นับ แต่พ.ศ.2475 - 2554 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ได้ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นการ.. เปลี่ยนแปลงประเทศเพื่อให้ทันโลกบ้าง! ปฏิรูปประเทศบ้าง! ปฏิรูประบบราชการบ้าง! ปฏิรูปการเมืองบ้าง! ล้มล้างวงจรอุบาทก์ของอำนาจเชิงเผด็จการบ้าง! ปกป้องสถาบันจากการถูกทำให้สั่นคลอนบ้าง! เพียงเพื่อแก้/ยกเลิกรัฐธรรมนูญที่ไม่เวิร์คบ้าง! กระทั่งครั้งหลังๆนี้ ที่เรียกหาประชาธิปไตยที่แท้จริง ด้วยการเผาบ้านบ้านเผาเมืองก็แล้ว จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันฯก็แล้วบ้าง!
เหตุการณ์ทั้งหมดทั้ง ปวง ที่รวมๆแล้ว25ครั้ง บวกกับการเผาบ้านเผาเมืองเมื่อ2553อีก 1 ครั้งรวมเป็น 26 ครั้งนี้ ล้วนต่างมีคำว่า "ประชาธิปไตย" รวมๆอยู่ในบริบทไม่แบบใดก็แบบหนึ่งเกือบทั้งสิ้น ทั้งหมดทั้งปวงนี้ จึงล้วนต่างเป็นเหตุการณ์ ที่ลวงให้คนไทยเชื่อว่าเป็นการเรียกหาประชาธิปไตยกันทั้งสิ้น จะมีที่ต้องยกเว้นให้ด้วยจิตคาราวะ ก็กับเหตุการณ์เมื่อปี2516 และปี2535 ที่เป็นความพยายามเรียกหาประชาธิปไตยด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแรงกล้า และในครั้งหลังเพื่อรักษาสิ่งที่มีอยู่น้อยนิดนี้ไม่ให้สูญสิ้นไป
ประชาธิปไตย โดยหลักการตามธรรมชาติของมันนั้น จำต้องเกิดจากความสมัคร สมาน สามัคคี ร่วมใจกันของประชาชนคนในชาติ ในอันที่จะเรียกร้องกดดันให้มี ให้เกิดขึ้นเพียงเท่านั้น จะให้ใครที่ไหน บุคคลใดมาหยิบยื่นให้นั้น โดยวิถีของมันคงไม่มีหรอก เพราะเมื่อใดที่ผู้ปกครองบอกว่าเป็นว่ามีประชาธิปไตยแล้ว ผู้ใต้ปกครองจะเห็นต่างเสมอ เช่นนี้แล้วประชาธิปไตยจึงเป็นสภาวะที่ผู้ใต้ปกครอง หรือ ผู้คนที่อยู่ด้านล่างนั้นรับรู้ได้จริงว่ามี ส่วนผู้ปกครอง ที่อยู่ข้างบนมองเห็นและยินยอมที่จะให้เป็นเช่นนั้น หาใช่ในทางกลับกันเช่นเหตุการณ์เมื่อพ.ศ.2475 ที่มี คณะบุุคคลหนึ่ง มุ่งมั่นตั้งใจไปขู่เข็นแบ่งมาจากองค์รัชกาลที่7ของเรามาครึ่งหนึ่ง แล้วเอามาประกาศว่า คนไทยมีประชาธิปไตยแล้ว ประเทศไทยเรา ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยรูปแบบหนึ่งแล้ว คำว่าประชาธิปไตยสำหรับผม จึงยังเป็นอะไรที่ผมแบ่งรับแบ่งสู้ จะว่ามีก็ไม่ใช่ ไม่มีก็ไม่เชิง ซึ่งหากไม่มีการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ผมก็คงต้องคิดแบบเดิมๆนี้ไปอีกนาน
เพราะ ในการเลือกตั้งในปี2554ที่จะถึงนี้ ในด้านหนึ่งอาจเป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่เราเรียกกันว่า..ระยำและน้ำเน่าซ้ำซาก แต่ในอีกด้านหนึ่งนี่ซิ เลือกตั้งคราวนี้ไม่ธรรมดาเลย และยังอาจถือได้ว่าเปิดศักราช หรือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกทางการเมืองการปกครอง ที่ประชาชนคนไทยจะได้มีโอกาส เรียกหาประชาธิปไตยในแบบอย่างที่ตนต้องการ ด้วยการปฏิเสธประชาธิปไตย ที่ได้ถูกกำหนดขึ้นโดยชนชั้นปกครองเพื่อประโยชน์สุขของพวกเขาเอง ไม่ใช่เพื่อเรา โดย..ผ่านกระบวนการการเลือกตั้งได้เองเสียด้วย! อะไรมันจะวิเศษสุดได้ขนาดนี้.. พี่น้องร่วมชาติเอ้ย พวกเรามัวแต่ไปทำไรกันอยู่79ปีที่ผ่านมา ถึงไม่รู้จักคิด รู้จักหา "อาวุธโหวตโน"นี้มาใช้กันเสียนานแล้ว
โหวตโนนี้ จะว่าไป อาจเป็นปาฏิหาริย์ที่ส่งมาจากฟากฟ้าก็ว่าได้ ซึ่งในเมื่อวันนี้เราต่างรู้แล้ว มีแล้ว เริ่มมั่นใจในการใช้อาวุธโหวตโนกันแล้ว อย่าให้เสียของ อย่าให้เสียเปล่านะครับ ผมเองก็ความรู้ไม่มากพอที่จะบอกได้ว่า เคยมีคนในชาติใดบ้าง ที่เขาเรียกหาประชาธิปไตย หรือ ขจัดประชาธิปไตยจอมปลอมกันได้ โดยผ่านการเลือกตั้งกันได้บ้าง?
ฉนั้น แล้ว หากยังไม่มี คนไทยเรา ชาติไทยเรา ก็ทำกันซิครับ ออกมาโหวตโนกันให้ล้นคูหา เอาชัยชนะมาเป็นของเรา โดยไม่ต้องไปตีไปตายกันบนท้องถนน แล้วก็ไม่ได้อะไรกันขึ้นมา ออกมาร่วมกันให้มืดฟ้ามัวดินนะครับ ยึดอำนาจจากนักการเมืองชนชั้นปกครองน้ำเน่า ยึดอำนาจมันในคูหาเลือกตั้งนั่นแหละ ด้วยการกาX ในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ใคร โธ่!อะไรมันจะง่ายดายกว่านี้ ไม่มีแล้วครับ กากันแค่15ล้านคนเท่านี้ก็จบเรื่อง.. อย่าลืมนะครับ ประชาธิปไตย = การโหวตโน 15 ล้านคน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น