บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

ห้ามพลาด! รายงานพิเศษ: ปฎิบัติการสายฟ้าแล่บ "เนวิน-บุรีรัมย์" ฮุบ "กฟภ."



ใครติดตามข่าวของสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ หรือ ปราสาทสายฟ้า แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด คงหายสงสัยกันแล้วว่าบทสรุปของทีมแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกออกมาเป็นเช่นใด หลังจากได้ฟังคำแถลงอย่างเป็นทางการของ "บิ๊กเน" นายเนวิน ชิดชอบ นายใหญ่ของทีมดังแห่งที่ราบสูง ในวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ได้ตอบข้อสังสัยทุกข้อแบบไม่มีกั๊ก

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเล็ดลอดออกมาจากแคมป์ปราสาทสายฟ้าว่า นายใหญ่เตรียมฉีกเอ็มโอยู ที่ทำไว้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 5 ปี เพื่อยุบสโมสรรวมกับ บุรีรัมย์ เอฟซี หรือ "ลาวาเพลิง" หากทีมน้องสามารถขยับขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จให้เหลือทีมที่เป็นของชาวบุรีรัมย์อย่างแท้จริงเพียงทีมเดียว!

เหตุผลที่ต้องยุบสโมสรรวมกันบ้างก็ว่าเป็นเพราะทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ไม่อนุญาตให้มีสโมสรที่มีเจ้าของเดียวกันเล่นอยู่ในลีกเดียวกัน

บ้างก็ว่าเป็นเพราะทั้งสองสโมสรมีค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนสูงลิบต้องยุบรวมให้เหลือเพียงสโมสรเดียวเพื่อลดรายจ่าย ประกอบกับมีข่าวแพร่สะพัดว่านักการเมืองฝั่งรัฐบาลเตรียมดึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไปรวมกับเชียงใหม่

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดข่าวลือนี้ได้รับความสนใจจากเหยี่ยวข่าวสายกีฬาที่คอยตามติดความเคลื่อนไหวของสโมสรอย่างใกล้ชิด แต่จนแล้วจนรอดยังไม่ยืนยันจากปากของเนวินปล่อยให้เป็นเรื่องที่ค้างคาใจหลายคน รวมถึงแฟนบอลที่อยากรู้อนาคตของทีมรักเป็นเวลานาน

จนกระทั่งในช่วงปลายปีที่ผ่านมาทีมแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกจดทะเบียนชื่อสโมสรใหม่ว่า "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"ทำให้กระแสข่าวเรื่องการยุบทีมกระจ่างชัดเจนขึ้น

ข่าวลือเกิดความกระจ่างชัดขึ้นอีกเมื่อบอสใหญ่บุรีรัมย์ พีอีเอ ออกมายอมรับว่า มีการจดทะเบียนชื่อใหม่จริง และเตรียมยุบทีมรวมกันเหลือเพียงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียงทีมเดียว

แต่ปัญหายังไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ เพราะมีหลายคนตั้งคำถามว่า เมื่อแยกตัวจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไปแล้ว สิทธิในการส่งทีมเข้าแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2012 และสิทธิ์การส่งทีมเข้าร่วมฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้าจะตกเป็นของใคร

แม้"เนวิน"ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าสิทธิการส่งทีมเป็นของบุรีรัมย์ เพราะถือหุ้นมากกว่า แต่ลึกๆ แล้วคนดังเมืองบุรีรัมย์ยังคงหวั่นว่าจะชวดลงเตะฟุตบอลถ้วยรายการใหญ่สุดของเอเชีย ทำให้ 3 วันก่อนการแถลงข่าวมีคนแอบเห็น "บิ๊กการไฟฟ้า" เดินเข้าออกที่ทำการของสโมสร เพื่อมาเจรจาตกลงเรื่องทั้งหมด


หลังจากการเจรจาทุกอย่างจบลงด้วยดี วันที่ 9มกราคม จึงจัดงานแถลงข่าวเกิดขึ้นที่โรงแรมสยามซิตี้ เพื่อตอบคำถามที่สังคมกังขาอย่างหมดเปลือก ได้รับการตอบรับจากเหยี่ยวข่าวสายกีฬาเป็นจำนวนมากที่แห่กันไปทำข่าวชิ้นนี้ เล่นเอาข่าวการรายงานตัวของทีมชาติชุดใหญ่ ชุดลุยศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 41 ที่จัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกร่อยไปถนัดตา


"เพื่อยุติข่าวลือต่างๆ และให้ทุกอย่างกระจ่างไม่มีข้อครหาใดๆ ผมในฐานะประธานสโมสร ได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อหุ้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ของสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาบริหารจัดการเอง และสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะโอนสิทธิการส่งทีมฟุตบอลเข้าแข่งขันทุกรายการที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี เป็นผู้จัดการแข่งขันให้แก่สโมสรบุรีรัมย์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด โดยเป็นการโอนสิทธิ์ขาดตลอดไป และเพื่อตอบแทนสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่มอบสิทธิ์ให้แก่เรา บริษัทสโมสรบุรีรัมย์ จะบริจาคเงินให้แก่สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำนวน 23 ล้านบาท เพื่อนำไปสร้างอาคารที่ทำการสโมสร" นายเนวินกล่าวในวันแถลงข่าว

ขณะที่นายนิวัฒน์ คีรีวรรณ ตัวแทนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า สาเหตุการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโอนสิทธิทั้งหมดให้ทางบุรีรัมย์นั้น เพราะไม่มีศักยภาพเพียงพอ เนื่องจากการเล่นในลีกสูงสุดในปัจจุบันต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคล และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก จึงเป็นเรื่องยากที่รัฐวิสาหกิจอย่างการไฟฟ้าฯจะทำได้ การโอนสิทธิ์ทั้งหมดให้บุรีรัมย์จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด หลังจากนี้เจะไม่ส่งทีมเข้าร่วมรายการที่สมาคมฟุตบอลจัดขึ้นอีก แต่จะร่วมลงแข่งเฉพาะกีฬาของรัฐวิสาหกิจเท่านั้น

แม้ว่าเรื่องสิทธิของบุรีรัมย์จะจบลง แต่ยังมีปัญหาที่หลายคนข้องใจว่าทำไม? ต้องเป็น สงขลา เอฟซี ที่ได้รับสิทธิ์ของบุรีรัมย์ เอฟซี ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด

เนวิน เปิดใจว่า สาเหตุที่ต้องเป็นสงขลา เพราะต้องการให้ฟุตบอลไทยเป็นของคนไทยจริงๆ ซึ่งปัจจุบันในไทยพรีเมียร์ลีกยังไม่มีทีมจากภาคใต้ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะตัดสินใจมอบสิทธิให้กับสงขลา อีกทั้งสงขลายังมีแฟนคลับจำนวนมากที่เข้าชมเกมในแต่ละนัด ตรงนี้จะเป็นจุดดีในอนาคตถ้า เอเอฟซี มาตรวจการพัฒนาของลีกไทย สงขลาจะเป็นอีกแรงให้ประเทศไทยได้คะแนนจากเอเอฟซีมากขึ้น



ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสรสงขลา เอฟซี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่บุรีรัมย์โอนสิทธิ์การลงเตะในไทยพรีเมียร์ลีก ในฐานะประธานขอยืนยันว่า จะทำทีมให้ดีที่สุด และจะปรับเปลี่ยนนักเตะใหม่ให้มีศักยภาพเพียงพอต่อการเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก เชื่อมั่นว่าสงขลา เอฟซี จะอยู่รอดในไทยพรีเมียร์ลีกแน่นอน

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงยอมโอนสิทธิ์ทั้งหมดให้บุรีรัมย์ นั่นเป็นเพราะบิ๊กของการไฟฟ้ามีสายสัมพันธ์กับเนวินอย่างแนบแน่น

ไม่แปลกที่เป็นทีมสงขลาเพราะนาย นิพนธ์ บุญญามณี ส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เคยร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยของนายเนวิน นั่งเป็นประธานสโมสร

และไม่แปลกที่สิทธิของทีมสงขลาที่เล่นอยู่ในดิวิชั่น 1 ที่มีข่าวลือว่าทีมหาดใหญ่ เอฟซี ทีมบ้านพี่เมืองน้องจะได้สิทธินั่นไป

ทั้งหมดทั้งหลายนั้นมีทั้งความเป็นเพื่อนและผลประโยชน์ที่สอดประสานอย่างลงตัวเหมาะเจาะ!

kunginternews

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง