บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บก.ลายจุด จัดหนัก แม้ว!

ครั้งที่ม่านควันแห่งการสลายการชุมนุมเมื่อพฤษภาคม53 ยังหนาทึบ พรางสายตาให้คนเสื้อแดงลอยเคว้ง ไร้หลักทิศ “สมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด)” ได้ส่งแคมเปญ “วันอาทิตย์สีแดง”ทำกิจกรรมผูกผ้าที่แยกราชประสงค์กระตุกสติคนเสื้อแดง

กิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่ว่า แม้จะไม่ส่งผลแบบทันด่วน แต่การใช้สันติวิธี พร้อมขยายแนวร่วมรบแบบที่เรียกว่า ”แกนนอน” ทำหน้าที่ “สื่อสาร”และเรียกสติแนวร่วมแบบไม่ขาดตกบกพร่อง ทำให้คนเสื้อแดงเริ่มรวมติดก่อนจัดขบวนต่อรองกับรัฐบาลใหม่

ครบรอบ2ปีการชุมนุม มีบริบทที่พิเศษกว่าครั้งไหน ด้วยวีดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปรียบเปรย"เสื้อแดง" เป็นดั่ง "เรือ" ที่ส่งถึงฝัง โดยที่จากนี้ไปเขาเลือก “สละเรือ”เพื่อ"นั่งรถ" ได้ซ่อนนัยยะสู่การตีความได้หลายหลาก


คุณทักษิณกำลังหลงตัว คิดว่าตัวเองเป็นเป้าหมาย คำพูดล่าสุดมันชัดเจนที่คิดว่าตัวเองคือเป้าหมายการต่อสู้ครั้งนี้ ทั้งที่จริงๆ แม้จะรักคุณทักษิณแต่คนเหล่านั้นเรียกร้องประชาธิปไตย ถึงจะชอบคุณทักษิณ แต่เงื่อนไขการสู้เพื่อคุณทักษิณอย่างเดียวไม่สามารถเรียกคนออกมาได้ขนาดนี้ อย่างน้อยก็ไม่มีทางเรียกคนอย่างผมได้ หรือเรียกปัญญาชน กระทั่งชาวบ้านออกไม่ได้ขนาดนี้ ลำพังคุณทักษิณมันไม่เพียงพอหรอก เพราะประเด็นใหญ่ที่ประชาชนสนใจคือสังคมที่จะวิวัฒนาการไปสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น มีคุณภาพทางการเมืองที่สูงกว่าสมัยคุณทักษิณด้วยซ้ำ แต่พอคุณทักษิณพูดแบบนี้มันก็กลายเป็นรถไฟสายประชาธิปไตยถึงแค่สถานีคุณทักษิณ ซึ่งคุณทักษิณอาจจะบอกนี้คือสถานีประชาธิปไตย แต่นั่นคือการหลงตัวเอง

วิเคราะห์ว่าเหตุใดคุณทักษิณถึงพูดเช่นนั้น

คงคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากไปเจรจากับฝั่งโน้นมา และฝ่ายโน้นเองอาจจะให้ทหารเริ่มออกจากประชาธิปัตย์ หัวหน้าอำมาตย์ก็ไปฟังเพลงที่ทำเนียบรัฐบาล มีรดน้ำดำหัวกัน นั่นมันคือการส่งสัญญาณชัดว่ามีการเจรจาต่อรองกัน ทางนี้ (ฝ่ายคุณทักษิณ) จึงส่งสัญญาณมาก ผมว่าสิ่งที่น่ากลัวสำหรับอำนาจนอกระบบไม่ใช่คุณทักษิณแล้ว แต่มันคือเสื้อแดง ดังนั้นเขาต้องหยุด และคุณทักษิณอาจรับจ็อบมาให้ช่วยหยุดคนเหล่านี้

หรืออาจจะประเมินแล้วว่าเสื้อแดงอย่างพวกคุณ ที่ถือเป็นแดงฝ่ายก้าวหน้ามีน้อย

ผมว่าเขาไมได้ประเมินเรื่องนั้น แต่เขาคงคิดว่าเมื่อพูดแล้วทุกคนจะเห็นตามเลย มันอาจมีทีมาจากการประเมินผิด ทุกคนเวลาเจอคุณทักษิณก็แสดงออกถึงความรัก มีคนอยากไปหาเยอะ คือมีทั้งคนที่รักเขาจริงๆ อีกอย่างคือเขาเป็นศูนย์รวมอำนาจ มีแต่คนอยากเข้าถึง อยากเป็นสายตรง ดังนั้นเขาอาจจะมั่นใจว่าเป็นที่รัก มีความสำคัญ แต่คิดบนฐานตัวเอง ไม่ได้คิดบนฐานชาวบ้าน เขาไม่รู้ว่าในประเทศไทยมันมีมิติอย่างไรบ้าง

คนเสื้อแดงที่มองไปไกลกว่าเรื่องคุณทักษิณมีมากขนาดไหน

ที่ไปไกลกว่าคุณทักษิณอาจมีไม่เยอะ แต่ว่าคนที่คิดมากกว่าทักษิณมันมีมาก กล่าวคือพร้อมจะต่อสู้เรื่องที่มากกว่าเรื่องของคุณทักษิณมาก เพียงแต่เสื้อแดงส่วนใหญ่ยังยึดติดกับคุณทักษิณเพราะอยากจะพาไปด้วย นึกออกไหม คือเขาเองก็อยากจะลากไปด้วย คิดว่าลงเรือลำเดียวกัน แต่การปราศรัยครั้งนี้มันเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ก้าวข้ามเพราะการพูดเช่นนี้ทำให้คนจำนวนหนึ่งก้าวข้ามคุณทักษิณได้

แนวคิดแบบก้าวหน้า จะช่วงชิงแกนนำในหมู่คนเสื้อแดงได้อย่างไร

ไม่ ไม่ (ส่ายหน้า) ผมไม่กล้าขนาดนั้น ผมไม่มีศักยภาพพอจะไปนำใครขนาดนั้น ผมเป็นแค่คนขายไอเดีย และคิดว่านี่คือเวลาที่ดีที่สุด แต่ต้องให้เวลาเขาถกเถียงกันสักพักนี่เป็นประเด็นที่ร้อนที่สุดแล้วในหมู่คนเสื้อแดง เพราะนี่หมายถึงการสร้าง ทิศทางของคนเสื้อแดงต่อจากนี้ว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งคนที่ควรจะพูดก่อนและผมเองก็ให้เกียรติคือ อ.ธิดา (ถาวรเศรษฐ์) ประธานนปช.มิเช่นนั้นหากไม่พูดมันก็เปรียบเสมือนมวลชนถูกทิ้งกลางทะเล

ตอนนี้ผมเองเพียงตะโกนบอกว่า “เราต้องไปต่อ” เพราะวันนี้เถ้าแก่ดูไบไปแล้ว เราก็ต้องทำใจ ใครจะไป ไม่มีใครว่าหรือใครจะอาลัยอาวรณ์ผมก็เข้าใจ แต่ผมเองไม่มี ผมเพียงแต่รู้สึกว่าเมื่อคุณคิดลงจากขบวนก็น่าจะทำให้ดูดีหน่อย ผมรับไม่ค่อยได้ที่จะบอกว่าผมเพียงแค่มาส่งคุณ ผมเองก็มีศักดิ์ศรีไม่ต่างกัน และมีสถานะเป็นแนวร่วม คือเรากำลังวิ่งไปหาสั่งคมประชาธิปไตย เพราะคิดว่าสังคมแบบนี้จะให้ความเป็นธรรมกับเราทุกคน ถ้าคุณเห็นว่าประชาธิปไตยเป็นธรรมคุณก็โดดขึ้นมา แต่จู่ๆคุณก็บอกว่าคุณถึงแล้ว แต่เรายังไม่ถึงนะ

คุณคิดว่าความเป็นธรรมของคุณคือการไปเจรจาก็ตามใจ แต่ว่าคุณขึ้นเขาได้คนเดียวนะ แล้วชาวบ้านเยอะแยะจะทำยังไง จะรักษาขบวนอย่างไร แล้วขอโทษนะ…ผมคิดว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจประวัติศาสตร์จริงๆ คุณทักษิณนั้นเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ที่สำคัญของคนประชาชนแต่มันปฏิเสธไม่ได้ว่าความแข็งแรงของคนเสื้อแดงในวันนี้ กลุ่มคนชอบคุณทักษิณมีส่วนสำคัญอย่างมากเพราะมันอ้างประชาธิปไตยไง ถึงมีคนตามมา ถ้าไปบอกว่าเพื่อทักษิณคนจะไม่ตามมาขนาดนี้

ก้าวต่อไปของคนเสื้อแดงควรจะเป็นอย่างไร

ผมยืนยันว่าขบวนการประชาธิปไตยต้องประกอบไปด้วยองค์กรขนาดเล็กจำนวนมาก และองค์กรขนาดเล็กนี้เองถึงจะล้อมเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่เรียกว่าสมาพันธ์หรือสมัชชา แต่ที่ผ่านมาเราไม่มีองค์กรขนาดเล็ก มีแต่องค์กรขนาดใหญ่ และองค์กรขนาดใหญ่นี่เองที่รวบการนำ การคิด เป็นคนกำหนด แต่ถ้าเรามีองค์กรขนาดเล็กจำนวนมากแล้ว เวลาเคลื่อนก็จะทำให้ภาพใหญ่มันแน่น อีกอย่างการรวมกลุ่มขนาดเล็กทำให้เกิดการปฏิบัติการ ซึ่งเมื่อเปลี่ยนมวลชนเป็นผู้ปฏิบัติการได้ มันจะมีศักยภาพมาก พลังของขบวนจะเพิ่ม วันนี้เสื้อแดงเยอะมากพอแล้ว เพียงแต่ต้องเปลี่ยนจากมวลชนมาเป็นผู้ปฏิบัติงานให้ได้ เพื่อศักยภาพมันจะสูงสุด เมื่อเขารวมกลุ่มกัน มันจะเกิดการศึกษาเรียนรู้ ไม่ใช่ฟังการปราศรัยเสร็จ ใครพูดอย่างไรก็ว่าตามนั้น

กลุ่มย่อยที่ว่าหมายถึงอะไร หรือเป็นการตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงแบบที่ทำอยู่

ได้หมด อาจจะเป็นตามซอย ที่ทำงาน ชุมชน เรื่องนี้มันเกิดขึ้นสมัย14ตุลา 16 มันทำสิ่งที่เรียกว่ากลุ่มศึกษา ที่อาจไม่ต้องมีการชุมนุมใหญ่โตก็ได้ แต่กลุ่มศึกษา อาจจะเป็นผู้นำตามธรรมชาติ ชุมชน มีแดงประจำซอย แดงประจำออฟฟิศ มีการเกาะกลุ่มใกล้บ้าน เป็นพรรคพวกสถาบันเดียวกัน รวมกลุ่มกัน มีวิทยากรมาให้ความรู้ เหมือนสมัยก่อนที่ศึกษาจากบทความ มาวิเคราะห์กัน

เสื้อแดงในเชิงปริมาณพอแล้ว สิ่งที่เราขาดคือคุณภาพ ถ้าเสื้อแดงเปลี่ยนเป็นคุณภาพได้ ชนชั้นกลางก็จะยอมรับมากขึ้น พวกที่เคยต่อต้านก็จะลดการต่อต้าน อาจจะไม่ถึงขนาดกลับข้างมาเป็นพวกแต่จะลดการต่อต้านลง

การชนะเร็วๆคือการชนะแบบชนชั้นนำ ไม่เกิดประชาธิปไตยจริงๆ นี่คือโอกาสดีที่จะเปลี่ยนคุณภาพของคนในสังคม ประชาธิปไตยที่สุดคือการเปลี่ยนคุณภาพในสังคม ไม่ใช่แค่การมีรัฐบาลที่ดีเท่านั้น แต่คุณภาพคนในสังคมต้องเปลี่ยน

จริงอยู่การล้มอำมาตย์เป็นภารกิจหนึ่ง แต่หากเราล้มอำมาตย์โดยไม่ได้เน้นการสร้างสรรค์ประชาธิปไตยก็ไม่ต่างอะไรกับพันธมิตร ที่บอกว่านักการเมืองเลว ซึ่งผมเองก็ไม่เคยขัด แต่พันธมิตรฯก็ไม่มีรูปแบบการนำเสนอทางใหม่ๆ อย่างช่วงหลังที่คนเสื้อแดงเริ่มพูดถึง Primary vote แบบนี้ เพราะไม่มีทางเลยที่นักการเมืองจะพูดก่อน แต่มวลชนต้องเสนอเรื่องแบบนี้

นี่เฉพาะเรื่อง primary Vote น่ะ แต่ต่อไปมันต้องพูดไปถึงประชาธิปไตยกินได้ ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งของการสร้างพรรคการเมือง ที่ตอบสนองคนในพื้นที่ สร้างการมีส่วนร่วมและสังเคราะห์ปัญหา หรือข้อเสนอ นำไปสู่การพัฒนาชุมชนตนเอง และข้อเสนอใดที่ต้องขึ้นไปในระดับนโยบายพรรคก็ต้องมีช่องทางที่จะรับจากข้างล่างและทำการสังเคราะห์ผลักดันเป็นนโยบายไปสนับสนุน นี่คือระบบพรรคการเมืองในฝันที่เราอยากจะเห็น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่อยู่ในการออกแบบในพรรคการเมืองไทย ที่มีแต่ระบบเหมาทำ จะดีหน่อยก็ตรงที่บางพรรคอาจจะมีนักวิชาการส่วนหนึ่งที่ออกไปสำรวจ วิจัย แล้วผลิตเป็นนโยบาย ซึ่งถือว่ายังดีกว่าการนั่งเทียน แต่ก็ถือว่าไม่ใช่กระบวนการมีส่วนร่วมอยู่ดี ลองคิดดูถ้าพรรคเพื่อไทยทำได้เช่นนี้ พวกฝ่ายพันธมิตรก็รับได้

การสร้างสังคมตื่นรู้แบบใช้แกนนอน สำหรับคนเสื้อแดงเองจะเริ่มเมื่อใด

จะทำอะไรขอรอดูก่อน ผมยอมรับตอนนี้ผมทะเล่อทะล่าพอสมควร หมายความถ้าพูดมากกว่านี้ว่าผมกลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องชิงดีชิงเด่น ผมวางตัวแบบนี้เพื่อผมจะมีพื้นที่เสนอต่อ ดังนั้นจะไม่ทำตัวในลักษณะการช่วงชิงแกนนำ และศักยภาพผมเองก็ทำขนาดนั้นไม่ได้ ผมประเมินตัวเองแล้ว ผมเป็นเพียงนักออกแบบนวัตกรรม เสนอความคิด แต่ผมคงไปนำคงไม่ไหว อย่าสงไรก็ตามพวกคุณต้องให้โอกาส นี่มันเพิ่งผ่านไม่กี่วัน และไม่มีใครแม้แต่คนเดียวสนับสนุนกับสิ่งที่คุณทักษิณคนเสื้อแดงก่อน จริงอยู่มีคนยังรักคุณทักษิณอยู่ แต่ข้อเสนอไม่มีใครเห็นด้วย

ความขัดแย้งในครั้งนี้ไมได้เกิดจากชนชั้นนำเหมือนที่เป็นมา จริงอยู่ที่วิกฤติการณ์ส่วนหนึ่งคือการที่ช้างชนกัน คือเป็นเรื่องของชนชั้นนำผู้มีอิทธิพล แต่ครั้งนี้มันมี2มิติ คือการปะทะด้านบน และการขยับตัวของชนชั้นกลาง และที่ซ้อนกว่านั้นคือการขยับในระดับฐานล่าง ที่ คนเหล่านี้มันลุกขึ้นมาอีก แล้วมีมิติการเคลื่อน ดันจากข้างล่างมาข้างบน เรื่องชนชั้นผมยืนยันมันมีอยู่จริง โคตรจริงเลย เพียงแต่ตัวละครที่เห็นมักจะมีแต่ระดับแกนนำที่ออกมาชนกันตามหน้าสื่อ

หลังการสลายการชุมนุม คุณออกเคลื่อนไหวด้วยการใช้สัญลักษณ์ด้วยการผูกผ้าแดง จะเกิดขึ้นสัญลักษณ์อะไรกับประเด็นนี้

ครั้งนั้นถึงผมไม่ออกมาทำวันอาทิตย์สีแดง มันก็ต้องมีคนออกมาอยู่ดี นั่นเพราะเจตจำนงมันมี ผมไม่ได้มีศักยภาพสูงขนาดนั้น แต่ความเป็นจริงทางสังคมทำให้เกิด มันเป็นความเป็นจริงที่คนรู้สึกอยากจะสู้ เหมือนกับรอบนี้ซึ่งต้องอ่านให้ออก ประเด็นคือตอนนั้นหลังจากปี 53 คนยังไม่ยอมแพ้แต่ไม่รู้สู้อย่างไร พอมีคนเคลื่อนเขาก็เกาะสิ่งนี้ ตอนนี้ก็เหมือนกัน คนมันยังไม่อยากหยุดแม้คุณทักษิณบอกจะพอแล้ว แต่คนไม่อยากหยุด มันเหมือนกันทุกประการ เพียงแต่รอใครมาทำหน้าที่และมีทิศทาง ปักธง เพื่อเดินไปอีกรอบ

แต่เมื่อบริบทเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ก็ต้องคิดวิธี ผมคิดเล่นๆอาจจะมีทัวร์รถไฟสายประชาธิปไตยสักรอบ อาจเช่าโบกี้ขึ้นรถไฟไปอยุธยา ไปบ้านอ.ปรีดี (พนมยงค์) เชิญตัวหลักๆนักวิชาการที่ก้าวหน้า เชิญหลากหลายกลุ่มที่มีนัยยะ มาหารือบนรถไฟ และทบทวนกันว่าทำไมเส้นทางสายประชาธิปไตยมันไม่สุดสักที ถ้าจะเดินทางมันต้องทำอย่างไร ก็ใช้เส้นทางนี้หารือ ส่งสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ ให้เปรียบเสมือนว่าการขึ้นรถไฟที่มีตัวแทนจากคนหลายกลุ่ม

(หมายเหตุ : สัมภาษณ์พิเศษ : 'สมบัติ บุญงามอนงค์' ก้าวข้าม 'ทักษิณ' แบบแกนนอน)


กุ้งอินเตอร์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง