Posted by โลกทรรศน์2010 ,
ใน บรรดาโครงการเพ้อฝัน แถมมีนัยยะแห่งความพร้อมที่จะฉ้อฉลได้ของพรรคเพื่อไทย ที่นำเสนอก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งมาจนถึงวันนี้ ไม่มีโครงการใดอีกแล้ว ที่จะมีความเคลือบแคลงที่ส่อว่าจะมีการยัดไส้ เพื่อเล่นแร่แปรธาตุหากินกับโครงการขนาดใหญ่ได้เท่ากับ
“โครงการถมทะเลเพื่อสร้างเมืองใหม่” อีกแล้ว
หลายฝ่ายคงพูดกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปมากพอสมควรแล้ว แต่ผู้เขียนอยากตั้งข้อสังเกตให้ทุกคนช่วยกันคิดให้จงหนักว่า
เหตุใด “เถ้าแก่จอมวางแผนแห่งดูไบ” จึงกล้าเสนอโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้เข้ามาเป็น Masterpiece ของพรรคตนที่หวังสร้างชื่อประดับเกียรติยศให้คนจดจำไปอีกนาน
ทั้ง ที่..รู้ทั้งรู้ว่าจะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านเพื่อหาซื้อทรายพิเศษทื่ใช้เพื่อถมพื้นที่ประมาณ 4 พันล้านคิวมาเพื่อถมพื้นที่ถึง 2 แสนไร่ หรือ 300 ตร.กม. คิดเป็นระยะทางยาวถึง 30 ก.ม. ให้เกิดพื้นที่ที่ยื่นออกไปสู่ทะเลยาวถึง 10 ก.ม.
ว่ากันว่าต่อให้เอาทรายทั่วประเทศมากองไว้ก็ไม่พอเพียงเพื่อโครงการนี้เพียงโครงการเดียว ก็แน่นอนอยู่แล้วว่า ก็คงต้องซื้อทรายจากเพื่อนบ้านเพื่อมาถมแผ่นดินบ้านเรา นั่นแหละ...ช่องทางแห่งการฉ้อฉลเปิดทางให้อีกแล้ว
ซึ่ง หากคิดเป็นปริมาณเงินที่ต้องถมไปให้กับโครงการนี้ เพื่อให้เกิดเกียรติยศแก่พรรคตัวเอง จะต้องใช้เงินมากกว่างบประมาณประเทศต่อ 1 ปีอย่างแน่นอน เพราะจะต้องสร้างอสังหาริมทรัพย์สารพัดรูปแบบที่จะดูดเงินต่างประเทศมา ต่อยอดในโครงการ “อัครฉ้อฉล” นี้
ทั้ง ที่...รู้ทั้งรู้ว่าจะต้องพบกับแรงต่อต้านจากการเมืองในสภา ประชาธิปัตย์ฝ่ายค้านคุณภาพ ที่เพิ่งอกหักจากการตกสวรรค์ไม่ได้เป็นรัฐบาล ย่อมจะมีแรงกดดันที่จะต้องจ้องจับผิดทุกฝีก้าวรัฐบาล “ปูแดง” อย่างแน่นอน หรือจากสว.ฝ่ายที่ไม่เอา นช.ทักษิณ หรือฝ่ายพันธมิตร ที่พร้อมจะรุมถล่มอย่างแน่นอน ยังไม่ได้พูดถึงองค์กรอิสระสารพัด นับแต่ ปปช. ที่จะต้องจ้องโครงการนี้ตาเป็นมันอย่างแน่นอน
ส่วนการเมืองนอกสภานั้น พันธมิตรที่กำลังรวบรวมสรรพกำลังอีกครั้ง จ้องจับตาดูทุกก้าวเดินของ “โคลนนิ่ง” นช.ทักษิณ ว่าจะตกหลุม ก็พร้อมจะกรีฑาทัพถล่มโครงการนี้ให้ราบเรียบคามืออยู่แล้ว เพราะเห็นความตะกระตะกราม ตั้งแต้อ้อนออก และยิ่งมาเล่นกับเงินมากมายมหาศาลเช่นนี้ด้วยแล้ว
จะมีเหลือหรือ....!!!
และทั้งที่...รู้ทั้งรู้ว่า จะต้องเจอกับกองทัพ NGO นักต่อต้านเพื่อสิ่งแวดล้อมทั้งระดับประเทศ ระดับโลกที่จะต้องเลาะเนื้อ เถือหนัง “เถ้าแก่” และสมุนให้เหลือแต่กระดูกแน่นอน ถ้ากล้าขับเคลื่อนโครงการนี้
ถ้าหากจะให้ตอบเองว่า เหตุใด “เถ้าแก่จอมวางแผนแห่งดูไบ” ถึงได้อาจหาญนำเสนอโครงการนี้ ผู้ เขียนก็คงต้องตอบว่า เพราะ นช.ทักษิณได้มองการณ์ไกลไว้ดีพอสมควรแล้วว่า การฟื้นคืนกลับมาครั้งนี้ แม้ว่าตัวเองจะยังมีชนักขนาดใหญ่ติดหลังอยู่ก็จริง แต่การอาศัย “น้องปูแดง” เป็นหนังหน้าไฟให้กลับมายืนหยัดอีกรอบหนึ่งนี้ ผนวกกับมวลชนคนเสื้อแดงที่ได้สร้างฐานมวลชนไว้อย่างแน่นหนายิ่งขึ้น (จากการปล่อยปละละเลยของรัฐบาลปชป.นั่นแหละ) ขณะที่การเมืองนอกสภาอย่างพันธมิตรก็อ่อนแรงไปอย่างมาก
ดังนั้นถึงแม้ว่า รัฐบาล “ปูแดง” อาจจะไม่หยัดยืนเป็นรัฐบาลไปได้ยาวนานถึงปีก็ตาม แต่เมื่อการเมืองอยู่ในกำมือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เข้าทางของตน การค่อยๆส่งสัญญาณให้มีการนิรโทษกรรมคนรอบข้าง บรรดาเหล่าเสื้อแดงก็คงจะตามมา
ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น อาจจะไม่จำเป็นต้องพูดถึงการนิรโทษกรรมให้กับ “เถ้าแก่แห่งแดนไกล”ก็ได้
และ เมื่อสมาชิกแห่งบ้านเลขที่ 111 กลับคืนสู่สถานภาพ แม้ว่าหลายคนอาจจะแปรพักตร์ไปอยู่กับพรรคอื่นก็ตาม แต่ก็เชื่อมั่นว่าจำนวนไม่น้อยก็จะต้องภักดีกับ “เถ้าแก่จอมวางแผนแห่งดูไบ”ตามเดิม นั่นหมายถึงความมั่นคงแห่งรัฐบาลเพื่อไทยภายใต้การสนับสนุนจากคนเสื้อแดง จะยังไปได้อีกนานพอสมควร
ด้วยความเชื่อมั่นดังว่านี้เองที่ทำให้ นช.ทักษิณจึงกล้าขับเคลื่อนโครงการ “อัครฉ้อฉล” นี้ออกมา แม้ว่าจะมีขวากหนามอย่างมหาศาลเพียงใดก็ตาม
พูดง่ายๆ ได้เวลา... ถึงเวลา...ที่จะกลับมาอยู่เบื้องหลังแห่งการ “Sa- Wha- Parm” ครั้งใหญ่อีกแล้วครับท่าน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น