บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

ไขคำตอบ!ก่อนถึงเก้าอี้อำมาตย์ “ณัฐวุฒิ & FRIEND” โอนหุ้น 32 ล้านให้ใคร?

alt
แกะรอยทางเดินไพร่“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” จากปลายปี 2549 ก่อนถึงเก้าอี้“อำมาตย์”ต้นปี 2555 และเหล่าผอง“เพื่อนพ้อง น้องพี่” เงินลงทุนปริศนา 32 ล้านถูกโอนให้ใคร?
บนเส้นทางการต่อสู้ของ“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ”แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อนได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ยิ่งลักษณ์ 2) วันที่ 18 มกราคม 2555 น่าสนใจ
มิใช่เพียงเพราะปืนบันได“ไพร่”ก้าวข้ามความยากจนไปสู่เก้าอี้ “อำมาตย์”ประการเดียว
หากแต่“ระหว่างทาง”มีเงื่อนงำให้น่าค้นหาไม่น้อย
ในช่วงขับเคลื่อนทางการเมืองปลายปี 2549 นายณัฐวุฒิมีเงินลงทุนอย่างน้อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด และ บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด (โทรทัศน์ PTV)
บริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 1 เมษายน 2545 ทุนก้อนแรก 5 ล้านบาท วันที่ 18 มกราคม 2550 เพิ่มอีก 45 ล้านบาทเป็น 50 ล้านบาท ปัจจุบัน 90 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 2539 อาคารอิมพีเรียล เวิลด์ลาดพร้าว ชั้น 6 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ (ของนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย)
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า นายณัฐวุฒิ เข้ามาถือหุ้นครั้งแรก วันที่ 25 ธันวาคม 2549 จำนวน 20,000 หุ้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ 10,000 หุ้น นายวีระ มุสิกพงศ์ 10,000 หุ้น จากทั้งหมด 50,000 หุ้น (มูลค่าหุ้นละ 100 บาท)
วันที่ 18 มกราคม 2550 บริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด เพิ่มทุนอีก 45 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท แบ่งเป็น 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท นายณัฐวุฒิเพิ่มสัดส่วนถือครองเป็น 200,000 หุ้น (มูลค่า 20 ล้านบาท) นายจตุพร พรหมพันธุ์ เพิ่มสัดส่วนถือครองเป็น 100,000 หุ้น (มูลค่า 10 ล้านบาท) นายวีระ มุสิกพงศ์ เพิ่มเป็น 100,000 หุ้น (มูลค่า 10 ล้านบาท)  
วันที่ 4 มิถุนายน 2550 บริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด มีผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นมา 1 คนจาก 7 คนเป็น 8 คน นักลงทุนหน้าใหม่ คือ นายจักรภพ เพ็ญแข จำนวน 100,000 หุ้น ซึ่งหุ้นของนายจักรภพนั้นได้รับโอนมาจากนายณัฐวุฒิจำนวน 100,000 หุ้น ทำให้นายณัฐวุฒิเหลือหุ้นถือครอง 100,000 หุ้น (ดูตาราง)
อีก 5 เดือนถัดมา ก่อนเลือกตั้ง วันที่ 31 ตุลาคม 2550 (นายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริษัท ทำหนังสือถึงนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ขอเปลี่ยนรายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2550)
นายณัฐวุฒิได้ถอนหุ้นออกทั้งหมด โดยหุ้นจำนวน 200,000 หุ้น ของนายณัฐวุฒิและนายจตุพร ถูกกระจายให้บุคคล 4 คน
     1.นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า 50,000 หุ้น
     2.นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า 50,000 หุ้น
     3.นายนิรันดร์ แก่นยะมูล จำนวน 90,000 หุ้น และ
     4.นายอุกฤษฎ์ ชลสินธุ์ 10,000 หุ้น
เท่ากับนายณัฐวุฒิและนายจตุพรไม่มีเงินลงทุนอีกต่อไป
ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่คือ นายนิรันดร์ แก่นยะมูล นายสุชาติ ประเสริฐศรี (รับโอนหุ้นมาจากนายจักรภพ เพ็ญแข) นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า และ นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า มีนายวีระกานต์ (วีระ) มุสิกพงศ์ เป็นกรรมการ 
แจ้งผลประกอบการปี 2550 รายได้ 4,952,118 บาท ขาดทุนสุทธิ 46,454,076 บาท ปี 2551 รายได้ 34,227,553 บาท ขาดทุนสุทธิ 18,486,490 บาท ปี 2552 รายได้ 34,385,443 บาท กำไรสุทธิ 4,735,502 บาท
บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด จดทะเบียนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2550 ทุน 5 ล้านบาท ประกอบกิจการขายหนังสือ ที่ตั้งเลขที่ 95/56 หมู่ที่ 8 ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ผู้ถือหุ้นช่วงก่อตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายจตุพร พรหมพันธุ์ คนละ 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เท่ากับคนละ 1 ล้านบาท (น่าสังเกตว่านายจักรภพเข้ามาถือหุ้นบริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับถือหุ้น บริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด)
อีก 5 เดือนถัดมาวันที่ 31 ตุลาคม 2550 นายณัฐวุฒิและนายจตุพรถอนหุ้นออกทั้งหมด โดยหุ้นจำนวน 20,000 หุ้น ถูกกระจายให้บุคคล 3 คนคือ (นายวีระ มุสิกพงศ์ กรรมการบริษัท ทำหนังสือถึงนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ขอเปลี่ยนรายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2550)
      1.นายนิรันดร์ แก่นยะมูล จำนวน 10,000 หุ้น
      2.นายณรงค์ศักดิ์ คำเก่า 5,000 หุ้น
      3.นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า 5,000 หุ้น
วันเดียวกัน นายนิรันดร์ แก่นยะมูล โอนต่อให้นายอุกฤษฎ์ ชลสินธุ์ จำนวน 1,000 หุ้น
เท่ากับนายณัฐวุฒิและนายจตุพรไม่มีเงินลงทุนเช่นเดียวกัน
ปัจจุบัน (ณ 30 เม.ย.54) บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด มีนายวีระ นายสุชาติ ประเสริฐศรี นายนิรันดร์ แก่นยะมูล ถือหุ้นใหญ่
แจ้งผลประกอบการปี 2550 รายได้ 5,187,810 บาท ขาดทุนสุทธิ 769,058 บาท ปี 2551 รายได้ 873,359 บาท ขาดทุนสุทธิ 2,792,822 บาท ปี 2553 รายได้ 8,211,458 บาท กำไรสุทธิ 1,757,404 บาท
รวมมูลค่าเงินลงทุนของนายณัฐวุฒิ 2 บริษัท 21 ล้านบาท นายจตุพร 11 ล้านบาท รวมเป็น 32 ล้านบาท
ไม่มีข้อมูลว่า บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายณัฐวุฒิที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตอนรับตำแหน่ง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปี 2551 มีจำนวนเท่าไร แต่ตอนเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 แจ้งว่ามีทรัพย์สินเฉพาะเงินฝากรวม 5,276,558.69 บาท
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ตอนรับตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 22 มกราคม 2551 มีเงินฝาก 2,599,939.46 บาท ตอนเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 มีเงินฝาก 3,849,639.98 บาท
ไม่มีใครทราบ“ที่มา”ของเม็ดเงินลงทุนในช่วงเคลื่อนไหวทางการ เมืองปลายปี 2549 แต่ทราบในเวลาต่อมาว่า“ผ่องถ่าย”ก่อนเข้าสู่อำนาจรัฐในช่วงปลายปี 2550 และออกผลอีกครั้งเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2555 ? 

รายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด
alt
 ที่มา:กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ,สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รวบรวม

รายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด
alt
 ที่มา:กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ,สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รวบรวม

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง