|
||||
|
พท.ใช้เสียงข้างมากลากแก้ รธน.สำเร็จ
หลังฝ่ายค้าน-ส.ว เสนอให้เลื่อนวาระ รอฉบับประชาชน
“นิพิฏฐ์” โวย “ค้อนปลอม” หมกเอกสาร คปก. เสนอให้เลื่อนวาระ
เหตุบรรยากาศบ้านเมืองยังไม่สงบ
อัดรัฐบาลสองมาตรฐานทิ้งร่างประชาชน
แฝงวาระซ่อนเร้นช่วย “นช.แม้ว” กลับบ้าน
ด้าน “เหลิม” โต้เดือดต้องการฉีก รธน.กากเดนเผด็จการ
ยืดอกรับไม่คิดก้าวผ่านนายใหญ่
อึกอักเจอถามรัฐบาลยืนยันได้หรือไม่
จะไม่แก้ไขเกี่ยวกับสถาบันพระมหา กษัตริย์
“สุนัย” นกรู้รีบขอเป็ดเฉลิมอย่าโต้ตอบฝ่ายค้านหวั่นเข้าเนื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมรัฐสภา วันนี้ (23 ก.พ.) มีนายสมศักด์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ ประกอบด้วย
1. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช .... (นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.พรรคเพื่อไทย กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
2. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช ....(นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา กับคณะ เป็นผู้เสนอ) และ
3. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช ....(คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ)
เริ่มประชุมเวลา 09.45 น. หลังจากสมาชิกลงชื่อเข้าร่วมประชุม 344 คน เกินกึ่งหนึ่งที่ 324 คน
ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายสมศักดิ์ได้เปิดโอกาสให้ที่ประชุมรัฐสภาหารือ โดยมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายคนได้เสนอให้มีการเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อนเพื่อรอร่างของประชาชนที่ เสนอเข้ามา 3 ร่างที่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจเช็กรายชื่อ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม อีกทั้งควรรับข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูปกฏหมาย (คปก.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน ที่เห็นว่ายังไม่ควรเร่งรีบพิจรณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงนี้เพราะบรรยากาศใน บ้านเมืองยังไม่มีความสงบที่แท้จริง อาจจะเป้นชนวนให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่เกิดขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลเคยยืนยันว่าจะให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้ง นี้ ทำไมไม่มีการหยิบยกมาหารือด้วย ประกอบกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ประกาศตลอดเวลาว่า บรรยากาศของประเทศไม่เอื้ออำนวย ควรยืดเวลาออกไปปลายปีนี้ ตนคิดว่าหากมีการเลื่อนออกไปและนำร่างของประชาชนมาพิจารณาด้วยจะตรงกับเจตนา รมรณ์ที่ประกาศไว้ และเมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลไม่ยืนยันร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ผ่านวาระ 3 ของสภาในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้วโดยอ้างว่า คปก.ให้ความเห็นว่าไม่ควรเสนอน่าจะขัดรัฐธรรมนูญ และรอนสิทธิประชาชน แต่มาวันนี้ คปก.ได้มีหนังสือถึงรัฐบาลว่าควรชะลอการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ออกไป ทำไมรัฐบาลไม่ฟัง กลับเลือกฟังบางเรื่องที่ได้ประโยชน์ และเลือกไม่ฟังบางเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ถือเป็นสองมาตรฐาน
นายนิพิฏฐ์ยังได้ตำหนิการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์ว่า ได้รับเอกสารเสนอให้เลื่อนวาระการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปแล้ว แต่ไม่ยอมเกษียณหนังสือเพื่อแจกให้แก่สมาชิกได้ประกอบการพิจารณา ทำให้สมาชิกหลายคนไมได้รับเอกสารดังกล่าว แต่นายสมศักดิ์อ้างว่าตนได้มีคำสั่งด้วยวาจาให้เจ้าหน้าที่สภาฯ นำไปแจกแก่สมาชิกแล้ว
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเปิดกว้างเพื่อนำร่างของประชาชนมาพิจารณาด้วยจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐสภา แม้จะเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชน แต่ในข้อเท็จจริงเป็นไปตามนั้นหรือไม่ เพราะการแก้ไขมาตรา 291 เพื่อจัดตั้ง ส.ส.ร. จะเชื่อได้อย่างไรว่า ส.ส.ร.จะรับฟังความเห็นประชาชนอย่างทั่วถึง เมื่อเริ่มต้นจิตกุศลที่ดี ขอเรียกร้องให้สมาชิกพิจารณาอีกครั้งว่าจะรอเวลาเอาร่างของประชาชนขึ้นมา พิจารณาหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มี ส.ว.บางส่วนเสนอให้เลื่อนวาระออกไปเช่นกัน เพื่อให้ร่างของประชาชนได้มีโอกาสร่วมพิจารณา หากรีบรัดจะเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน
ขณะที่ ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยต่างแสดงความเห็นคัดค้าน และต้องการให้เดินหน้าพิจารณาต่อไปโดยไม่ต้องรอร่างของประชาชน เช่น นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะนั้นพวกตนเป็นฝ่ายไม่เห็นด้วยต่อกฎหมายนี้ บังเอิญความเห็นตรงกับ คปก.เท่านั้น ส่วนร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกนานไม่รู้เสร็จเพื่อ ไหร่ แต่ได้พูดคุยกับตัวแทนประชาชนที่เสนอร่างแล้วยืนยันว่าไม่ขัดข้องหากจะไม่ พิจารณาพร้อมกัน จึงควรดำเนินการพิจารณาต่อไปตามระเบียบวาระ
เช่นเดียวกับนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวสนับสนุนว่า หากรัฐสภาเร่งดำเนินการได้เร็วจะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศ เพราะมั่นใจว่าประชาชนที่เสนอร่างจะเห็นชอบด้วย และกรรมาธิการมีอำนาจเชิญตัวแทนประชาชน.มาให้ข้อมูลแสดงความเห็นประกอบ หรือตั้งให้ร่วมเป็นอนุกรรมาธิการ และการแก้ครั้งนี้ไม่ได้แก้ไขในรายมาตรา เพียงแต่ให้ตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาเพื่อมอบหมายให้ไปทำทั้งฉบับ เมื่อถึงเวลาประชาชนทั้งประเทศมีโอกาสแสดงความเห็นได้ว่าจะเอาไม่เอาอะไร ถือว่าสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนที่เข้าชื่อเสนอด้วย
หลังจากมีการถกเถียงกันร่วมชั่วโมง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้เสนอญัตติให้เดินตามระเบียบวาระ ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ เสนอญัตติให้เลื่อนวาระพิจารณาออกไป และเห็นว่าการที่รัฐบาลเร่งรีบให้พิจารณาครั้งนี้เพราะมีวาระซ่อนเร้น ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยประท้วงให้ถอนคำพูด แต่นายสมศักดิ์เพียงกล่าวเตือนว่าไม่ควรพูดเช่นนี้ ขณะที่นายจุรินทร์ยังยืนยันคำพูดเพราะมีบางคนในรัฐบาลพูดว่าถ้าแก้ไขรัฐ ธรรมนูญแล้วบางอย่างจะกลับมา ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี อภิปรายตอบโต้นายจุรินทร์ว่า ตนเป็นคนระบุว่าบ้านเมืองจะสงบต้องร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง 6 มาตรา ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ต้องให้สภาฯ พิจารณา ดังนั้นอย่าตกใจเกินเหตุ ส่วนประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญรัฐบาลได้รณรงค์มาตั้งแต่ปี 2552 ว่าไม่เอารัฐธรรมนูญที่เป็นกากเดนเผด็จการ ซึ่งประเด็นแก้ไขดังกล่าว แก้ไขมาตรา 291 เปิดทางให้มี ส.ส.ร.จำนวน 99 คนยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายใน 180 วันจากนั้นทำประชามติ ซึ่งถือว่าเป็นการทำตามนโยบาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะทุกข์ร้อนอย่างไร ว่าใครจะกลับมา
“ท่านเป็นเทวดาหรือถึงรู้ว่าสถาบันการศึกษาจะส่งใครมา อย่าสร้างความปั่นป่วน จะเล่นการเมืองต้องมีความคิด หากคิดอย่างพวกท่านก็ร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเลย แต่ผมเปิดทางให้มี ส.ส.ร. ส่วน ส.ส.ร.จะทำอย่างไรเป็นเรื่องของเขา จะเป็นจะตายกันหรืออย่างไร ผมไม่ก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มันเป็นสิทธิของผม เพราะผมรักและเคารพ ผมพูด ผมแฟร์พอว่าจะยกร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง การเมืองเข้าที่เข้าทาง ยกเว้นคนที่สั่งฆ่า 91 ศพ”
ขณะที่ นายจุรินทร์กล่าวตอบโต้ว่า ตนมีหลักฐานจากการให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 16 ก.พ.ว่า หลังจากร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์ และ อดีตนายกฯ จะกลับประเทศไทยอย่างสง่างาม และที่การชี้แจงของ ร.ต.อ.เฉลิม แปลว่าต่อไปนี้รัฐสภาจะเซ็นเช็คเปล่าให้ ส.ส.ร.ทำอย่างไรก็จะยอมรับใช่ไหม หากมีการแก้ที่กระทบต่อสถาบัน ทางรัฐบาลจะเอาใช่หรือไม่ ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิมลุกขึ้นตอบโต้ว่า ฝ่ายค้านอ่านไม่หมด เพราะในร่างของรัฐบาลเขียนไว้ชัดเจนว่าห้ามแตะต้องสถาบัน
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวแย้งว่า สิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอ้างไม่เป็นความจริง เพราะมีการเขียนตามหลักการเท่านั้นว่าจะเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไม่ได้เท่านั้น รัฐบาลยืนยันได้หรือไม่ว่ามีตรงไหนที่ห้ามแก้ไขเกี่ยวกับสถาบันพระมหา กษัตริย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเริ่มเข้มข้น โดย ร.ต.อ.เฉลิมพยายามที่จะชี้แจงอีกครั้ง แต่ถูกสมาชิกพรรคเพื่อไทย นายสุนัย จุลพงศธร ลุกขึ้นมาขอร้อง พร้อมกับยกมือไหว้ให้ ร.ต.อ.เฉลิมยอมให้กับฝ่ายค้าน ไม่ควรมาทะเลาะกันเพราะเสียเวลา เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าได้
นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ มีประชาชนจับตาดูหลายสิบล้านคน ถ้ารัฐบาลเร่งรีบไปรัฐบาลจะเสียแต้มได้ และอ่านข้อเสนอของนายคณิต ที่ให้เหตุผลควรเลื่อนวาระออกไป เพราะขณะนี้ประเทศยังมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่มีความรุนแรง ลึกซึ้งและกว้างขวางระหว่างฝ่ายต่างๆ ที่ยังไม่ยุติได้ เมื่อมีหลายคนทั้งท้วงเช่นนี้รัฐบาลก็ควรรับฟังเพราะยังมีปัญหามากมายที่รอ ให้รัฐบาลแก้ไข
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดให้สมาชิกอภิปรายร่วม 3 ชั่วโมง นายสมศักดิ์ได้ให้ลงมติ ปรากฏว่า สมาชิก 341 ต่อ 181 ไมเห็นด้วยให้เลื่อนวาระออกไป โดยมีผู้งดออกเสียง 21 เสียง
จากนั้นการประชุมเริ่มเข้าวาระการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ โดยผู้เสนอร่างแต่ละฉบับได้รายงานหลักการและเหตุผลต่อสมาชิกในห้องประชุม
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น