บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อาเพศในบ้านเมือง 16 ประการ

คำพยากรณ์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเผยแพร่หลายมาแต่โบราณกาล บางท่านสามารถว่าปากเปล่าได้คล่อง การนำมาเสนอ ณ ที่นี้เพื่อสนอง คำขอจากหลายท่านที่ไม่ทราบความในคำพยากรณ์นี้โดยสมบูรณ์ คำพยากรณ์นี้ผู้รู้ทั้งหลายพยายามหาหลักฐานกันนักหนาว่าเป็นคำพยากรณ์ของท่านใดแต่ไม่อาจจะหาหลักฐานได้ พอจะสรุปความเห็นได้เป็น ๓ ประการคือบางท่านว่าพระพุทธเจ้าเสือเป็นผู้แต่งบางท่านว่าเป็นพระนารายณ์เป็นผู้แต่ง และบางท่านก็ว่าเป็นพระพุทธทำนายแต่ไม่มีหลักฐานที่จะยืนยันว่าความเห็นข้อไหนเป็นข้อที่ถูกต้อง
อารัมภบทของคำพยากรณ์นี้ยืดยาวมาก ได้นำมาเฉพาะส่วนที่เป็นสาระสำคัญ ได้แก่เหตุอาเพศในบ้านเมือง ๑๖ ประการ

คือดาวเดือนดินฟ้าจะอาเพศ
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาฬ
พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก
ผีป่าจะวิ่งเข้าสิงเมือง
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี
พระธรณีจะตีอกไห้
ในลักษณะทำนายไว้บ่ห่อนผิด
มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม
ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด
เทวดาซึ่งรักษ์พระศาสนา
สัปบุรุษจะแพ้แก่ทรชน
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว
ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย
ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า
ผู้มีเสียจะเสียซึ่งอารมณ์
พระมหากษัตริย์จะเสื่อมสิงหนาท
อาสัจจะเลื่องลือชา
ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ
ผู้มีสินจะถอยจากทรัพย์
ทั้งอายุจะถอยเคลื่อนจากเดือนป
ทั้งพืชแผ่นดินจะหย่อนไป
ทั้งสรรพว่านยาจะอาเพศ
จวงจันทร์พรรณไม้อันหอมรส
ี ทั้งข้าวก็จะยากหมากจะแพง
จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญี
เขตคามประเทศธานี
จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล
จะร้อนอกสมณาประชาราษฎร์
จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย
ทางน้ำจะแห้งเป็นทางบก
สิงห์สาราสัตว์เนื้อเบื้อ
ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลาย
ด้วยพระกาฬจะมาผลาญแผ่นดิน
กรุงศรีอยุธยาเคยเกษมสุข
จะเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์ อุบัติเหตุเกิดทั่วทิศาน
เกิดนิมิตพิศดารทุกบ้านเมือง
อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร
พระกาฬกลีจะเข้ามาเป็นไส้
อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม
เมื่อพินิจพิศดูจะเห็นสม
มิใช่เทศกาลลมฝนก็อุบัติ
เกิดวิบัตินานาทั่วสากล
จะรักษาแต่ฝ่ายอกุศล
มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์
จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม
เพราะจัณฑาลมันเข้ามาเสพสม
เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา
ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา
พระธรรมาจะตกลึกลับ
จะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ
สัปบุรุษจะอับซึ่งน้ำใจ
ประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย
ผลหมากรากไม้จะถอยรส
เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด
จะถอยถดไปตามประเพณี
สารพันจะแห้งแล้งไปทุกที่
ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน
จะเกิดการกลีทุกแห่งหน
จะสาละวนถ้วนทั่วทั้งหญิงชาย
จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย
ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ
เวียงวังจะรกเป็นป่าเสือ
จะมิหลงหลอเหลือในแผ่นดิน
จะสาบสูญล้มตายเสียหมดสิ้น
จะสูญสิ้นการรณรงค์สงครามกัน
แสนสนุกยิ่งล้ำเมืองสวรรค์
นับวันจะเสื่อมสูญเอยฯ

คำพยากรณ์นี้ปรากฏสืบทอดกันมาหลายร้อยปี “กรุงศรีอยุธยา” ในคำพยากรณ์นั้น จะหมายถึงประเทศเขตไหนก็ตาม หากจะพิจารณาสภาพการณ์ในปัจจุบันแล้ว อดเผลอไม่ได้อยู่ร่ำไป ที่จะคิดว่าข้อความทั้งหมดนั้นเป็นคำพยากรณ์ประเทศไทยในสมัยนี้ และกำลังเป็นที่ประจักษ์ถึงความแม่นยำอย่างน่าอัศจรรย์
ลองพิจารณาอาเพศต่างๆ ในคำพยากรณ์นั้นกันดู เช่น
เทวดาซึ่งรักษ์พระศาสนา จะรักษาแต่ฝ่ายอกุศล ดูคนที่มีโอกาสจะร่ำรวยเด่นในปัจจุบันเถิด ว่าส่วนใหญ่เป็นคนประเภทไหน เข้าตำราอีกตำราหนึ่งว่า ที่ซื่อถือพระเจ้า ว่าโง่เง่าเต่าปูปลา
มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก มีตัวอย่างให้เห็นโดยทั่วไปว่า คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันถือผลประโยชน์สำคัญกว่ามิตรภาพ มักทิ้งมิตรมากกว่า ทิ้งผลประโยชน์
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว เรื่องคบชู้ฆ่าผัว ยังปรากฏเป็นข่าวประจำวัน
ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย การประท้วงต่างๆเห็นจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนดี
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอารมณ์ เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา ก็เห็นจะได้แก่พระก็มีการประท้วง และมีการเดินกับเขาด้วยเหมือนกันนั่นแหละ
สัปบุรุษจะอับซึ่งน้ำใจ เพราะกฎหมายสู้กฎหมู่ไม่ได้
ผู้เขียนจำได้จากคำเล่าขานของผู้เฒ่าผู้แก่เพื่อถ่ายทอดสู่รุ่นลูกหลานนัยว่าเป็นคำทำนายปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาว่า อนาคตเมืองไทยแบ่งเป็น ๑๐ยุคสมัย ดังนี้
“มหากาฬ ภาณยักษ์ รักบัณฑิต สนิทธรรม จำแขนขาด ราษฎร์โจร ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาววิไล”
นัยว่ารัชกาลปัจจุบัน คือ ยุคสมัยถิ่นกาขาว หมายถึงมีชาวต่างชาติฝรั่งมังค่าจะเข้ามาสู่ประเทศมากขึ้น หมายถึงมีความเจริญรุ่งเรืองทางวัตถุ แต่น่าเป็นห่วงเรื่องศีลธรรมละกระมัง ! จึงขอบันทึกไว้เพื่อเตือนสติและกันลืม

ยุคเสื่อมถอย (ทุรยุค)
ลามกประเทศทั้ง ทุรมิตร
อีกตระกูลเผ่าชิด ชั่วร้าย
ภรรยาทาสทุจริต จำพวก นี้พ่อ
ควรบุคคลพึงพ่าย ผ่อนลี้หลีกหนี
(โคลงโลกนิติ)

ชุมชนเรดิโอ

กลอนอาเพศพินิจ

อันเพลงยาวกล่าวไว้สิบหกเหตุ                  เป็นอาเพศไว้ให้อุทาหรณ์
หาใช่เรื่องแห่งการพยากรณ์                      แต่ไว้สอนระลึกทุกผู้คน
ประพฤติตนอันใดให้ตระหนัก                     เหตุอุปัทว์ที่เกิดทุกสถาน
ล้วนแต่เกิดจากกมลกลสันดาน                   ก่อเป็นมารสานเหตุในบัดดล

การอุบัติซึ่งผลแห่งอาเพศ                         ล้วนต้องเหตุมาจากประพฤติชน
ให้มูลค่าอันสิ่งเป็นอาจม                             กลับพกลมให้เห็นเป็นดอกบัว
ศีลธรรมคุณธรรมเป็นความโง่                   แลไม่โก้ถูกฝังไว้ในหัว
เสมือนเห็นกงจักรเป็นดอกบัว                     แยกไม่รู้ดีชั่วคืออะไร

นั่นเพราะคนยึดถืออวิชชา                          ขาดปัญญาตรองคิดให้ถ้วนถี่
ลุ่มหลงแต่อบายแลโลกีย์                            ให้บัดสีไร้ธรรมกำกับตน
พอประสบปัญหามักหาเหตุ                        โทษอาเพศกันทั่วทุกแห่งหน
แต่มิใคร่โทษด้อยปัญญาตน                       เพราะมวลชนนั้นพ้นจากศีลธรรม

เมื่อพิเคราะห์มูลเหตุทั้งหลายแล้ว               อาเพศนั้นไม่แคล้วเป็นตัวผล
เหตุวิปริตมาจากตัวมวลชน                         อย่าหลงตนโทษเดือนแลดวงดาว
พยากรณ์เพียงเตือนจิตสำนึก                      อย่าหลงยึดเป็นเหตุให้ไหลหลง
ดำรงศีลธรรมประจำองค์                            จักปลอดปลงอาเพศทุกเหตุเอยฯ    

เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา เป็นบทร้อยกรองประเภทเพลงยาว มีเนื้อหาเกี่ยวกับการพยากรณ์สถานการณ์ของประเทศไทยในอนาคตว่าจะประสบวิบัติ ภัยนานา โดยคาดว่าประพันธ์ขึ้นราวสมัยรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททองถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ส่วนผู้ประพันธ์ยังไม่อาจระบุตัวได้แน่ชัด

[แก้] ข้อเท็จจริงและข้อสันนิษฐาน

เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยาแต่งขึ้นเลียนแบบมหาสุบินชาดก และนิทาน "พยาปัถเวน (ปเสนทิโกศล) ทำนายฝัน" ชาดกและนิทานดังกล่าวเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระสุบินนิมิตสิบหกประการของ ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศลที่ได้ทูลถามคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า
เพลงยาวฯ นี้ ปรากฏอยู่ในหนังสือ "อธิบายแผนที่พระนครศรีอยุธยา" ซึ่งมหาอำมาตย์โทพระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์) อดีตสมุหเทศาภิบาลมณฑลอยุธยา และอดีตอุปนายกราชบัณฑิตยสภา แผนกโบราณคดี พิมพ์ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในการพระราชพิธีทรงบวงสรวงอดีตมหาราชเจ้าที่พระนครศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2459
สันนิษฐานว่าเพลงยาวนี้มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่นักวิชาการยังไม่อาจสรุปแน่ชัดว่าใครเป็นผู้แต่ง แม้ว่าในตอนท้ายของบทกลอนได้บันทึกกำกับไว้ว่า "พระนารายณ์เป็นเจ้านพบุรีทำนาย..." หากว่าเป็นจริงตามนั้น "พระนารายณ์" ก็หมายถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ส่วน"นพบุรี"คือเมืองลพบุรี
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงอธิบายไว้ในคำนำหนังสือดังกล่าว มีความตอนหนึ่งว่า "...เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา อ้างไว้ข้างท้ายว่าเปนพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพลงยาวนี้มีหลักฐานควรเชื่อแต่ว่าแต่งเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเปนราชธานี ด้วยในคำให้การของพวกชาวกรุงเก่าที่พม่าจับไปถามคำให้การเมื่อครั้งเสียกรุง ศรีอยุธยาได้กล่าวอ้างถึง แต่ข้อที่ว่าเปนพระราชนิพนธ์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชนั้นไม่มีหลักฐานอย่าง อื่นนอกจากที่มีเขียนอ้างไว้กับเพลงยาว ปลาดอยู่ที่เพลงยาวบทนี้ยังมีผู้ท่องจำกันมาได้แพร่หลายจนในกรุงรัตน โกสินทร์นี้ แต่เรียกกันว่าเพลงยาวพุทธทำนาย...”
ในหนังสือ “คำให้การชาวกรุงเก่า” ก็มีเรื่องคำพยากรณ์กรุงศรีอยุธยานี้เช่นกัน กล่าวว่าเป็นพระราชนิพนธ์ของพระพุทธเจ้าเสือ มีเนื้อความสั้นกว่าและปรากฏความเป็นร้อยแก้ว ซึ่งสันนิษฐานเพิ่มเติมได้อีกว่า เพลงยาวฯ นี้อาจแต่งขึ้นเพื่อใช้ทำลายขวัญกำลังใจสาธารณะอันเป็นจิตวิทยาทางการเมือง เพราะบทกลอนดังกล่าวมีเนื้อความคล้ายกับร่ายของพระเจ้าสุริเยนทราธิบดีหรือพระเจ้าเสือที่ ทรงประพันธ์ขึ้นมาเพื่อใช้ในปฏิบัติการจิตวิทยาทางการเมืองในปลายรัชสมัยของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งต่อมาผู้นำในสมัยรัตนโกสินทร์ก็ใช้ประโยชน์จากบทกลอนดังกล่าวมาอธิบาย เหตุการณ์การเสียกรุงศรีอยุธยาโดยมีเป้าหมายในทางการเมืองที่ต่างไปจากพระ เจ้าเสือ
สรุปก็คือ ถ้าหากว่าเพลงยาวนี้ได้ถูกแต่งในสมัยอยุธยาจริง อาจกล่าวได้ว่า
1. ผู้แต่งจะต้องเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง มีความสามารถในทางโหราศาสตร์หรือทางจิตวิทยาและเป็นนักประพันธ์นำมาผนวกกับ เรื่องราวของพุทธทำนายดังกล่าวข้างต้น
2. เพลงยาวฯ นี้อาจใช้เป็นจุดประสงค์ในทางการเมือง
ข้อสังเกตอีกประเด็นหนึ่งก็คือ การทำนายชะตาบ้านเมืองไปในทางเลวร้ายเช่นนี้ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายและ เป็นการอัปมงคล หากเป็นการแต่งโดยบุคคลธรรมดาก็อาจจะถูกลงโทษสถานหนัก ดังนั้นผู้ที่สามารถทำนายกล่าวอ้างออกมาได้และทำให้ผู้คนยอมรับและจดจำกัน ได้นั้น ก็ย่อมต้องเป็นบุคคลที่มีความสำคัญระดับพระมหากษัตริย์ หรือบุคคลที่พระมหากษัตริย์ให้การยอมรับนับถือ

เนื้อเพลงยาว

 

จะกล่าวถึงกรุงศรีอยุธยา
เป็นกรุงรัตนราชพระศาสนา มหาดิเรกอันเลิศล้น
เป็นที่ปรากฏรจนา สรรเสริญอยุธยาทุกแห่งหน
ทุกบุรีสีมามณฑล จบสกลลูกค้าวาณิช
ทุกประเทศสิบสองภาษา ย่อมมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาเป็นอัครนิตย์
ประชาราษฎร์ปราศจากภัยพิษ ทั้งความพิกลจริตแลความทุกข์
ฝ่ายองค์พระบรมราชา ครองขัณฑสีมาเป็นสุข
ด้วยพระกฤษฎีกาทำนุก จึ่งอยู่เย็นเป็นสุขสวัสดี
เป็นที่อาศัยแก่มนุษย์ในใต้หล้า เป็นที่อาศัยแก่เทวาทุกราศี
ทุกนิกรนรชนมนตรี คหบดีชีพราหมณพฤฒา
ประดุจดั่งศาลาอาศัย ดั่งหนึ่งร่มพระไทรอันสาขา
ประดุจหนึ่งแม่น้ำพระคงคา เป็นที่สิเน่หาเมื่อกันดาน
ด้วยพระเดชเดชาอานุภาพ อาจปราบไพรีทุกทิศาน
ทุกประเทศเขตขัณฑ์บันดาล แต่งเครื่องบรรณาการมานอบนบ
กรุงศรีอยุธยานั้นสมบูรณ์ เพิ่มพูนด้วยพระเกียรติขจรจบ
อุดมบรมสุขทั้งแผ่นพิภพ จนคำรบศักราชได้สองพัน
คราทีนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมั่น
ด้วยพระมหากษัตริย์มิได้ทรงทศพิธราชธรรม์ จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ
คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาฬ เกิดนิมิตพิศดารทุกบ้านเมือง
พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี พระกาฬกุลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกไห้ อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม
ในลักษณ์ทำนายไว้บ่ห่อนผิด เมื่อวินิศพิศดูก็เห็นสม
มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด
มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวพ้น มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ
ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสาระพัด เกิดวิบัตินานาทั่วสากล
เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล
สัปบุรุษจะแพ้แก่ทรชน มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์
ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม
ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า เพราะจันฑาลมันเข้ามาเสพสม
ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์ เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา
พระมหากระษัตริย์จะเสื่อมสิงหนาท ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา
อาสัตย์จะเลื่องลือชา พระธรรมาจะตกลึกลับ
ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ จะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ
ผู้มีสินจะถอยจากทรัพย์ สัปบุรุษจะอับซึ่งน้ำใจ
ทั้งอายุศม์จะถอยเคลื่อนจากเดือนปี ประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย
ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไป ผลหมากรากไม้จะถอยรส
ทั้งแพทยพรรณว่านยาก็อาเพศ เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด
จวงจันทน์พรรณไม้อันหอมรส จะถอยถดไปตามประเพณี
ทั้งข้าวก็จะยากหมากจะแพง สาระพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่
จะบังเกีดทรพิษมิคสัญญี ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน
กรุงประเทศราชธานี จะเกิดการกุลีทุกแห่งหน
จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล จะสาละวนทั่วโลกทั้งหญิงชาย
จะร้อนอกสมณาประชาราช จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย
จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ
ทางน้ำก็จะแห้งเป็นทางบก เวียงวังก็จะรกเป็นป่าเสือ
แต่สิงห์สารสัตว์เนื้อเบื้อ นั้นจะหลงหลอเหลือในแผ่นดิน
ทั้งผู้คนสาระพัดสัตว์ทั้งหลาย จะสาบสูญล้มตายเสียหมดสิ้น
ด้วยพระกาฬจะมาผลาญแผ่นดิน จะสูญสิ้นการณรงค์สงคราม
กรุงศรีอยุธยาจะสูญแล้ว จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม
ไปจนคำรบปีเดือนคืนยาม จนสิ้นนามศักราชห้าพัน
กรุงศรีอยุธยาเขษมสุข แสนสนุกยิ่งล้ำเมืองสวรรค์
จะเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์ นับวันจะเสื่อมสูญเอยฯ
จบเรื่องพระนารายณ์เป็นเจ้านพบุรีทำนายกรุงแต่เพียงเท่านี้

อ้างอิง

  • หนังสือ อธิบายแผนที่พระนครศรีอยุธยากับคำวินิจฉัยของพระยาโบราณราชธานินทร์ ฉบับชำระครั้งที่ 2 ฉบับโรงพิมพ์คุรุสภา พ.ศ. 2509
  • เรื่องศิลปและภูมิสถานอยุธยา ของกรมศิลปากร ฉบับโรงพิมพ์คุรุสภา พ.ศ. 2509
  • หนังสือ คำให้การชาวกรุงเก่า โดย อนันต์ อมรรตัย สำนักพิมพ์จดหมายเหตุ 2544
  • บทความ เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยาโดย จุลลดา ภักดีภูมินทร์
  • นิตยสารสกุลไทย ฉบับที่ 2700 ปีที่ 52 ประจำวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2549 [1]

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง