัดเลือดเย็นส่งทหารมือเปล่าไปตายแลกรักษาภาพพจน์ ชี้หากมีคุณธรรมจริง ต้องไม่ลงเลือกตั้งเกือกกลั่วกับคนเผาบ้านเผาเมือง เหน็บรบ.เดียวในโลกกล่าวหาเป็นผู้ก่อการร้ายแล้วปล่อยตัวง่ายๆ ยัน"มาร์ค" ขี้ขลาดตาขาวไม่เหมาะเป็นนายกฯ เป็นเมื่อไรก็วิกฤติ

       วันที่ 13 มิ.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เขียนเฟซบุ๊ก “จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ” ตอนที่ 3 ว่า นายอภิสิทธิ์ จับเอาจุดอ่อนสังคมไทยที่เห็นใครถูกใสร้ายแล้วจะเห็นใจมากเป็นพิเศษ มาเขียนแบบมายาภาพ เล่าเรื่องราวทำให้คนเคลิ้มเห็นคล้อยตาม เหมือนอยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย บทจบสุดท้ายก็เหมือนเดิมบอกตัวเองทำดีที่สุดแล้ว แต่ที่ผลออกมาอย่างนี้ ก็โทษตัวละครอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง โดยอ้างพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนสั่งคนในพรรคเพื่อไทย ส่งต่อกันมาถึงคนเสื้อแดงจนสถานการบานปลาย
     
       นายอภิสิทธิ์ เห็นแก่ตัวมากเอาเรื่องบ้านเมืองมาผสมกับเรื่องตัวเอง โดยยกคำพูดจากวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ให้ดูมีความน่ากลัว ผนวกเข้ากับเหตุการณ์คนเสื้อแดงไปเทเลือดหน้าบ้านตัวเอง แล้วตีความไปว่าเดี๋ยวเลือดจะนองทั้งแผ่นดิน ที่จริงคนเขาไปเทเลือดหน้าบ้านนายอภิสิทธิ์ เป็นเพราะเขาเกลียดนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เกลียดชาติ
     
       นายเทพมนตรี กล่าวต่อว่า มารยาร้อยเล่มเกวียนยังแพ้ การเล่นบทโศกของนายอภิสิทธิ์ ที่เขียนไนเฟซบุ๊ก ทำนอง คนตายในเหตุการณ์สี่แยกคอกวัว ราชประสงค์ คืนนั้นจนถึงวันรุ่งขึ้นไม่อาจหลับตาลงได้แม้แต่นาทีเดียว ตรงนี้นายอภิสิทธิ์ อย่าลืมว่าตัวเองเป็นนายกฯ เหตุการณ์ร้ายแรงเกิดก็เพราะความที่ท่านขี้ขลาด ส่วนที่บอกว่า คนเข้าใจในการสลายเสื้อแดง ทำให้สังคมให้โอกาสบริหารประเทศต่อ ก็ต้องถามว่าเขาต้องการให้ท่านทำงานต่อกรณีเผาบ้านเผาเมือง แล้วท่านได้ทำงานต่อหรือไม่สำหรับเรื่องนี้
     
       ส่วนที่อ้างว่า เป็นจุดต่ำสุดของวิกฤตการเมือง แล้วท่านยังส่งคนลงสมัครเลือกตั้ง เท่ากับเอาคนมาเกือกกลั่วกับคนเผาบ้านเผาเมืองใช่หรือไม่ ถ้าเป็นพรรคที่มีคุณธรรมจริง ต้องไม่ส่งคนลงเลือกตั้ง ข้อเขียนของนายอภิสิทธิ์ ขัดแย้งกันในตัวเอง ช่วงแรกเขียนใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ พรรคเพื่อไทย เสื้อแดง แต่เวลาที่ท่านออกแผนปรองดอง พอศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ประกาศแผนฝังมีคนล้มเจ้า จับกระบวนการนี้ได้ส่วนหนึ่ง ก็ปล่อยตัวออกมา ประเทศที่มีอารยะหากกล่าวหาใครเป็นผู้ก่อการร้ายเขาไม่ปล่อยตัวง่ายๆ ไม่มีประเทศไหนทำนอกจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
     
       นายอภิสิทธิ์ ไม่ใช่แค่อำมหิต เลือดเย็นด้วย หากเป็นรัฐมนตรีคนอื่นเขาต้องสั่งการเด็ดขาด ไม่ใช่หน่อมแน้ม แม้ไม่มีวิสัยทัศน์ในการคาดการณ์ทางทหาร แต่เรียนการบริหารงานบุคคลมาควรคาดได้ว่า ส่งคนไปตรงกับงานหรือไม่ และส่งทหารไปควรให้มีอาวุธได้หรือไม่ในยามวิกฤติอย่างนี้ แต่ด้วยความกลัวคนอื่นจะประจานที่ให้ทหารถืออาวุธใช่หรือไม่ จนเกิดเหตุการณ์คาดไม่ถึง
     
       “คนเป็นนายกฯ ต้องดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่นายอภิสิทธิ์ไม่มี ดูได้จากในทุกเหตุการณ์ แม้แต่ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ไม่รบให้เด็ดขาด ตนว่านายอภิสิทธิ์ไม่เหมาะเป็นนายกฯ เป็นเมื่อไรก็วิกฤติ เพราะประชาชนรู้ว่าเป็นคนขี้ขลาดตาขาว”
     
       "หากพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเมื่อไร ตนจะไม่อยู่ประเทศนี้ นี่เป็นคำสัตย์ เพราะตนทนดูไม่ได้ในสิ่งที่เขาจะทำ แล้วอย่ามาบอกว่าพันธมิตรฯ หรือ นายสนธิ ไปรับเงินพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างน้อยตนเป็นพยานได้ว่าไม่มี หากมีคนอย่างตนมีหรือจะไม่พูด ถึงได้บอกเป็นขบวนการใส่ร้ายป้ายสี"
     
       นายเทพมนตรี กล่าวว่า เพราะพรรคประชาธิปัตย์ทำให้เกิดระบอบทักษิณ เริ่มจากเคยให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถ้าจะโทษใครต้องโทษนายชวน หลีกภัยกับนายอภิสิทธิ์ สำหรับนายชวน บริหารประเทศจนเกิดคำเปรียบเทียบ ชวนเชื่องช้า ทักษิณคิดเร็วทำเร็ว ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ มองเห็นจุดอ่อนของสังคม จุดอ่อนของนักการเมืองไทย จึงมีนโยบายที่สุดโต่ง จนทำให้ประชาชนอย่ากลองของ สำหรับนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯแทนที่จะกำจัดความคิดคนเสื้อแดงไม่ให้งมงายอยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ทำ ยิ่งมีนโยบายเห็นแก่ตัวแล้ว ยิ่งทำให้ประชาชนมองเห็น ประชาธิปัตย์มาก็เจ๊ง จึงมีประชาชนส่วนหนึ่งอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา โดยเฉพาะนักธุรกิจ
     
       นายเทพมนตรี กล่าวถึง อนุสัญญามรดกโลกมาตรา 35 ว่า รัฐภาคีมีสิทธิบอกเลิกการเป็นสมาชิก โดยการทำเป็นลายลักษณ์อักษร โดยจะมีผลเมื่อครบระยะเวลา 12 เดือน นับแต่ได้รับหนังสือแจ้งตอบรับจากรัฐภาคี ดังนั้นหากนายสุวิทย์ คุณกิตติ ต้องชิงลาออกก่อนจัดทำแผนบริหารสำเร็จ หากไม่ลาออกแผนการขึ้นทะเบียนประสาทเขาวิหารจะเสร็จสมบูรณ์แน่นอน เพราะตามแผนบริหารจัดการเขาจะเปิดดำเนินการในปีหน้า สุดท้ายอยากฝาก ผบ.ทบ. ทำเพื่อในหลวง ขอให้ทหารยึดพื้นที่เอาไว้ เพราะที่นั่นคืออุทยานแห่งชาติเขาวิหาร ไม่ใช่ดินแดนของเขมร เรามีสิทธิในอธิปไตยเหนือดินแดนตรงนั้น อีกอย่างตอนกลับมาจากศาลโลก ศ.อังรี โรแลง บอกชัดเจนดินแดนโดยรอบเป็นของไทย ศาลโลกพิพากษาเฉพาะตัวปราสาท