บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

องค์กรสีขาว เปิดตัว “D Passport" หนุนคนดี ให้ได้สิทธิพิเศษสมัครงาน

“ดนัย จันทร์เจ้าฉาย” โชว์หนังสือเดินทางแห่งความดี สร้างมิติใหม่ ไม่พิจารณาเฉพาะเกรดเวลารับสมัครพนักงาน แต่จะเน้นความสำคัญกับการทำความดี กิจกรรมอาสา ด้าน “ผาณิต” ชี้ต้องยกย่องคนดี เชื่อช่วยขจัดความชั่วร้ายลงได้

วันที่ 16 มกราคม สำนักงานทูตความดีแห่งประเทศไทย ร่วมกับองค์กรภาคีสีขาว และสถาบันการศึกษา เปิดตัว “หนังสือเดินทางแห่งความดี หรือ D Passport” ซึ่งเป็นนวัตกรรมขับเคลื่อนความดีในรูปแบบสมุดบันทึกการทำความดีทุกรูปแบบ เพื่อปลุกจิตสำนึกของเยาวชนให้มีจิตอาสา เสียสละ ซื่อตรง โปร่งใส โดย D Passport ดังกล่าวสามารถนำไปใช้ในการสมัครงานกับเครือข่ายองค์กรภาคีสีขาว โดยจะได้รับการพิจารณาเข้าทำงานเป็นอันดับต้นๆ

นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวเปิดงานว่า การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม หรือการสร้างคนดีนั้นต้องหล่อหลอมจากเนื้อใน เพราะการปรับจิตสำนึกให้คนไม่ดี กลับตัวเป็นคนดี เป็นเรื่องยาก

“การสร้างคนดีต้องสนับสนุน ขยายผลให้เกิดมากขึ้น คนดีที่ซ้อนอยู่ในสังคมต้องถูกนำมายกย่อง ไม่ใช่ด้วยการให้โล่รางวัลหรือเงิน แต่ต้องทำให้คนดีคงอยู่ต่อไป เพื่อขจัดความชั่วร้ายให้หมดไปจากสังคมไทย และหวังว่าการจัดอันดับการคอร์รัปชั่นในประเทศไทยจะดีขึ้นเป็นลำดับ”

นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานสำนักงานทูตความดีแห่งประเทศไทย กล่าวถึงที่มาของ D Passport ว่า เวลาที่เราเดินทางไปต่างประเทศ มักถูกตรวจค้นอย่างหนัก จนศักดิ์ศรีแทบไม่เหลือ โดยเฉพาะผู้หญิงไทย นั่นเป็นเพราะภาพลักษณ์ของประเทศไทย อีกทั้งที่ผ่านมาบ้านเราไม่ได้มีเครื่องมือในการวัดผลหรือประเมินผลการทำความดีอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น การออก D Passport จึงเป็นมิติใหม่ในการการันตีพฤติกรรมและอุปนิสัยในการทำความดี โดยจะการสะสมแต้มลงในสมุดบันทึกความดีที่ออกและรับรองให้โดยสถาบันการศึกษา ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ยื่นประกอบการฝึกงานหรือสมัครงานในองค์กรภาคีเครือข่าย โดยจะได้รับการพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ

“D Passport เป็นโครงการที่เฟ้นหาคนดี ส่งเสริมคนดี โดยเชื่อว่า สิ่งที่คิด เชื่อ พูด ทำ และทำซ้ำจะซึมเข้าไปในจิตใจของผู้คน ส่วนมหาวิทยาลัยนำร่องที่จะเข้าร่วมโครงการมีทั้ง 15 แห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยศรีปทุม ฯลฯ”

ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า คนที่ทำธุรกิจ เงินเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เพราะสิ่งที่คนทำธุรกิจต้องการคือ ความมั่นคงยั่งยืน ซึ่งไม่ได้จากเครื่องไม้เครื่องมือ หรือความสามารถในการจ่าย แต่ต้องมาคนที่ทุ่มเท ทีมงาน พนักงานทุกคนที่มีใจ เห็นว่าองค์กรเป็นบ้านของตนเอง เพราะธุรกิจสำเร็จได้นั้น ไม่ได้มาจากผู้นำ ที่เป็น ‘ฮีโร่’ เพียงคนเดียว

ขณะที่นายวสันต์ โพธิพิมพานนท์ ประธานกรรมการ ทองหล่อ กรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจุบันการสร้างเด็กให้เป็นคนดีนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะบ้านเรายังสอนลูกแบบผิดๆ ทำอะไรส่วนใหญ่ก็ถูกดุว่าไม่ดี ขณะที่ข่าวสารส่วนใหญ่ก็นำเสนอแต่ข่าวร้าย ส่วนข่าวดีกลับเงียบหาย จนทำให้คนในประเทศวิตกจริต

นายวสันต์ กล่าวถึงความหมายของคนดี และการกระทำที่ดีว่า คนที่ไม่ทำความชั่ว หรืออะไรที่ไม่ดี ไม่ควรกระทำ ก็นับว่าเป็นคนดีแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือ คนที่ไม่ทิ้งขยะ ต่อให้ไม่ไปกวาดถนนก็ถือว่า เป็นคนดี เพราะไม่ทำให้ถนนสกปรกตั้งแต่ต้น เช่นเดียวกัน ถ้าคนไม่ตัดต้นไม้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปปลูกป่า

น.พ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน กล่าวว่า ความสุข สุขภาพ ความดี การประสบความสำเร็จ เป็นจิกซอว์เดียวกัน เพราะความดีกับความสุขมีการแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ในศาสตร์การแพทย์ จิตที่ดีจะส่งพลังไปที่สมอง ขณะที่สมองจะสร้างสารเคมีส่งมาที่ร่างกาย ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างภูมิคุ้มกันของร่ายกาย ทั้งนี้ การทำความดีนั้นต้องทำให้เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุเข้าใจว่า ความดีสามารถทำได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเชียร์

ส่วน ผศ.นพ.ศิริเกษม ศิริลักษณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ในฐานะตัวแทนมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ D Passport กล่าวว่า นิสิต นักศึกษามีพลังที่จะทำความดีอยู่ในตัวเอง อย่างเช่นในช่วงอุทกภัยที่ผ่านมา นักศึกษาก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการริเริ่มโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งหากได้รับการสนับสนุน ส่งเสริม มีการเผยแพร่เรื่องจิตสาธารณะเพิ่มเติมจากหลักวิชาการ ก็จะช่วยให้เกิดการสร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ขณะที่ความดีต้องได้รับการพูดถึง ถูกนำมาเป็นตัวอย่างในสังคมมากขึ้น เพื่อสังคมที่มีสุข

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับองค์กรสีขาว ประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชนและภาคประชาสังคม กว่า 300 องค์กร ซึ่งมุ่งมั่นในหลักการ 4 ข้อ ได้แก่

1. ไม่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอบายมุขทั้งปวง และปฏิเสธการทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกกรณี

2.เกณฑ์ในการรับสมัครพนักงานใหม่จะให้ความสำคัญกับการทำความดี กิจกรรมอาสา ไม่พิจารณาเฉพาะใบแสดงผลการศึกษาเท่านั้น

3.เกณฑ์ในการประเมินผลงานพนักงานประจำปี จะให้ความสำคัญกับกิจกรรมอาสาที่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง

และ 4.เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาที่ทำความดีอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม หรือได้ผ่านโครงการฑูตความดีแห่งประเทศไทยเข้าฝึกงานหรือทำงานในองค์กร


เขียนโดย ณัฐนันท์ อิทธิยาภรณ์ หมวด isranews

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง