..
..
..
.. " มุมนี้..เห็นอะไร !? "
..
..
.. คำตอบ คือ.. เห็นด้วย
..
..
.. ขบวนการ "ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า"
.. ยุทธการ "ชนบทล้อมเมือง โลกล้อมประเทศ"
.. อ้างประชาธิปไตยกินได้ ด้วยหลักกูที่ว่า "เงินไม่มา กาไม่เป็น"
.. สร้างแต่ภาพ รูปแบบ แต่ไม่มีเนื้อหาสาระประชาธิปไตยที่แท้จริง
..
.. ยุทธปัจจัยสำคัญที่สุด คือ "เงิน"
.. จากทุนเสรีนิยมสามานย์เผด็จการข้ามชาติ
.. นายหน้า เซลส์แมน เซลวูแมน หรือ ไส้ศึก มีสภาพใกล้เคียงกัน
.. ต่างแต่โดยสภาพของสงครามการรบ แปรรูปเป็น สงครามเศรษฐกิจ
..
.. การขับเคลื่อนแผ่ขยายครอบคลุม เผชิญหน้ากันทุกด้าน
..
.. วันนี้ พบบทความที่ไม่ควรมองข้าม
.. เพราะการรัฐประหาร
.. หรือมักใช้คำว่า ปฏิวัติ โดยกองทัพไทย
.. คือศัตรูตัวฉกาจของขบวนการฯ ของเขา
..
.. การก่อตั้งกองกำลังจ้างรบ ควบคุมโดยทหารแตงโม
.. กองกำลังชายชุดดำไม่ทราบฝ่ายในแก้วสามประการของขบวนการฯ
..
.. นอกเหนือจากนั้นอีก
.. ก็คือ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ พ.ร.บ. กลาโหม
..
..
.. ขึงขอนำเสนอในตอน..
..
..
* ข่าววงในทหารใหญ่แฉ !
..แผนแดงล้มปืนขจัดรัฐประหาร
- เกมเงียบ แก้ พรบ.กลาโหม รุกคืบแล้ว !? *
..
..
.. ดังบทความจาก น.ส.พ. แนวหน้า ต่อไปนี้ .-
..
..
.........................................................
..
เฉลิมชัย ยอดมาลัย
..
ทักษิณจ้องล้ม พ.ร.บ.กลาโหม
หวังยึดไทยเบ็ดเสร็จ (เขียนให้คิด)
..
ผู้ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์
การเมืองไทยอย่างใกล้ชิดต่างรับรู้ ตรงกันว่าทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี
ซึ่งปัจจุบันกำลังหลบหนีคดีอาญาอยู่นอกพระราชอาณาจักรไทยมีความต้องการ
จะครอบครองอำนาจรัฐอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
และต้องการยึดกุมอำนาจรัฐไว้ให้ยาวนานที่สุด ส่วนการยึดกุมอำนาจรัฐไว้เพื่อ
เหตุผลอันใดนั้น ประเด็นนี้วิญญูชนก็ตอบตรงกันว่า เพื่อ
ผลประโยชน์ส่วนตนของทักษิณและพวกพ้องเป็นสำคัญ
อย่าง ไรก็ตาม ถึงแม้ปัจจุบันทักษิณจะมิได้มีตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี แต่วิญญูชนก็ตระหนักดีว่าทักษิณคือเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง สามารถชี้เป็น ชี้ตาย และสั่งให้คนใน พรรคเพื่อไทยหันซ้าย-หันขวาได้ตามใจนึก แต่ที่สำคัญ เหนือสิ่งอื่นใด คือ ทักษิณมีอำนาจบงการให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องทำตามความประสงค์ของตน ได้อย่าง มหัศจรรย์ ดังนั้นจึงไม่ต้องประหลาดใจที่นักการเมืองของพรรคเพื่อไทย รวมถึงผู้เป็นเจ้าของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งต้องการจะได้ครอบครองเก้าอี้รัฐมนตรีตัวใดก็จะต้อง วิ่งไปขอตำแหน่งที่ประสงค์กับทักษิณ โดยมองข้ามศีรษะ ยิ่งลักษณ์ไปอย่างไม่แยแส ต้องยอมรับว่าทักษิณสามารถครอบครองอำนาจการเมืองได้เกือบจะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แล้วในขณะนี้ ยกเว้น แค่เพียงองค์กรเดียวเท่านั้นที่ทักษิณยังไม่สามารถจัดการและควบคุมได้อย่าง เบ็ดเสร็จ องค์กรที่ว่านั้นคือ กองทัพไทย เมื่อเป็นเช่นนั้นก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ทักษิณจะต้องสลายความแข็งแกร่งของ กองทัพไทยให้จงได้ เพราะถ้าหากระบอบทักษิณสามารถควบคุมกองทัพไทยได้เบ็ดเสร็จแล้ว ทักษิณก็จะสามารถทำอะไรทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ โดย ไม่มีอุปสรรคใดๆ คอยขัดขวางอีกต่อไป ดังนั้นจึงไม่ต้องประหลาดใจที่สาธารณชนจะพบว่ารัฐบาลนอมินี และนายกฯโคลนนิ่งโดยระบอบทักษิณจึงพยายามจะเข้าไป ล้มล้างพระราชบัญญัติการจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า พ.ร.บ.กลาโหมให้จงได้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าระบอบทักษิณต้องการจะ ล้มล้างพ.ร.บ.กลาโหมอย่างแท้จริง ดังนั้นเขียนให้คิดวันนี้ ขอนำเสนอบทความพิเศษจากนายทหารระดับสูงของกองทัพบก ผู้ใช้นามปากกาว่า "เสธ.เหลือง ผู้ทรงคุณธรรมกองทัพบก" มากระตุ้นต่อมความคิดของคุณผู้อ่าน กลยุทธ์ พ.ร.บ.กลาโหม กลอุบายที่ระบอบทักษิณต้องการใช้ล้มล้าง พ.ร.บ. กลาโหม พ.ศ. 2551 ยังคงเป็นเรื่องเร้นลับ อำพราง ในสายตาของผู้อยู่นอกแวดวงกองทัพไทย แต่เรื่องตื้นๆ เชยๆ เช่นนี้เป็น สิ่งที่บุคลากรของกองทัพไทยสามารถเข้าใจได้โดยไม่ยากเย็น แต่ที่สำคัญคือ เรื่องนี้ค่อนข้างจะสุ่มเสี่ยงกับการก่อชนวนความ ขัดแย้งในบรรดาขุนศึกส่วนใหญ่ในกองทัพไทย แต่ก็อาจจะมียกเว้นแค่เพียงคนเดียว คือ ขุนศึกปลัดกลาโหม ที่คนในกองทัพไทย รู้ดีว่ามีเลือดสีแดงแจ๋ ซึ่งชื่อ เสถียร เพิ่มทองอินทร์ แต่ไม่ว่าจะแก้หรือไม่แก้ พ.ร.บ.กลาโหมก็ตาม ขุนศึก ปลัดกลาโหมผู้นี้ก็ยังยืนโรงเป็นกรรมการของกองทัพอยู่วันยังค่ำ แต่คงเป็นได้แค่กรรมการเสียงข้างน้อย ไทยเรดไวน์ 2 ใน 6 เสียง เคียงคู่กับขุนศึก รมว.กลาโหม สุกำพล สุวรรณทัต เพื่อนซี้ของทักษิณ เจ้าของฉายารัฐมนตรีดีกรีดูไบ เพื่อให้กลอุบายล้มล้าง พ.ร.บ.กลาโหม ประสบความสำเร็จโดยเร็ว จึงได้บังเกิดความคิดว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้กรรมการ 6 คน ที่มีอยู่แต่เดิมเพิ่มเป็น 7 คน ให้จงได้ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องให้เสียงส่วนใหญ่ของกรรมการมีรสนิยมชอบดื่มไทยเรดไวน์ด้วย นั่นคือ หากกรรมการ 4 ใน 7 เป็นพวกไทยเรดไวน์แล้วละก็รับรองแผ่นการของทักษิณจะเกิดเป็นจริงโดยไม่ยาก ถ้าแผนการนี้สัมฤทธิผลก็เท่ากับว่าระบอบทักษิณไม่จำเป็นต้องราวีกับขุนศึกใน กองทัพไทย เพราะสามารถใช้วิธีนิ่มๆ เช่นนี้เข้าไปจัดการกับกองทัพไทยได้อย่างไร้ร่องรอย ซึ่งเป็นไปตามข้ออ้างที่ว่าทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎกติกา โดยใช้อุบายค่อยเป็นค่อยไป ปล่อยให้มันเกิดอาการกลืนกินตัวเองไป ทีละเล็กละน้อย จนสุดท้ายก็กินได้ตลอดตัว แผนการร้ายที่ว่านี้เริ่มต้นจาก 1.ปล่อยให้ขุนศึกปลัดกลาโหมทำตัวคล้ายๆ กับคนไทย สมัยอยุธยา ที่ยอมเป็นไส้ศึกพม่าเข้ามาบ่อนทำลายกรุงศรีฯ โดยให้ลาออกจากราชการในตำแหน่งปลัด แล้วแต่งตั้งให้ไปกินตำแหน่ง รมช.กลาโหม หมากนี้เป็นตราที่ 1 2.จากนั้นก็เรียกวิทวัส เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 11 อดีต คู่ท้าชิงตำแหน่งปลัดกลาโหมมาเจรจาเพื่อสืบสาวว่านิยม ไทยเรดไวน์หรือไม่ หากชอบก็จะอวยยศปลัดกลาโหมให้ หากไม่ชอบก็จะเชิญผู้อื่นที่มีรสนิยมเดียวกันไปกินตำแหน่งดังกล่าว แทน (ต้องติดตามว่าวิทวัสจะ say yes or no กับการ ส่งเทียบเชิญครั้งนี้) 3.หมากสุดท้าย คือ จัดการให้บิ๊กเฟื่อง-อิทธพร ศุภวงศ์ พ้นจากตำแหน่งผบ.ทอ.ในช่วงเดือนเมษายนปีนี้ แล้วดันให้ไปอยู่เฉยๆ เพื่อรอเกษียณราชการในปลายเดือนกันยายน 2555 แล้วจากนั้นก็เร่งหาผู้นิยมไทยเรดไวน์และเชิดชูนายห้างดูไบเข้าไปรับตำแหน่ง ผบ.ทอ.แทน เมื่อ หมากเดินไปครบ 3 ตราดังกล่าวข้างต้นแล้ว รับรองว่าจะได้สมาชิกในกองทัพไทยที่ชื่นชอบไทยเรดไวน์ โดยแท้ 4 ราย แล้วส่ง 4 รายนี้ ไปเป็นกรรมการจากกองทัพ เห็นแล้วใช่ไหมว่าครั้งนี้เสียงส่วนใหญ่ ก็จะเป็น ไทยเรดไวน์โดยมิต้องสงสัย คราวนี้แหละก็จะสามารถแต่งตั้ง ขุนศึกได้ตามประสงค์ทุกประการ เนื่องจากเมื่อคุมเสียง ข้างมากได้แล้วก็สามารถชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนกได้โดยไม่มี อุปสรรคอีกต่อไป แต่มีข้อห้ามประการเดียว คือ ห้ามแตะต้อง นายกฯ นกแก้ว เพราะเป็นน้องและเป็นโคลนนิ่งของ เจ้าพ่อดูไบ เห็นชัดแล้วใช่ไหมว่าระบอบทักษิณนั้น มีการวางหมาก ที่แยบยล พร้อมๆ ไปกับการจงใจปั่นหัวคนไทยให้สับสน และมึนงงไปกับเรื่องอื่นๆ จนคนที่คิดไม่ทันและคิดไม่ถึงตั้งตัวไม่ติด สุดท้ายก็เดินหลงทางไปติดกับดักเรื่องการล้มล้างมาตรา 112 เมื่อคนมึนงงทั้งแผ่นดินแล้ว ทักษิณหินชาติก็จะเปิดศึกล้ม พ.ร.บ.กลาโหมโดยรวดเร็วตามสไตล์ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ดังนั้นคนไทยที่ยังมีสติติดตัวอยู่ต้องไม่ปล่อยให้เกิดอาการ "เมื่อรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว ปักใจแน่แน่ว รักแต่เธอ หลง แต่เธอ ตกเป็นทาสสวาทใต้เบื้องบาทเธอ...." ขอเตือนด้วยความหวังดีว่าอย่าปล่อยให้ทุกอย่างสายจนเกินแก้ โดยเฉพาะคน ในกองทัพที่อาจจะยังงุนๆ งงๆ หลับไหลลืมตื่น ผมขอให้บทความนี้ช่วยปลุกสติของคนไทยและบุคลากร กองทัพไทยให้จงตระหนักในพิษภัยของระบอบทักษิณ อย่าได้ หลงกลทักษิณเป็นอันขาด และขอเรียกร้องให้ขุนศึกทุกนาย จงตระหนักในความสงบสุขของบ้านเกิดเมืองนอนของเรา ผม อาจจะเรียกร้องมากไปนิดนึง เพราะต้อง การ เรียกร้องและปลุกจิตสำนึกขุนศึกที่จงรักภักดีต่อองค์ พระมหากษัตริย์ และอยากให้ขุนศึกที่หวงแหนแผ่นดินไทย จงอย่าตกเป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณ ถ้าหากขุนศึกรายใดประสงค์จะก่อการดีเพื่อตอบแทนบุญคุณของ แผ่นดินไทยแล้วก็จงเร่งกระทำโดยทันที อย่ารอให้สายเกินการ ขอแค่เพียงทำด้วยความหวังดีต่อบ้านต่อเมืองและเพื่อพิทักษ์สถาบันพระมหา กษัตริย์อย่างจริงจังเท่านั้นเป็นพอ ขอย้ำว่าทหารไทยยอมสละชีวิตได้เพื่อ ปกป้องราชบัลลังก์ และเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินไทย มิใช่เป็นทหารของ ระบอบทักษิณ คุณๆ ทราบไหมครับว่าทักษิณกลัวอะไรมากที่สุด ขอตอบว่าทักษิณไม่เคยกลัวคนรู้ทัน แต่กลัวคนที่ สามารถเดินแซงหน้าทักษิณได้มากกว่า ดังนั้นเมื่อรู้เช่นนี้แล้วก็ขอให้คนไทยและขุนศึกไทยทุกคนอย่ายอมให้ทักษิณ แก้ พ.ร.บ.กลาโหมได้เป็นอันขาด เพราะนั่นหมายถึง ความวิบัติจะบังเกิดกับแผ่นดินไทยอย่างไร้คำบรรยาย ขอย้ำอีกครั้งว่า ขุนทหารที่มีใจซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทย และต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องไม่ยอมให้ระบอบ ทักษิณก่อกรรมทำเข็ญกับแผ่นดินไทยและคนไทย อีกต่อไป เพราะที่ผ่านมานั้น เราทุกคนถูกระบบทักษิณกระทำย่ำยีมาจนเกินจะรับได้แล้ว เพราะฉะนั้นเราจะ ไม่ยอมให้เหตุการณ์เลวร้ายจากน้ำมือของระบอบทักษิณ เกิดบนแผ่นดินไทยอีกเป็นอันขาด ผู้ทรงคุณธรรมกองทัพบก |
|
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น