บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

''อภิสิทธิ์'' แบะท่า!!! เปิดทางร่วมรัฐบาลกับ ''พรรคเพื่อไทย''

''อภิสิทธิ์'' แบะท่า!!! เปิดทางร่วมรัฐบาลกับ ''พรรคเพื่อไทย''
Posted by chronomist , ผู้อ่าน : 1093 , 21:11:16 น.  
หมวด : นักข่าวอาสา
พิมพ์หน้านี้ โหวต 1 คน

บ่ายวันที่ 10 มิถุนายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 
และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองเลขาธิการพรรคฯ และรมว.คลัง 
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ 
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเครือเนชั่น ถึงนโยบายของพรรคสำหรับการเลือกตั้ง 
 


เหตุใดต้องพูดคุยกับคนเสื้อแดง ทั้งๆ ที่เลี่ยงได้
นายอภิสิทธิ์ เห็นว่าเมื่อเขามา เขาก็เดินเข้าหาสื่ออยู่แล้ว และหลายคนเมื่อมาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาหาคำตอบ แต่มาเพื่อต้องการให้เป็นข่าว  เหมือนกับช่วงสองปีที่ผ่านมาที่เป็นมาตรการ "ดิบ ถ่อย เถื่อน" ซึ่งเราทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่ามีพฤติการณ์เช่นนี้ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะมาคุยแต่ตั้งใจมาเพื่อจุดประเด็น เพื่อดึงความสนใจเพื่อไม่ให้เรามีโอกาสชี้แจงเรื่องที่จะหาเสียง และก็มีสื่อบางสื่อมักจะรับลูกไปขยายผล เขามีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน

บรรยากาศการเลือกตั้งแบบนี้มีทั้งเป็นปกติและไม่ปกติ ทุกครั้งที่ผมหาเสียงเลือกตั้งก็มีคนมาด่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ความไม่ปกติอยู่ที่มีมวลชนมีชุดความคิด และพูดตามที่กำหนด

ผลคะแนนยังตาม พท. แต่ไม่แลนด์สไลด์
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ยอมรับว่าสถานการณ์การเลือกตั้งเราตามอยู่ แต่ก็ไม่มีตัวเลขไหนที่จะชี้ว่าจะเกิดแลนด์สไลด์ เหมือนที่พรรคเพื่อไทยอ้าง เพราะหากเขาจะได้ ส.ส. เกินกึ่งหนึ่งจริงก็ไม่จำเป็นที่จะจ้องกังวลว่าพรรคอันดับหนึ่งจะได้ตั้งรัฐบาล ส่วน กทม.นั้นคะแนนยังสูสีเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีฐานเสียงที่ใกล้เคียงกัน และคน กทม. สำรวจความเห็นยากเพราะบางครั้งก็จะเก็บไว้ก่อน หรือตัดสินใจแล้วไม่บอกก็มี  ขณะที่ภาคอีสานเรามั่นใจว่าได้ตัวเลข 2 หลัก ดังนั้น ภาพรวมวันนี้เรามั่นใจว่ายังสูสี และเชื่อสองพรรคน่าจะห่างกันไม่เกิน 3-4%

เหตุการณ์เดือน เม.ย. และ พ.ค. 2553 มีผลต่อการแพ้ชนะหรือไม่
เท่าที่ลงพื้นที่พบว่าประชาชนห่วงเรื่องเศรษฐกิจมากกว่าและสิ่งที่เขาหงุดหงิด และเรายอมรับว่าเป็นจุดอ่อน คือ เรื่องของแพง ซึ่งเมื่อเราได้ชี้แจงเขาก็เข้าใจมากขึ้น แต่เราต้องอธิบายว่าเวลาพูดมันง่าย แต่เวลาแก้มันยาก และวันนี้ก็ยังไม่เคยเห็นพรรคไหนมีนโยบายที่จะแก้ไขเรื่องนี้เลย ส่วนอีกเรื่องที่ถูกตั้งคำถามคือเรื่องไข่ชั่งกิโล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นประเด็น เพราะการซื้อขายแบบนี้เป็นทางเลือกเท่านั้น ไม่มีใครถูกบังคับ และคนที่ตามมาด่าตน ก็ไม่เคยซื้อไข่แบบชั่งกิโลเลยสักคน

ชูนิรโทษกรรมหาเสียง แต่อย่าเอาค่าแรงไปล่อ
เมื่อถามว่าหลังการเลือกตั้งจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนก็ต้องการให้บ้านเมืองสงบ  แต่วิธีของแต่ละพรรคจะเป็นวิธีไหนตนไม่แน่ใจ แต่เรื่องการนิรโทษกรรมหรือเพื่อล้างความผิดนั้น ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยังไม่ยอมแล้วอย่างนี้จะสงบได้อย่างไร คนจำนวนมากที่เขาไม่ส่งเสียงเขาอยากให้กฎหมายเป็นกฎหมาย คนต้องกลัวกฎหมายมากกว่าคนกลุ่มใหญ่เสียงดัง หากเรากลัวคนเสียงดัง ก็ทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ดังนั้น ขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์เป็นเสียงข้างมาก เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบ

"วันนี้บอกจะทำประชามติ ทั้งเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องนิรโทษกรรม  
ทำไมประเทศต้องมาติดกับเรื่องแบบนี้ตลอดเวลา 
ถ้าเรายอมกับอำนาจที่เสียงดังไม่เคารพกติกาอย่างนี้ 
เราก็ยกบ้านยกเมืองให้เขาไปเลยดีกว่าไม่ต้องเลือกตั้ง" นายอภิสิทธิ์กล่าว

"ถ้ามั่นใจก็ขอให้พรรคเพื่อไทยหาเสียงว่าจะทำนิรโทษกรรมอย่างเดียว 
อย่าเอาเรื่องค่าแรง 300 บาทไปล่อ หรืออย่างที่อีสานก็ให้แข่งเลย 
ระหว่างประกันราคาข้าว กับจำนำข้าว" นายอภิสิทธิ์กล่าว  

ยันเฟซบุ๊คพูดตามความจริง
ต่อเรื่องความไม่พอใจของนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ตนเขียนในเฟซบุ๊คนั้นเขียนตามความเป็นจริงไม่มีอะไรที่กระทบ แต่หลายเรื่องที่ทำนั้นพรรคร่วมรัฐบาลเขาไม่คุ้นเคยอย่างเรื่องกฎเหล็กที่ให้ลาออก ส่วนนายชุมพลนั้นเขาไม่ได้อ่านเลยออกมาวิจารณ์แบบนี้ สำหรับเรื่องที่กล่าวหาว่าผิดสัญญานั้นตนก็ไม่ได้ผิดสัญญาอะไร นอกจากเรื่องที่ไม่ได้ไปบึงฉวาง และไม่มีสัญญาเรื่องการแก้มาตรา 237 ด้วย พรรคภูมิใจไทยเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้  และขณะนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็มีเรื่องยุบพรรคอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญดังนั้นจะไปแก้ได้อย่างไร

ปัดไม่มีอำนาจลึกลับบีบร่วมรัฐบาล  
"ส่วนเรื่องอำนาจลึกลับที่นายชุมพลระบุนั้นก็ต้องไปถามท่านเพราะท่านเป็นคนพูด ผมก็เห็นว่าการลงคะแนนในสภาก็เป็นไปโดยเปิดเผย ที่ผมเห็นคือความจริงที่ผมรับรู้ หากมีอำนาจลึกลับนั้น ทำไมไม่ถาม พล.ต.อ.ประชา (พรหมนอก) เพราะก่อนนั้นท่านยังเปิดบ้านเลี้ยงข้าวพวกผม แต่อีกสองวันก็มาเสนอแข่ง ทำไมไม่มองว่าตรงนั้นมีอำนาจลึกลับบ้าง ตามระบบรัฐสภาคนที่รวบรวมเสียงข้างมากได้ คือ คนที่จะจัดตั้งรัฐบาล  และตอนนั้นผมตั้งรัฐบาลมาได้หนึ่งปีถึงจะมีการจุดประเด็นขึ้นมา"

เมื่อถามถึงเรื่องทหารที่อาจจะเป็นอำนาจลึกลับ 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นแต่ทหารตั้งด่านตรวจยาเสพติดแล้วมีคนเข้าไปขัดขวาง เรื่องนี้ใครจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่เขา  แต่หากพูดไม่ระวัง ก็อาจจะเข้าข้อหาใส่ร้ายให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม และอาจจะถูกยุบพรรค แล้วก็จะบอกว่ามีอำนาจลึกลับอีก ถามว่าถ้าไม่ทำผิดกฎหมายจะถูกยุบพรรคหรือไม่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงสุดท้ายจะมีอะไรที่ทำให้พลิกกลับมาชนะใน กทม.หรือไม่ 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คน กทม.เป็นคนที่ดู และรู้ข้อมูลเยอะ เราต้องชี้ให้เห็นว่าเลือกแต่ละพรรคแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

300 เสียงไม่ได้ตั้งรัฐบาล จึงเรียกอำนาจลึกลับ
เมื่อถามถึงกระแสที่พรรคเพื่อไทย จะได้ 270 เสียง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวสวนทันทีว่าเอาตัวเลขมาจากไหน เท่าที่ดูจากสวนดุสิตโพล เอแบคโพลล์ หรือนิด้าโพลล์  ตัวเลขก็ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าเป็นอย่างนั้น  ต้องเอาตัวเลขมาให้ตนดูถึงจะเชื่อ และถ้าเขาได้ 250 เสียงขึ้นจะกลัวอะไรกับการไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล หรือถ้าได้ 300 เสียงแล้วไม่ได้จัดตั้งอย่างนั้นแหละถึงเป็นอำนาจลึกลับ และไม่ลึกลับเท่านั้น ต้องมหัศจรรย์ด้วย

เหน็บ ไม่เอาภาษีไปซื้อคอมพ์แจกนักเรียน
ต่อเรื่องนโยบายพรรคเพื่อไทยที่จะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทนั้น 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากเป็นอย่างนั้นต่างจังหวัดจะเสียหาย เพราะ การจ้างงานจะไม่กระจายไปอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่จะกระจุกอยู่ในพื้นที่ที่เจริญกว่า ดังนั้น การขึ้นต้องขึ้นเป็นสัดส่วน นอกจากนี้ การขึ้นค่าแรงเราต้องช่วยผู้ประกอบการด้วยไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนเรื่องเครื่องจักรหรือโครงสร้างทางภาษี ทั้งนี้ ยอมรับว่าอาจจะกระทบต่อนายจ้างบ้าง แต่เราต้องทำเพื่อปรับโครงสร้างแรงงาน  หากเป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วยการกดค่าแรงเราไม่เห็นด้วย

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่เอาภาษีไปซื้อคอมพิวเตอร์แจกนักเรียนหรือเอาภาษีไปแจกคนที่จะซื้อรถ แต่จะนำเงินส่วนนี้ไปยกระดับการศึกษาน่าจะดีกว่า  

คนเลือก ปชป. ภท. แปลว่าไม่เอา พท. หรือไม่
เมื่อถามว่าหลังการเลือกตั้งมั่นใจอย่างไรว่าจะไม่เกิดปัญหาตามมา 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อเลือกตั้งเสร็จและทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เขาก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะสร้างเงื่อนไขในการก่อความวุ่นวาย แต่วันนี้ พรรคเพื่อไทยขอตัดพรรคภูมิใจไทยออก แล้วจะรวบรวมเสียงข้างมากได้อย่างไร หากเราคิดอย่างนี้ได้ไหมว่า หากประกาศไม่เอาภูมิใจไทย ดังนั้น คนที่เลือกประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย เป็นเสียงข้างมาก ที่ไม่เอาพรรคเพื่อไทยได้ไหม

เมื่อถามว่าเหตุใดพรรคเล็กจึงจุดประเด็นเรื่องการที่พรรคใหญ่จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราต้องให้ความเป็นธรรมว่าเขาไม่มีพื้นที่ที่จะพูด ทุกคนก็สนใจไปที่พรรคใหญ่ พรรคเล็กเขาก็ต้องจุดประเด็นเพราะเขาก็ต้องการหาเสียง ต้องยอมรับว่าพื้นที่ข่าวเขาถูกบีบมาก

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวคิดตั้งโต๊ะคุยระหว่างทุกพรรคการเมืองของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะเชิญทุกพรรคมาคุย จะให้ตนเชิญในฐานะนายกรัฐมนตรีหรือถูกเชิญไปในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้

เปิดทางร่วมเพื่อไทย แต่...
สุดท้ายนายอภิสิทธิ์ พูดตอบคำถาม
ถึงโอกาสร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน 
เขาเห็นว่าก็เป็นไปได้ที่จะมาคุยกัน 
แต่การคุยกันจะเกิดขึ้นได้ 
พรรคเพื่อไทยต้องยกเลิกนโยบายสองเรื่องก่อน 
สิ่งแรกต้องยืนยันว่าไม่เอานิรโทษกรรม 
และต้องบอกด้วยว่าจะไม่เอานโยบายจำนำข้าว 
หากยกเลิกสองนโยบายนี้ก่อน 
ถึงจะมาหารือร่วมงานกันได้


ขอขอบคุณภาพข่าวจากเนชั่น 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง