ทำไมจึงโหวตโน โดย สมเดช มากมี love-thailand01@hotmail.com
โดย Ronayos At Gmailcom เมื่อ 1 มิถุนายน 2011 เวลา 21:17 น.
ลองใช้เหตุผลพิจารณานะครับ รัฐบาลชุดปัจจุบัน (นายอภิสิทธิ์ นายก ธต 51 - กค.54) ทำอะไรไว้ผิด
1. ทำขัดรัฐธรรมนูญ โดยแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วน ที่เป็นส่วนได้เสียของส.ส. เพื่อให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง และไม่ออกกฎหมายลูกตามที่รัฐธรรมนูญระบุ เพื่อให้ไม่มีบทบังคับมีผลตาม กฎหมายตามนัยของรัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดช่องโหว่มากมาย ให้ตีความ
2. ทำขัดกฎหมาย เช่นกรณี ก.พ. ส่งเรื่องค้านการตั้งปลัดกระทรวง แต่นายกในฐานะประธานก.พ. ไม่ยับยั้งการแต่งตัั้งเสียเอง
การ ไม่ยอมดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ทำความผิดทางการเมือง คดีแล้วคดีเล่า ปล่อยให้คดีหมดอายุความไป เช่น ที่ธรณีสงฆ์ และ คดีขายทะเลให้ รัฐที่คลองด่าน เป็นต้น สมกับไทยไม่เคยนำนักการเมืองขึ้นศาลจนติดคุกได้ตั้งแต่ ปี 2504 เลย ปล่อยให้มีการเผาบ้านเผาเืองโดยสามารถดำเนินตามกฎหมายได้ ก่อนหน้าที่จะไม่ต้องทำให้คนตายถึง 92 ศพ เพราะส่งทหารมีแต่กระบองไปปราบ เมื่อเกิดการตาย ยังโยนเรื่องให้สอบสวนว่าทหารเป็นผู้สังหารหรือไม่ นอก จากนี้การสมยอมใช้ข้าราชการเข้ารับรองและให้ประกันกับนปช. ให้ได้ประกันตลอดทั้ง การให้มีการเลือกตั้งเร็ว เพื่อให้ผู้ที่ต้องคดีได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ต้องรับการจองจำ จนสามารถออกกฎหมายนิรโทษกรรมภายหลัง ล้วนแต่เป้็นการทำเรื่องที่ผิดกฎหมายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ทั้งสิ้น
3. ไม่คุ้มครองประชาชน กรณีเขมรยึดชายแดน ทั้งที่ผู้คนชายแดนเข้าใจว่าไทยและเขมรทำสงครามเต็มรูป แบบแล้ว (ตามเสียงและสื่อเขมร ที่ประโคมกันทั่ว ชายแดน) แต่ไทยไม่ได้ให้ข่าวหรือความกระจ่างใด ๆ 2-3 วันจนตื่นตระหนกอพยพกันเป็นหมื่นเป็นแสน จึงบิดเบือนข่าวว่าเป็นการปะทะเล็กน้อยที่ จำกัดบริเวณแม้ ชายแดนส่วนที่ไม่มีสงคราม ผู้ที่ถือกรรมสิทธิ์ในการทำกิน ก็ไม่สามารถเข้าทำกินได้ นายกรับปากทุกเรื่อง แต่ทำได้แค่อนุญาตไม่ต้องเสียภาษีไปก่อนเหมือนกับนายฮุนเซนเวนคืนที่ดินชาว บ้านไปขายให้นายทุนต่างประเทศ และที่ทักษิณจะออกกฎหมายเฉพาะเมืองสุวรรณภูมิ ยังไงอย่างงั้น
4. หาเรื่องให้ไทยต้องเสียดินแดน โดยพฤตนัยและนิตินัย โดยพฤตินัยคือ การให้คุมตัว(ปลดอาวุธ) โดยแม่ทัพภาค เจ้าหน้าที่ชั้นสูงกระทรวงต่างประเทศประทาน กรรมธิการต่างประเทศ ขึ้นไปบนบริเวณรอบพื้นที่(นอกประสาทพระวิหาร) 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยกองทัพเขมร พร้อมอาวุธ แล้วทำข่าวแพร่หลายทาง นิตินัย คือเอาเรื่องความขัดแย้งเข้าสู่ศาลโลก ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสแพ้เสียมากกว่า เพราะการเตรียมตัวเรื่องหลักฐาน พยาน และสิ่งแวดล้อมของเขมร ที่มีพร้อมมูล และ ทั้งที่ ศาลโลกคือกล่่มที่มีผลประโ่ยชน์ร่วมกันของชาติมหาอำนาจ ที่พร้อมจะตัดสินให้ได้สิ่งที่เขาต้องการอยู่แล้ว(ผล ประโยชน์ที่จะแลกได้จากพื้นที่นอกชายฝั่งทะเล) แต่ศาลโลกไม่สามารถตัดสินคู่กรณีใดที่ไม่ยินยอมพร้อมกันให้ตัดสิน ตั้งแต่ประเทศไทย กัมพูชา เรื่องพระวิหารแล้ว ยังไม่มีประเทศใดยอมขึ้นศาลโลกเลย แต่นายอภิสิทธิ์กลับยอมทั้ง ๆ ที่เซ็น เอ็มโอยู รับรองสิทธิ ใหม่ที่เรายอมแบ่งเขตแดนใหม่ ทั้ง ๆ ที่ ร. 5 ได้ระงับการ ใช้แผนที่ใหม่ที่ฝรั่งเศส พยายามให้รับรอง แต่ หลังจากไปผูกมิตรถ่ายรูปร่วมอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่กับรัสเซีย เราก็ไม่เคยมีสัญญาอะไรใหม่ นั่นคือทุกอย่างมัน จบเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว แต่รัฐบาลไทย พยายามทำอย่างเขมร คือ ฮุนเซนที่ยกที่ให้เวียตนามเป็นการตอบแทนเมื่อครั้งชักศึกเข้าบ้า แต่ ตอนนี้ไทย มีอะไรที่ฉุุดให้ไม่ทำแและกระทำสิ่งที่ไม่ควรกระทำอย่างนั้นหรือ
5. การบริหารโดยไม่เห็นความสำคัญของประชาชา รัฐบาลอภิสิทธิบริหาร โดยการให้หน่วยราชการการไปดูแลเอง ปล่อยให้หน่วยงานหรือนักการเมืองที่ได้ มอบอำนาจนั้นไปใช้อำนาจหรือหาผลประโยชน์กัน เขามักจะพูดว่า นั่นเป็นเรื่องที่หน่วยงานแต่ละหน่วยงานมีหน้าที่รับผิดชอบอยู่แล้ว เขาไม่เคยบริหารโดยใช้อำนาจของ นายกรัฐมนตรี เพราะความไม่กล้า หรือเป็นเพราะผลประโยชน์ที่สมยอมหรือตกลงกันแล้วกันแน่ จึงไม่แปลกอะไรที่ การมีข่าวคอรัปชั่นหนาหู จนประธานหอการ ค้าไทย บอกว่า มีการจ่ายใต้โต๊ะ แทบทุกโครงการ บางโครงการถึงขึ้น 50% ทีเดียว ยิ่งเห็นการบริหารเรื่องชายแดน รัฐบาลว่าอย่าง เจ้าหน้าที่กระทรวงต่าง ประเทศว่าอย่าง พอถึงทหาร ว่าอีกเรื่อง ผลคือประชาชนรับกรรมไป รอจนกันได้แล้ว เพราะว่าท่านคงทราบว่า
นี่คือการปล้นชาติ ถ้ารู้แล้ว แล้วเราจะเลือกระหว่าง
การให้เขาปล้น 30% หรือ พวกปล้น 50% หรือ หรือจะบอกว่ากูไม่ให้ปล้นแล้วด้วยการโวตโน ว่าเราไม่ยอมรับ มันจะได้สำเหนียก ถ้าเลือกใครก็คือการยอมรับการปล้นในครั้งนี้ การโวทโนจึง มีค่ากว่าการไม่ไปลงคะแนน เพราะเป็นแอคชั่น
ฉะนั้น ถ้าไม่เลือกเรา เขามาแน่ ก็ต้อง ถามว่า แล้ว ไง ถ้าเรามา มันมิแย่กว่าหรือ
แล้ว ต้องทำอย่างไรละ ก็ต้องให้เห็นว่า ข้าราชการการเมือง ต้องฟังเสียงประชาชนบ้าง มิใช่เห็นความสำคัญแค่การเลือกตั้งเท่านั้น วิธีที่ดีที่สุด ก็คือสั่งสอนให้เขารู้สำนึกบ้าง โวทโน จะช่วยให้เขารู้ว่า เขาจะทำเช่นนั้นไม่ได้ต่อไป เราปฏิเสธการเมืองและนักการเมืองเช่นพวกเขา
เราไม่ ควรเกรงว่า ใครจะไปใคร จะมา เพราะที่เห็น ๆ มัน คืออัปรีย์(สิทธิ์) ไป จัญไร มา ก็เท่านั้น เอง ปล่อยให้จัญไรมาสัก 4 ปี เป็นไร เมื่อนั้น อภิสิทธิ์(กลับตัว) จะมาก็ไม่มีใครว่ากัน จริงไหมครับ สมเดช เมื่อเป็นเช่นนี้ การเลือก ชั่วสุด ๆ กับ ชั่วช้า เพื่อปกครองเรา เราต้องจำยอมอยางนั้นหรือ ทำผิด 5 ข้อนี้ยังไม่พอหรือ
กลับบอก ว่่าเราไม่ใช่โจร ทั้งที่ไม่รักษากฎหมาย ไม่ปฏิบัติตาม รัฐธรรมนูญ ไม่คุ้มครองประชาชนปล่อยให้เผา(ถ้าไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้อาจจะไม่มีการเผา) ไม่รักษาดินแดน เอาอำนาจอธิปไตยไปให้ศาลโลก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีประเทศใดยอมรับอำนาจของศาลโลก ซึ่งรังแต่เสี่ยงให้เสียดินแดน เหมือนขายชาติหรือโง่เพราะไม่มีการตัดสินใจ คอรัปชั่นเชิงนโยบายงบประมาณที่ใช้หาเสียงทำให้ลูกหลาน หรืออาจแค่ได้เห็นในไม่นานจะเป็นหนี้สินและล้มละลายอีกครั้ง เพราะรัฐไม่ได้คำนึงถึงรายได้ของรัฐที่จะหาได้ในอนาคตกับการผลาญเงิน เพื่อการหาประโยชน์ของตน
1. ทำขัดรัฐธรรมนูญ โดยแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วน ที่เป็นส่วนได้เสียของส.ส. เพื่อให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง และไม่ออกกฎหมายลูกตามที่รัฐธรรมนูญระบุ เพื่อให้ไม่มีบทบังคับมีผลตาม กฎหมายตามนัยของรัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดช่องโหว่มากมาย ให้ตีความ
2. ทำขัดกฎหมาย เช่นกรณี ก.พ. ส่งเรื่องค้านการตั้งปลัดกระทรวง แต่นายกในฐานะประธานก.พ. ไม่ยับยั้งการแต่งตัั้งเสียเอง
การ ไม่ยอมดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ทำความผิดทางการเมือง คดีแล้วคดีเล่า ปล่อยให้คดีหมดอายุความไป เช่น ที่ธรณีสงฆ์ และ คดีขายทะเลให้ รัฐที่คลองด่าน เป็นต้น สมกับไทยไม่เคยนำนักการเมืองขึ้นศาลจนติดคุกได้ตั้งแต่ ปี 2504 เลย ปล่อยให้มีการเผาบ้านเผาเืองโดยสามารถดำเนินตามกฎหมายได้ ก่อนหน้าที่จะไม่ต้องทำให้คนตายถึง 92 ศพ เพราะส่งทหารมีแต่กระบองไปปราบ เมื่อเกิดการตาย ยังโยนเรื่องให้สอบสวนว่าทหารเป็นผู้สังหารหรือไม่ นอก จากนี้การสมยอมใช้ข้าราชการเข้ารับรองและให้ประกันกับนปช. ให้ได้ประกันตลอดทั้ง การให้มีการเลือกตั้งเร็ว เพื่อให้ผู้ที่ต้องคดีได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ต้องรับการจองจำ จนสามารถออกกฎหมายนิรโทษกรรมภายหลัง ล้วนแต่เป้็นการทำเรื่องที่ผิดกฎหมายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ทั้งสิ้น
3. ไม่คุ้มครองประชาชน กรณีเขมรยึดชายแดน ทั้งที่ผู้คนชายแดนเข้าใจว่าไทยและเขมรทำสงครามเต็มรูป แบบแล้ว (ตามเสียงและสื่อเขมร ที่ประโคมกันทั่ว ชายแดน) แต่ไทยไม่ได้ให้ข่าวหรือความกระจ่างใด ๆ 2-3 วันจนตื่นตระหนกอพยพกันเป็นหมื่นเป็นแสน จึงบิดเบือนข่าวว่าเป็นการปะทะเล็กน้อยที่ จำกัดบริเวณแม้ ชายแดนส่วนที่ไม่มีสงคราม ผู้ที่ถือกรรมสิทธิ์ในการทำกิน ก็ไม่สามารถเข้าทำกินได้ นายกรับปากทุกเรื่อง แต่ทำได้แค่อนุญาตไม่ต้องเสียภาษีไปก่อนเหมือนกับนายฮุนเซนเวนคืนที่ดินชาว บ้านไปขายให้นายทุนต่างประเทศ และที่ทักษิณจะออกกฎหมายเฉพาะเมืองสุวรรณภูมิ ยังไงอย่างงั้น
4. หาเรื่องให้ไทยต้องเสียดินแดน โดยพฤตนัยและนิตินัย โดยพฤตินัยคือ การให้คุมตัว(ปลดอาวุธ) โดยแม่ทัพภาค เจ้าหน้าที่ชั้นสูงกระทรวงต่างประเทศประทาน กรรมธิการต่างประเทศ ขึ้นไปบนบริเวณรอบพื้นที่(นอกประสาทพระวิหาร) 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยกองทัพเขมร พร้อมอาวุธ แล้วทำข่าวแพร่หลายทาง นิตินัย คือเอาเรื่องความขัดแย้งเข้าสู่ศาลโลก ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสแพ้เสียมากกว่า เพราะการเตรียมตัวเรื่องหลักฐาน พยาน และสิ่งแวดล้อมของเขมร ที่มีพร้อมมูล และ ทั้งที่ ศาลโลกคือกล่่มที่มีผลประโ่ยชน์ร่วมกันของชาติมหาอำนาจ ที่พร้อมจะตัดสินให้ได้สิ่งที่เขาต้องการอยู่แล้ว(ผล ประโยชน์ที่จะแลกได้จากพื้นที่นอกชายฝั่งทะเล) แต่ศาลโลกไม่สามารถตัดสินคู่กรณีใดที่ไม่ยินยอมพร้อมกันให้ตัดสิน ตั้งแต่ประเทศไทย กัมพูชา เรื่องพระวิหารแล้ว ยังไม่มีประเทศใดยอมขึ้นศาลโลกเลย แต่นายอภิสิทธิ์กลับยอมทั้ง ๆ ที่เซ็น เอ็มโอยู รับรองสิทธิ ใหม่ที่เรายอมแบ่งเขตแดนใหม่ ทั้ง ๆ ที่ ร. 5 ได้ระงับการ ใช้แผนที่ใหม่ที่ฝรั่งเศส พยายามให้รับรอง แต่ หลังจากไปผูกมิตรถ่ายรูปร่วมอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่กับรัสเซีย เราก็ไม่เคยมีสัญญาอะไรใหม่ นั่นคือทุกอย่างมัน จบเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว แต่รัฐบาลไทย พยายามทำอย่างเขมร คือ ฮุนเซนที่ยกที่ให้เวียตนามเป็นการตอบแทนเมื่อครั้งชักศึกเข้าบ้า แต่ ตอนนี้ไทย มีอะไรที่ฉุุดให้ไม่ทำแและกระทำสิ่งที่ไม่ควรกระทำอย่างนั้นหรือ
5. การบริหารโดยไม่เห็นความสำคัญของประชาชา รัฐบาลอภิสิทธิบริหาร โดยการให้หน่วยราชการการไปดูแลเอง ปล่อยให้หน่วยงานหรือนักการเมืองที่ได้ มอบอำนาจนั้นไปใช้อำนาจหรือหาผลประโยชน์กัน เขามักจะพูดว่า นั่นเป็นเรื่องที่หน่วยงานแต่ละหน่วยงานมีหน้าที่รับผิดชอบอยู่แล้ว เขาไม่เคยบริหารโดยใช้อำนาจของ นายกรัฐมนตรี เพราะความไม่กล้า หรือเป็นเพราะผลประโยชน์ที่สมยอมหรือตกลงกันแล้วกันแน่ จึงไม่แปลกอะไรที่ การมีข่าวคอรัปชั่นหนาหู จนประธานหอการ ค้าไทย บอกว่า มีการจ่ายใต้โต๊ะ แทบทุกโครงการ บางโครงการถึงขึ้น 50% ทีเดียว ยิ่งเห็นการบริหารเรื่องชายแดน รัฐบาลว่าอย่าง เจ้าหน้าที่กระทรวงต่าง ประเทศว่าอย่าง พอถึงทหาร ว่าอีกเรื่อง ผลคือประชาชนรับกรรมไป รอจนกันได้แล้ว เพราะว่าท่านคงทราบว่า
นี่คือการปล้นชาติ ถ้ารู้แล้ว แล้วเราจะเลือกระหว่าง
การให้เขาปล้น 30% หรือ พวกปล้น 50% หรือ หรือจะบอกว่ากูไม่ให้ปล้นแล้วด้วยการโวตโน ว่าเราไม่ยอมรับ มันจะได้สำเหนียก ถ้าเลือกใครก็คือการยอมรับการปล้นในครั้งนี้ การโวทโนจึง มีค่ากว่าการไม่ไปลงคะแนน เพราะเป็นแอคชั่น
ฉะนั้น ถ้าไม่เลือกเรา เขามาแน่ ก็ต้อง ถามว่า แล้ว ไง ถ้าเรามา มันมิแย่กว่าหรือ
แล้ว ต้องทำอย่างไรละ ก็ต้องให้เห็นว่า ข้าราชการการเมือง ต้องฟังเสียงประชาชนบ้าง มิใช่เห็นความสำคัญแค่การเลือกตั้งเท่านั้น วิธีที่ดีที่สุด ก็คือสั่งสอนให้เขารู้สำนึกบ้าง โวทโน จะช่วยให้เขารู้ว่า เขาจะทำเช่นนั้นไม่ได้ต่อไป เราปฏิเสธการเมืองและนักการเมืองเช่นพวกเขา
เราไม่ ควรเกรงว่า ใครจะไปใคร จะมา เพราะที่เห็น ๆ มัน คืออัปรีย์(สิทธิ์) ไป จัญไร มา ก็เท่านั้น เอง ปล่อยให้จัญไรมาสัก 4 ปี เป็นไร เมื่อนั้น อภิสิทธิ์(กลับตัว) จะมาก็ไม่มีใครว่ากัน จริงไหมครับ สมเดช เมื่อเป็นเช่นนี้ การเลือก ชั่วสุด ๆ กับ ชั่วช้า เพื่อปกครองเรา เราต้องจำยอมอยางนั้นหรือ ทำผิด 5 ข้อนี้ยังไม่พอหรือ
กลับบอก ว่่าเราไม่ใช่โจร ทั้งที่ไม่รักษากฎหมาย ไม่ปฏิบัติตาม รัฐธรรมนูญ ไม่คุ้มครองประชาชนปล่อยให้เผา(ถ้าไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้อาจจะไม่มีการเผา) ไม่รักษาดินแดน เอาอำนาจอธิปไตยไปให้ศาลโลก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีประเทศใดยอมรับอำนาจของศาลโลก ซึ่งรังแต่เสี่ยงให้เสียดินแดน เหมือนขายชาติหรือโง่เพราะไม่มีการตัดสินใจ คอรัปชั่นเชิงนโยบายงบประมาณที่ใช้หาเสียงทำให้ลูกหลาน หรืออาจแค่ได้เห็นในไม่นานจะเป็นหนี้สินและล้มละลายอีกครั้ง เพราะรัฐไม่ได้คำนึงถึงรายได้ของรัฐที่จะหาได้ในอนาคตกับการผลาญเงิน เพื่อการหาประโยชน์ของตน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น