“ หลายคนอาจคิดว่า
การต่อสู้ของเสื้อแดงนั้นซาไป การเรียกร้องให้มีการปฎิรูปประชาธิปไตย
เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเอาคนผิดมาลงโทษกรณีสังหารหมู่ประชาชน 91
ศพ ข้อเรียกร้องของนิติราษฎร์ เรื่องให้การทำรัฐประหารเป็นการสูญเปล่า
การแก้ไข พรบ.กลาโหม การเยียวยาผู้ที่ถูกสังหารทางการเมือง …
ผมว่าประเด็นต่างๆ เหล่านี้แค่ชะลอ
เรื่องความขัดแย้งทางการเมืองออกไปเท่านั้น
แต่ประเด็นทั้งหลายมันยังอยู่เหมือนเดิม ทัศนะคติทางการเมืองของคนไทย
ที่แยกออกเป็นสองขั้ว ยังเหมือนเดิม ……
เพราะความขัดแย้งทางการเมืองไทยครั้ง นี้เป็น "ความขัดแย้งที่รากฐานทางอุดมการณ์"
ร้าวลึก ถึงความเชื่อและอุดมการณ์พื้นฐานของคนไทยทุกคน
มันเป็นทางเลือกที่แตกต่างกันชัดเจนระหว่างระบอบอำมาตย์ กับประชาธิปไตย
เลือกได้ทางใดทางหนึ่งเท่านั้น
ดังนั้นการที่จะคิดว่าจะมีเหตุการณ์อะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนออกไป
จากการ เมืองนั้น ผมคิดว่าแค่ชั่วคราวเท่านั้น ”
แนวคิดของ “ลูกชาวนาไทย”
ตอบโจทย์คำถามของคนไทยจำนวนไม่น้อย ที่ยังคงกังวลกับสถานการณ์บ้านเมือง
ท่ามกลางปัจจัยที่บ่งชี้ว่าหลายเงื่อนไขกำลังจะนำไปสู่การสุกงอมในไม่ช้า
และ “สนข.ทีนิวส์” ก็เชื่อว่า “พ.ต.ท.ทักษิณ”
จะไม่ใช่ผู้กุมสถานการณ์การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงอีกต่อไป
เมื่ออุดมคติของคนเสื้อแดงแต่ละฝักฝ่ายเริ่มชัดเจนในจุดยืนของตัวเองมากขึ้น
เรื่อย ๆ
“รัฐบาล
พรรคเพื่อไทยนี้ไม่ใช่รัฐบาลของเรา ทั้งๆ
ที่เราเคยทุ่มเทคะแนนเสียงให้เพื่อตบหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งรอบ
ที่แล้ว เราขอประกาศว่าเราพร้อมที่จะต่อต้านรัฐบาลนี้อย่างถึงที่สุด
ในกรณีที่รัฐบาลไม่ทำตามผลประโยชน์ของเสื้อแดงที่เสียสละเพื่อประชาธิปไตย
... ”
“นายใจ อึ๊งภากรณ์”
หัวขบวนล้มเจ้า บอกย้ำความรู้สึกในเชิงคะคาน
กับแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ที่มีแนวโน้มอะลุ้มอล่วยกับผู้นำกองทัพ และ
การแสดงจุดยืนในหลายคำรบต่อความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง
“เสื้อแดงก้าวหน้า”
มีเป้าหมายร่วมคือ การสร้างประชาธิปไตยแท้ที่ไม่มีอำนาจนอกระบบมาแทรกแซง
เราคัดค้านอิทธิพลของทหารและต้องการลดงบประมาณทหาร
เราเรียกร้องให้ยกเลิกกฏหมาย 112 ซึ่งปฏิรูปไม่ได้
เราเรียกร้องให้มีการปล่อยนักโทษการเมืองเสื้อแดง และนักโทษ 112 ทันที
และเราต้องการให้นายอภิสิทธิ์ ประยุทธ์ อนุพงษ์ และสุเทพ
ถูกนำมาขึ้นศาลในฐานะที่สั่งฆ่าประชาชน … ”
กระแสความคิดของ “นายใจ”
ต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หากเปรียบเทียบในเชิงความรู้สึก
อาจคล้ายกับทิศทางที่เกิดขึ้นกับความคิดที่แตกต่าง ระหว่าง “นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แนวทางการทำงานของ “นางธิดา ถาวรเศรษฐ์”
รักษาการประธานนปช. ที่เอาแต่เคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์
โดยไม่ก้าวทะลุไปถึงความสำเร็จในเชิงเป้าหมาย โดยเฉพาะกรณี มาตรา
112 ที่เพิ่งจะออกมาส่งสัญญาณ หลังจากเกิดเคส “SMS อากง”
ขณะที่ทั้ง “ นายใจ” และ “นายสมศักดิ์” ดูเหมือนจะให้การสนับสนุนแนวคิดของ “กลุ่มนิติราษฎร์” อย่างชัดเจน แต่กับวิธีคิดของแดงนปช. กลับถูกทั้ง “นายใจ” และ “นายสมศักดิ์” มองว่าเป็นความต่างในระดับที่ “นางธิดา” ไม่ควรใช้คำว่าเป็นแนวทางเดียวกัน ???
ทั้งหมดทั้งมวลมีส่วนให้น่าคิด
ว่า ความขัดแย้งทางการเมืองยังคงดำรงอยู่จริงในสังคมไทย
และจะกลับมาปะทุใหม่ในไม่ช้า เป็นเรื่องจริงที่คงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
แม้ว่าในทางการเมืองจะพูดถึงความปรองดองกันตลอดเวลา
แต่เครือข่ายทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับผุดเงื่อนไขใหม่ ๆ
ที่ทำให้เกิดความแตกแยกตลอดเวลา
รวมถึงความขัดแย้งนี้ก็มีแนวโน้ม จะรุนแรงกลายเป็นสงครามกลางเมืองได้ เพราะเหตุว่ามีโอกาสสูงที่ “ แนวรบแดง ”
ต่างจะเลิกท่าทีสงวนจุดร่วม สงวนจุดต่าง
และประกาศตัวเป็นอิสระไม่ขึ้นตรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงพรรคเพื่อไทย
เพราะพิสูจน์แล้วว่าเครือข่ายทางการเมือง
ก็มีเป้าหมายใช้มวลชนเป็นเครื่องมือทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวบุคคล
และพวกพ้องเป็นการเฉพาะ ...
“
อย่าคิดว่าคน เสื้อแดงเป็นของตาย เป็นหมู่ในเล้า จะสั่งหันซ้ายหันขวาก็ได้
บอกความจริงให้ก็ได้ ตอนนี้ชื่อของทักษิณ คือสีแดงเข้มที่ค่อย ๆ
ซีดจางลงไปเรื่อย ๆ ในใจของมวลชนคนเสื้อแดง
จากพฤติกรรมที่แหยไม่สู้คนของคุณเอง ..
ที่จริงคุณคือคนที่มวลชนไม่เคย
คิดอยากจะก้าวข้าม แต่เมื่อคุณหลงทาง
และไม่ยอมเดินกลับเข้ามาในขบวนอย่างที่มันควรจะเป็นเสียที
คุณกำลังจะกลายเป็นแค่คนที่โดนทิ้งไว้ข้างหลังอย่างที่ไม่มีใครเหลียวแล ..
ขณะที่มวลชน
กำลังเดินตรงไปบนเส้นทางแห่งความก้าวหน้า
ของระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนต้องเป็นใหญ่อย่างแท้จริง
ทักษิณกลับเดินแยกตัวออกมา
ไปหลงวนเวียนอยู่ในป่าละเมาะข้างทางหาทางออกไม่เจอ ..
อย่าคิดว่า
คน เสื้อแดงเป็นของตาย เป็นหมูในเล้า จะสั่งหันซ้ายหันขวาก็ได้
บอกความจริงให้ก็ได้ ตอนนี้ชื่อของทักษิณ คือสีแดงเข้มที่ค่อย ๆ
ซีดจางลงไปเรื่อย ๆ ในใจของมวลชนคนเสื้อแดง
จากพฤติกรรมที่แหยไม่สู้คนของคุณเอง …” ( Fighttilldiered : เปะปะ หลงทาง และตามไม่ทันมวลชน คืออาการของคนที่กำลังจะโดนคนเสื้อแดงทิ้ง ชื่อทักษิณ ชินวัตร)
และท้ายที่สุดเมื่อสถานการณ์เลวร้ายไปถึงจุดที่ไม่มีใครห้ามใครได้ ... เมื่อ “พ.ต.ท.ทักษิณ” ไม่สามารถห้ามขบวนการล้มเจ้าให้หยุดคุกคาม จาบจ้วง (ความเป็นจริงก็ไม่เคยห้าม) ภาพการเผชิญหน้าระหว่าง “คนรักเจ้า” และ “คนล้มเจ้า” ย่อมเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่นับรวมไปถึงประเด็นเกี่ยวเนื่องอย่าง “ผู้สนับสนุน ม.112” และ “ผู้คัดค้าน ม.112” หรือ “คนรักทักษิณ” และ “ คนไม่เอาทักษิณ”
ที่เป็นร่องรอยความแตกแยกอยู่แต่เดิมระหว่างคนต่างสีเสื้อ
และกำลังยกระดับไปสู่จุดระเบิด กับ ประเด็นการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ...
ถึงตรงนี้หลายคนเริ่มพูดถึงระเบิดแสวงเครื่องลูกแรกในรอบปี 2554
ที่ตรวจพบบริเวณสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล
ซึ่งมีเป้าหมายสร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง
ในช่วงที่ประเทศกำลังอยู่วาระอันเป็นมิ่งมงคล ว่า
คือการส่งสัญญาณนับหนึ่งของเหตุความรุนแรงประเทศรอบใหม่ ที่
พ.ต.ท.ทักษิณ วางเชื้อชนวนไว้ตั้งแต่ต้น ( เมษายน 2552 ) โดยละเลยว่า
นี่เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ของพระเจ้าแผ่นดิน
ที่เห็นบ้านเมืองไม่เป็นปกติสุข ???
T-NEWS
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รีโมท
ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น