บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ทำไมทักษิณจึงต้องการรื้อกฎหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นตรงต่อกระทรวงการคลัง

โดย แทน ราศนา

ทำไมทักษิณจึงต้องการรื้อกฎหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นตรงต่อกระทรวงการคลัง



ระบอบทักษิณเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จ ไม่เพียงต้องการการผูกขาดทางการเมือง ที่สำคัญกว่าก็คือต้องการผูกขาดระบบเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบ จะสำเร็จได้ก็คือต้องสามารถควบคุมบงการและสั่งการกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยให้ได้ ด้วยการแก้กฎหมายเพื่อสามารถนำเงินสาธารณะของธนาคารกลางออกไปใช้ในการลงทุนและเก็งกำไรได้ เพื่อตนเองและกลุ่มพันธมิตรธุรกิจไช้ประโยชน์จากการผูกขาดชาติ นั่นก็คือการสมคบกับทุนการเงินสิงคโปร์-นอมินีทุนสามานย์โลก เตรียมตัวเข้าโจมตีตลาดเกิดใหม่ที่ยังมีระบบเศรษฐกิจการเงินอ่อนแอทั้งในพม่า ลาว กัมพูชาและเวียดนาม โดยเฉพาะในวาระของการเปิดเสรีอาเซียนที่เปรียบเสมือนการเปิดประตูบ้านต้อนรับทุนต่างชาติในสถานการณ์หมิ่นเหม่



ขอนำแนวคิดและข้อมูลบางส่วนมาเสนอดังนี้..



การเกิดขึ้นของตลาดทุน-ตลาดเงินและการเก็งกำไรในตลาดเงินระหว่างประเทศ เป็นนวัตกรรมของการซื้อขายสินค้ากระดาษ(เงินและตราสาร)รูปแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องอิงกับเศรษฐกิจภาคการผลิต การทำกำไรในตลาดหุ้น การทำกำไรในตลาดทุนและการโจมตีค่าเงินระหว่างประเทศ สร้างความมั่งคั่งให้กับผู้ลงทุนได้มากกว่าการลงทุนในภาคการผลิตจริงประมาณกันว่าราวร้อยเท่าตัว และปรากฏการณ์ขูดรีดสังคมแบบใหม่นี้ ได้ส่งผลกระทบที่สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอันมีลักษณะโครงข่ายที่เกิดใหม่ ไปทั่วทั้งโลกอย่างรุนแรงและทั่วถึง



โดยเฉพาะในที่ๆตลาดทุน-ตลาดเงินเพิ่งเกิดใหม่หรือเรียกกันว่า “ตลาดเกิดใหม่” และมีลักษณะเศรษฐกิจการเงินยังอ่อนแอ ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการเงินโลกขยายตัวใหญ่โตกว่าการขยายตัวของภาคการผลิตจริงและสามารถครอบงำภาคการผลิต(real sector)ได้ทั้งหมด



เป็นเพราะว่า บรรดาสถาบันการเงิน สถาบันประกันภัยและแหล่งระดมเงินทุกประเภทที่เดินเข้าสู่ระบบการเงินแบบใหม่ ได้ค่อยๆปลีกหนีภาระหน้าที่ที่มีต่อ “รัฐชาติ” ไปสู่ขอบเขตทางสากล โดยมีจุดเริ่ม ก็คือ การเปลี่ยนแปลงบทบาทจากการเป็นสถาบันรับฝากเงินออม-ปล่อยเงินกู้ ไปสู่การจัดตั้ง “กองทุน”เพื่อนำเอาเงินออมของสังคมไปลงทุนและเก็งกำไรในตลาดทุน-ตลาดเงิน ซึ่งให้ผลตอบแทนมากกว่าการปล่อยกู้ในระบบการผลิตแบบเดิมหลายร้อยหลายพันเท่า (การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อการลงทุนของธนาคารออมสินประเทศไทยในยุคผู้นำ ceo เป็นหมุดหมายและเป็นรูปธรรมของการเปลี่ยนยุคสถาบันการเงินในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี)



การปรากฏตัวของตลาดหุ้น-ตลาดทุนและตลาดเงิน ก็คือนวัตกรรมของการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยจากทุนนิยมโรงงานที่ขูดรีดกำไรส่วนเกินจากสายพานการผลิต มาสู่ยุค การขูดรีดนอกโรงงงานที่ใช้การเก็งกำไรค่าของเงิน การขูดรีดด้วยดอกเบี้ย และด้วยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือประมวลผลอันทรงพลัง เข้าโจมตีและแย่งชิงทรัพยากรสังคมที่เราเรียกว่า “เงินตรา”



การขูดรีดแบบใหม่นี้ ไม่ได้มีความหมายแบบเดิมซึ่ง “อำนาจรัฐ” หนึ่งที่เหนือกว่า กระทำต่ออีก “อำนาจรัฐ”หนึ่งที่อ่อนแอกว่าโดยกำลังทหาร แต่มันเป็นการขูดรีดโดยใช้กลไกทางเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้สถาบันการเงินในประเทศไทยเป็นของนายทุนการเงินต่างชาติเกินครึ่ง นั่นแสดงว่าธนาคารซึ่งเป็นที่สะสมความมั่งคั่ง มีทรัพย์สินที่ดินซึ่งนำไปค้ำประกันการจำนองในขอบเขตทั่วประเทศได้ตกอยู่ในมือของทุนการเงินต่างชาติไปเกือบทั้งหมดแล้ว ระบบธนาคารที่ดินและข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือที่สุดของประเทศตกอยู่ในมือของต่างชาติไปทั้งหมดแล้ว



ภาวะเช่นนี้ก็คือ ภาวะของการสูญเสียเอกราช ภาวการณ์สูญเสียอำนาจการจัดสรรทรัพยากรของรัฐไปอย่างเงียบเชียบและอย่างน่าสลดใจ



(บางส่วนของหนังสือวิกฤติที่ไม่บอกกล่าว “THE UNTOLD CRISIS”)

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง