วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555
ทำไมต้องเป็น ปตท. ???
ท่าน รองนายกและรมว คลังฯ ทำไมต้องเร่งรัดให้กระทรวงการคลังขายหุ้นให้กับกองทุนวายุภักษ์ให้เสร็จสิ้น ในปีนี้ ในเมื่อ ปตท ก็มีกำไรสุทธิมากกว่า รัฐวิสาหกิจอื่น หากรวบรวมกัน 10 อันดับแล้วจะพบว่า ปตท เข้ามาอันดับแรก
รัฐวิสาหกิจที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 10 อันดับต้นๆมีอะไรบ้าง ข้อมูลของกระทรวงการคลัง อัพเดท 31ธ.ค.2553 มีดังนี้ครับ
1.บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน ) กำไรสุทธิ 83,087.72 ล้านบาท
2. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กำไรสุทธิ 37,355.13 ล้านบาท
3. ธนาคารออมสิน กำไรสุทธิ 19,399.73 ล้านบาท
4. บริษัท การบินไทย จำกัด ( มหาชน ) กำไรสุทธิ 15,397.94 ล้านบาท
5. บมจ.ธนาคารกรุงไทย กำไรสุทธิ 14,913.24 ล้านบาท
6. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กำไรสุทธิ 14,762.89 ล้านบาท
7. การไฟฟ้านครหลวง กำไรสุทธิ 8,680.22 ล้านบาท
8. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กำไรสุทธิ 8,012.27 ล้านบาท
9. บริษัท ทีโอที จำกัด ( มหาชน ) กำไรสุทธิ 7,765.31 ล้านบาท
10.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กำไรสุทธิ 6,354.11 ล้านบาท
ซึ่งรวม 10 ลำดับแล้วจะมีมูลค่าถึง 215,728.57 ล้านบาท หากเทียบจากรายได้ของ ปตท แล้ว มีมูลค่าถึง 38.5% เลยทีเดียว
เมื่อเราดูรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรสูงสุด 10 อันดับแรกแล้ว เราหันมาดูบ้างว่ารัฐวิสาหกิจที่ มีผลขาดทุนสูงสุด 10 อันดับแรกบ้าง
1.การรถไฟแห่งประเทศไทย ขาดทุนสุทธิ 7,584.03 ล้านบาท
2.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขาดทุนสุทธิ 4,972.58 ล้านบาท
3.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ขาดทุนสุทธิ 862.88 ล้านบาท
4.องค์การสวนสัตว์ ขาดทุนสุทธิ 167.96 ล้านบาท
5.การกีฬาแห่งประเทศไทย ขาดทุนสุทธิ 87.64 ล้านบาท
6.องค์การตลาดเพื่อการเกษตร ขาดทุนสุทธิ 74.12 ล้านบาท
7.องค์การคลังสินค้า ขาดทุนสุทธิ 68.91 ล้านบาท
8.องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ขาดทุนสุทธิ 36.85 ล้านบาท
9.องค์การสะพานปลา ขาดทุนสุทธิ 11.69 ล้านบาท
10.บริษัท ส่งเสริมธุรกิจเกษตรกรไทย จำกัด ขาดทุนสุทธิ 5.33 ล้านบาท
รวมทั้ง 10 ลำดับมีมูลค่าขาดทุนสุทธิ 13,871 97 ล้านบาท
ซึ่ง แต่ละรัฐวิสาหกิจล้วนแต่มีหนี้สาธารณะกันทั้งนั้น หากเรามามองหนี้สาธารณะคงค้าง อัพเดทเดือน กันยายน 2554 จำนวน 4,269,026.84 ล้านบาท คิดเป็น 40.22% ของ GDP ที่กระทรวงการคลังประกาศใว้แบ่งออกเป็น
1.หนี้สาธารณะที่รัฐบาลกู้โดยตรง 3,010,317.68 ล้านบาท ร้อยละ 28.36 ของGDP
2.หนี้สาธารณะที่เป็นของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,072,101.07 ล้านบาท ร้อยละ 10.10 ของGDP
3.หนี้สาธารณะที่เป็นของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน 155,624.44 ล้านบาท ร้อยละ 1.47 ของGDP
4.หนี้สาธารณะที่เป็นของกองทุนฟื้นฟูฯ 30,983.65 ล้านบาท ร้อยละ 0.29 ของGDP
หมายเหตุประมาณ GDP ปี 2554 เท่ากับ 10,840.50 พันล้านบาท
คำให้สัมภาษณ์ของนายวีระพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) บางส่วนดังนี้
“แนวทางดังกล่าวจะช่วยลดภาระหนี้สาธารณะให้ลง โดยปัจจุบันหนี้สาธารณะอยู่ที่ 4 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 41% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งการปลดหนี้ของ ปตท.และการบินไทย จะทำให้หมดภาระหนี้รวม 1 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 10% ของจีดีพี อย่างไรก็ตาม หนี้สาธารณะในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นหนี้จากรัฐวิสาหกิจค่อนข้างมาก ส่วนรัฐบาลกลางก่อหนี้เพียง 1% ของจีดีพีเท่านั้น หากปลดภาระหนี้ดังกล่าวได้ จะทำให้รัฐบาลสามารถกู้เงินเพื่อมาพัฒนาประเทศไทยได้มากขึ้น”
หากเรามองข้อมูลของกระทรวงการคลังและพบว่าหนี้สาธารณะของประเทศอยู่ที่ 4 ล้านล้านหรือประมาณ 41% ของGDP จริง และหนี้สาธารณะของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน มีอยู่ประมาณ 10% จริง แต่ที่พูดมาไม่จริง ก็คือ รัฐบาลกลางก่อหนี้เพียง 1% ของ GDP
ซึ่ง จากข้อมูลกระทรวงการคลังพบว่า หนี้สาธารณะที่รัฐบาลกู้โดยตรง 3,010,317.68 ล้านบาท ร้อยละ 28.36 ของGDP ซึ่งไม่ใช่ 1% ของ GDP แต่อย่างใด
จึงเป็นที่น่าสังเกตุว่า ในเมื่อหนี้สาธารณะของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินซึงมีอยู่มากมาย คิดเป็นร้อยละ 10.10%ของGDPของประเทศ ซึ่งในจำนวนนั้นมีทั้ง ปตท การบินไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และอื่นๆ
ทำไมกระทรวงการคลังไม่คิดจะขายหุ้นในส่วนรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนอยู่ขณะนี้ ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่จะให้เอกชนเข้ามาบริหารได้อย่างเต็มที่และเป็น การเปิดให้มีการแข่งขันกันอย่างเสรีขึ้น
แต่ว่าทำไมถึงคิด เอา บริษัท ปตท.จำกัด ( มหาชน ) ซึ่งมีกำไรสุทธิ อันดับหนึ่งของรัฐวิสหกิจทั้งหมด มาขายเพื่อให้หลุดพ้นจาก รัฐวิสาหกิจด้วย อ่านแล้วน่าจะมีคำตอบอยู่ในใจของทุกคน ครับ
ขอบคุณภาพอินเตอร์เน็ตและขอ้มูลจาก http://www.mof.go.th
by ณสยาม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น