อ.ประสาท มีแต้ม
รัฐบาลไหน ๆ ก็แค่หุ่นเชิดในมือของบริษัทพลังงาน!
ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการครองชีพของประชาชน รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เข้าแทรกแซงราคาน้ำมันดีเซล (ซึ่งเชื่อว่ามีผลต่อราคาสินค้ามาก) ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรวิธีการของรัฐบาลก็คือ เริ่มต้นด้วยการ (1) ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการรณรงค์ประหยัดพลังงาน (2) นำเงินกองทุนน้ำมันมาชดเชย และ (3) หากราคาน้ำมันดิบยังคงพุ่งสูงขึ้นอีกในปี 2554 รัฐบาลก็มีแนวคิดที่จะลดภาษีสรรพสามิตลงมา ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลราคาเกิน 30 บาทต่อลิตร
ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2553 ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในเขตกรุงเทพมหานครอยู่ที่ลิตรละ 29.99 บาท ในจำนวนนี้เป็นค่าภาษีสรรพสามิต 5.31 บาท ค่ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน 0.25 บาท โดยที่ได้นำเงินกองทุนน้ำมันมาชดเชย 0.35 บาท
ในวันนี้ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 91 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่อย่าลืมว่าในปี 2551 มันเคยขึ้นไปสูงสุด 142 หรือสูงกว่าราคาวันนี้ไปถึง 56 %
ผมมีคำถาม 2 ข้อที่อยากจะถามรัฐบาลหรือชวนผู้อ่านร่วมกันคิด
ข้อแรก แล้วรัฐบาลจะเอาเงินภาษีที่ไหนมาบริหารประเทศ เพราะจากตัวเลขดังกล่าว ในแต่ละปีรัฐบาลมีรายได้จากภาษีน้ำมันดีเซลถึงประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท ถ้าไม่เก็บส่วนนี้ จะเอาเงินที่ไหนมาทำถนน มาให้นักการเมืองโกง (ฮา)
ข้อที่สอง ทำไมรัฐบาลไม่หันกลับไปดูบ้างว่า บริษัทน้ำมันได้คิดค่าการกลั่นและค่าการตลาดในอัตราเท่าใด เป็นธรรมกับผู้บริโภคหรือไม่ สูงหรือต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ หรือไม่ เป็นต้น
แทนที่จะคิดแต่ในกรอบของข้อแรกอยู่ร่ำไป
จากข้อมูลของกระทรวงพลังงาน (29 ธ.ค. 53) พบว่า ค่าการกลั่น (หมายถึงราคาขายเฉลี่ยหน้าโรงกลั่นของผลิตภัณฑ์ทุกชนิดลบด้วยราคาน้ำมันดิบ) อยู่ที่ลิตรละ 1 บาท 12 สตางค์ต่อลิตร
สำหรับค่าการตลาดเฉลี่ย (หมายถึงรายได้บริษัทขายส่งน้ำมันหน้าโรงกลั่นรวมกับรายได้ของปั๊มน้ำมัน โดยที่ค่าขนส่งน้ำมันเป็นภาระของผู้เติมน้ำมัน) อยู่ลิตรละ 1 บาท 23 สตางค์ (เท่าที่ผมทราบเจ้าของปั๊มน้ำมันจะได้ในช่วง 50 ถึง 75 สตางค์)
ค่าภาคหลวง คล้ายการ เก็บภาษี ใช้กับน้ำมัน แร่ธาตุ ฯลฯ ผลประโยชน์ที่เก็บเข้ารัฐจากการขุดเจาะ ขายน้ำมันที่ควรเก็บมากกว่านี้ และควรเอามาใช้พัฒนาประเทศให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม(ประชาชนทั้งประเทศ โดยเท่าเทียม)จริงๆ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้คนไม่กี่ตระกูล
ขอบคุณข้อมูลจากพี่ Dada Dew
ค่าภาคหลวง คือค่าธรรมเนียม ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ผู้ได้รั
http://www.uthailocal.go.t
ลองดูที่เค้าให้การโอนเงินค
จากพี่ Amy Wong
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น