บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

vote no โดย ช.ช้าง

หลังจากนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศยุบสภาล่วงหน้าก็ถือว่าเข้าสู่โหมดรอเลือกตั้งกันทันที ในห้วงที่ทุกพรรคการเมือง ต่างเตรียมตัวสู้ศึกเลือกตั้งกันอย่างคึกคัก ทั้งการย้ายพรรค การตั้งพรรคการเมืองใหม่ การประกาศจับขั้วทางการเมือง เพื่อผนึกกำลังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเคลื่อนไหวสอดรับกับเทศกาลหาเสียง แบบคู่ขนาดด้วยการออกมาจุดประเด็น ?โหวตโน? เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชนที่เบื่อหน่ายการเมืองน้ำเน่า มีแต่โกงกิน

แม้ ว่าเบื้องลึก เบื้องหลัง ของการออกมาการรณรงค์ โหวตโน จะถูกจุดประเด็นมาจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังหาข้อสรุปไม่ลงตัวกับพรรคการเมืองใหม่ ว่าจะส่งผู้สมัครลงสู้ศึกเลือกตั้งเที่ยวนี้หรือไม่ แต่ประเด็นนี้ก็ถูกจุดติด และส่งผลกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยทันที

นั่นเป็นเพราะว่า ประเด็น โหวตโน ถือเป็นอำนาจอีกอย่างหนึ่งในมือของประชาชน ที่ไม่ต้องการ การเมืองน้ำเน่า และไม่ผิดระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาชนก็ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามหน้าที่ของพลเมืองที่ดี เพียงแต่ใช้สิทธิ์กาช่อง "ไม่เลือกใคร" หรือ พรรคการเมืองได พรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น ที่ไม่ประสงค์ให้ เสือ สิงห์ กระทิงแรด ปลาไหล ห้อยโหน เข้ามารุ้มทึ้งประเทศไทยในยามที่เกิดวิกฤติรอบด้าน

หาก สำรวจอารมณ์ของประชาชนยามนี้ ต้องยอมรับว่า มีจำนวนไม่น้อยรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเมือง และมีความตั้งใจจะโหวตโนจริง เพื่อทำให้เกิดสูญากาศทางการเมือง และเข้าเงื่อนไขรัฐธรรมนูญมาตรา 7 ขอนายกรัฐมนตรีพระราชทานเพื่อเข้ามาแก้ไขกฎต่างๆให้ภาคประชาชนได้มีแสงสว่าง ทางการเมืองให้การเมืองเป็นการเมืองที่ทำเพื่อประโยชน์ของคนในชาติอย่างแท้ จริง

ดังนั้นการ โหวตโน จึงเป็นวิถีประชาธิปไตยที่สามารถยอมรับได้ ตามกติกาทางการเมือง ภายใต้รัฐธรรมนูญมาตรา69
นับ จากนี้เราจะเริ่มเห็นทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคเพื่อไทย จะงัดทุกกลยุทธ์ขึ้นมาต่อสู้ กับฝ่ายที่ออกมารณรงค์ โหวตโน เพื่อไม่ให้ถูกตบหน้าทางการเมืองของเหล่าบรรดานักเลือกตั้งรวมถึงปกป้องช่อง ทางหารายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำของพรรคพวกตน สุดท้ายแล้วผลจะออกมาอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับ ประชาชนอย่เราเท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนดการเมืองให้กับประเทศไทยของเรา

รู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับแนวทาง vote no แปลกใจกันมั้ยครับ แนวทางที่พันธมิตรเสนอออกมา ตอนแรกก็สับสน no vote กับ vote no ก็คงสับสันกันเยอะจึงมีการออกมาพูดถึงประเด็นนี้จนเข้าใจกัน no vote คือไม่ไปเลือกเลย นอนหลับทับสิทธิ์ แต่ vote. no คือไปใช้สิทธิ์แต่ไม่เลือกใครเลย ผมก็ไม่รู้เหตุผลอะไรของเค้ากันหรอก ผมแค่อยากไปใช้อำนาจที่มีทำอะไรให้นักการเมืองเดิมๆ รู้ไปเลยว่า " กุไม่เอาพวกเมิงแล้ว "

        ผมให้เต็มร้อยเลยครับ กับแนวทางนี้ เพราะ ยอมรับตามตรง ตัวเลือกที่มีให้เลือกนี่ ทำใจไม่ได้ ที่ผ่านมาต้องเลือกอีกฝ่ายเพื่อกันอีกฝ่าย และคนส่วนมากยังไม่ได้มองแนวเดียวกันจึงต้องเลือกอีกฝ่ายเพื่อค้านอีกฝ่าย แบบจำยอม แต่ตอนนี้โอกาสมาแล้ว ผมเชื่อว่า ทุกคนไม่ว่าเชียร์ข้างใดพรรคใด ก็คงรู้สึกเบื่อในใจ เพราะทำอะไรไม่ได้ ต้องรอมีคนคิดเหมือนกันเยอะๆถึงจะกล้ากัน ทั้งๆที่คิดเหมือนกันแท้ๆ แต่ไม่มีศูนย์กลางความรู้สึกของผมทางการเมืองปัจจุบันนี้นะ เหมือนเราโดนหลอกโดยละครที่แสดงนำโดยนักการเมือง เดี๋ยวทะเลาะกันแทบจะฆ่ากันตาย ด่ากันแบบ ไม่อาจอยู่ร่วมโลก บทจะดี ก็ชมกันแทบจะลอยละล่อง ขนาดกรณีเดียวกันสมัยก่อนมันด่าสมัยนี้ยังชมกันซะได้ ผมจึงรู้สึกเราเนี่ยถูกหลอกครับ เพราะ ใจพวกนี้เค้าคิดแค่ ภาคการเมือง กับ ภาคประชาชน สังเกตง่ายๆ ถ้ามีกรณีอะไรที่อีกฝ่ายทำไม่ถูก เกลียดกันให้ตายก็ไม่กล้าเอาออกมาให้ประชาชนรู้ มันก็ต้องกันไว้ให้เผื่อ พรรคมันได้เป็นรัฐบาล มันก็โกงมั่ง เราจึงต้องรู้ตัว ลองร่วมกันดูซักที เอาภาคประชาชนของเราเนี่ย ไปสู้กับพวกมัน เอาให้สิ้นซาก ไม่งั้นประเทศเราวอดวายแน่ ถามจริงๆ ในใจลึกๆแล้ว เรารู้มั้ยว่า นักการเมืองทุจริต รู้ เรารู้ และก็รู้ด้วยว่า มันก็โกงทุกพรรค ความขัดแย้งของพวกเราก็มาจากพวกนี้ เราทะเลาะกันเองมั้ย ไม่เลย มันก็แค่เอาให้เราหลง ให้เราขัดกันเอง มันก็พลัดกันโกง แล้ว เราได้อะไร มีแต่เสียกับเสีย แล้วพอถึงเวลาที่เรามีอำนาจเราจะเอาอำนาจเราไปเลือกพวกนี้มาสร้างปัญหาให้ เราทำไม ผมว่าครั้งนี้เหมาะที่สุดแล้วทีเราจะไปใช้อำนาจเราตัดสินพวกนี้โดยพร้อม เพรียงกัน ผมไม่รู้หรอกนะว่า โหวต โน แล้วจะมีผลอะไรตามมา จะมีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ต้องยอมรับ เพราะช่องทางอื่นๆ เราได้ลองกันมาหมดแล้ว ปฏิวัติก็แล้ว เลือกข้างนั้น ข้างนี้ก็แล้ว ส่วนไอ้เล็กๆไม่ต้องนับ มันย้ายไปได้หมดขอให้ได้เข้าไปโกง การ vote no จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายของพวกเราแล้วล่ะครับ

        ไหนๆก็ไหน ร่วมลองกันซักที อย่าไปกลัวอะไร ยังไงมันก็คงไม่มีอะไรที่มันเลวร้ายกว่าปัจจุบันนี้อยู่แล้ว การไม่ลองก็ได้แบบ เดิมๆ ปัญหาเดิมๆ ลองไปลุ้นให้มันรู้ไป มีแต่ได้กับเสมอตัว น่าลองจะตายไปครับ !!



มาทำความรู้จักกับ No Vote [ โนโหวต ] และ Vote No [ โหวตโน ] ตามแบบที่ผมเข้าใจกันหน่อยครับ

เห็นหลายๆคนโจมตี กระแสโหวตโน ที่กำลังมาแรงขณะนี้ ว่ามันทำลายระบอบประชาธิปไตย ผมก็งงว่า มันทำลายประชาธิปไตยตรงไหน ก็เลยไปสังเกตการใช้คำของคนที่ออกมาโจมตี เค้าไปใช้คำว่า โนโหวต ซะงั้น ก็เลยกลัวว่าไปๆมาๆจะออกมาเป็น โหวตโน ทำลายระบอบประชาธิปไตย เดี๋ยวจะยุ่งใหญ่

โนโหวต คือ การไม่ไปใช้สิทธิ์ หรือนอนหลับทับสิทธิ์นั่นเองซึ่ง การไม่ไปใช้สิทธิ์ย่อมทำลายระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว เพราะระบอบประชาธิปไตยกำหนดให้หน้าที่ของพลเมืองคือ ไปเลือกตั้ง เลือกคนดีเข้าสภา เป็นหน้าที่หลักของประชาชน จึงผิดเพราะเราไม่ไปทำตามหน้าที่ของเรา แต่

โหวตโน นี่คือการทำหน้าที่อย่างถูกต้องอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด คือเราทำตามหน้าที่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และ ที่เรากาช่องไม่เลือกใครก็ยิ่งเป็นการทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ เพราะ ต้องเลือกคนดีเข้าสภา ในเมื่อมันไม่มี ก็ไม่เลือกใคร ซึ่งถ้ายิ่งเรารู้ว่าไม่ดีแล้วไปเลือกเข้าไป ก็ยิ่งผิดและเป็นการทำลายระบอบ ประชาธิปไตยอย่างชัดเจน

ส่วนการรณรงค์ให้คน โหวตโน ก็เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมที่สามารถทำได้ มันก็เหมือนพรรคการเมืองหาเสียงให้มาเลือกตนนั่นล่ะครับ แตกต่างกันตรงไหน

ฉะนั้น ใครก็ตามที่อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยจึงต้องรู้จักหน้าที่ของตน ห้ามทำผิดหลัก ถึงเวลาให้ไปใช้สิทธิ์เราก็ต้องทำตามอย่างเคร่งครัด แล้วพอมองตัวเลือกที่มีให้เราเลือก หากเราคิดว่าไม่มีคนดีที่ตั้งใจทำเพื่อประเทศและประชาชนจริงๆและจริงใจ เราก็ โหวตโน ครับ เพื่อไม่ให้ผิดหลักของระบอบประชาธิปไตย อันเป็นการทำตามกฎที่ถูกต้องทุกอย่างของพลเมืองที่ดี ก็เท่านั้นครับ

ทำไม? โหวตโน ถึงเป็นหนทางเดียวที่จะเปลี่ยนการเมืองไทย
ก็เพราะการออกกฎแก้กฎไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น มันก็ยังอยู่ในระบบเดิมๆที่อำนาจอยู่กับนักการเมือง ปัญหาทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่กฎ ส่วนใหญ่ปัญหาอยู่ที่คน คนที่เข้าใจจุดอ่อนของระบบเก่าเป็นอย่างดีจึงสามารถทุจริตคอรัปชั่นได้มาก มายโดยเอาผิดไม่ได้ ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจมากพอที่จะเข้าไปกำหนดระบบใหม่ จะกดดันอะไรก็ไม่ได้ ผู้มีผลประโยชน์และมีอำนาจในการเมืองระบบนี้คงไม่ยอมง่ายๆ เราจึงต้องโหวตโน ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้อำนาจนักการเมืองหมดลงโดยประชาชนอย่างชอบธรรม ที่สุด แล้วเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ เราจึงต้องมอบอำนาจคืนให้พระมหากษัตริย์หลังจากโหวตโนสำเร็จ เพื่อให้พระองค์ทรงแต่งตั้งคนดีเข้ามาบริหารชั่วคราวเฉพาะที่จำเป็นพร้อม ทั้งสั่งการนำเอาระบบ TQM [ ตัวอย่างจากหลายๆประเทศประสบความสำเร็จกับระบบนี้ ] ที่มีประสิทธิภาพ เข้าไปควบคุมการเมืองไทย หลังจากนั้นการเลือกตั้งก็จะเกิดขึ้นหลังจากการปฏิรูปเสร็จสมบูรณ์

ระบบนี้ จะควบคุมการเมืองให้เป็นระบบระเบียบมากขึ้น นักการเมืองไม่ว่าใครจะถูกควบคุมด้วยระบบใหม่นี้ การเมืองไทยก็จะมีคุณภาพตลอดไปไม่บัดซบเหมือนทุกวันนี้

เราไม่มีทางอื่นที่ดีกว่าการโหวตโน ฉะนั้นการเมืองจะเปลี่ยนแปลงได้เร็วแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับอำนาจของพวกเราทุกคน ที่มีในมือ ช่วยกันรณรงค์โหวตโนให้เกิดผลสำเร็จเร็วที่สุด ดีกว่าฉุดกันเองเพราะกลัวว่าไม่สำเร็จโดยที่ไม่มีหนทางที่ดีกว่านี้มาเสนอทด แทน




1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การvotenoดีที่สุดในเวลานี้เพราะประเทศเสียหายมามากพอแล้ว
การเมืองไทยอยู่กับที่ไม่มีการพัฒนามีแต่คำว่าผลประโยชน์ของ
พรรคพวกการเมืองนํ้าเน่าทะเลาะเหมื่อนเด็กๆๆที่บ้านไม่มีผิด
เลยออกามใช้สิทธิ์ใช้เสียงของเรากันเยอะๆๆๆนะครับ
อำนาจอาธิปไตยอยู่ในมือเราพี่น้องคนไทยแล้วนะครับขอบคุณ

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง