Wit Hin
ข้อความของผู้สื่อข่าวASTV ที่มาจาก https://twitter.com/#!/9kant/status/132985732770971648
แล้วดูนี่
V
V
V
และนี่
V
V
V
แถมรอชุดใหญ่อีกเร็วๆนี้
“สาทิตย์” รับฝ่ายค้านหนักใจงบกลางฟื้นฟูน้ำท่วม 1.2 แสนล้าน ไม่มีรายละเอียดชัด หวั่นไม่โปร่งใส กระจายตามอิทธิพลทางการเมือง จี้แจงให้ชัด ห่วงโกงกินมโหฬาร รับไม่แน่ใจจะประชุมสภาอภิปรายงบกันได้หรือไม่ ด้านประธานวิปค้าน เผย มี ส.ส.จ่อซัก 70 ราย แนะดึงงบประชานิยมอัดฟื้นฟูอุทกภัยเพิ่ม พร้อมตั้งฉายา “งบประชานิยมท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
วันนี้ (6 พ.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายร่างงบประมาณประจำปี 2555 ว่า ฝ่ายค้านหนักใจเรื่องงบฟื้นฟูน้ำท่วม ที่มีตั้งงบกลางจำนวน 1.2 แสนล้านบาท เพราะไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนว่าเอาไปทำอะไร มีแต่เขียนวัตถุประสงค์ไว้กว้างๆ ว่า เป็นการชดเชย เยียวยา ฟื้นฟู ซ่อมแซมสาธารณูปโภค ซึ่งปัญหาคือ การใช้งบกลางเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว แม้หากเกิน 100 ล้านบาท ต้องมีการรายงานต่อครม.ก็ตาม แต่ระบบการตรวจสอบจะทำได้ยากมาก เพราะในชั้นกรรมาธิการวิสามัญจะไม่รู้เลยว่างบก้อนนี้เอาไปทำอะไร ดังนั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ มีการกระจายงบประมาณจะมีความเป็นธรรม และโปร่งใสมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในเอกสารร่างงบประมาณพยายามชี้แจงว่า เนื่องจากตอนจัดทำปริมาณน้ำยังไม่ลด ทำให้ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ จึงต้องเอาไปใส่ไว้ในงบกลาง แต่ในความเป็นจริงช่วงที่มีการทำงบประมาณ นั้น เรามีบางส่วนที่พ้นจากภาวะอุทกภัยแล้วในหลายพื้นที่ และดูจากเอกสารการประชุม ครม.ที่ทางกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวงชนบท และหน่วยงานอื่นๆ ได้รายงานความเสียหายไว้ชัดเจน ก็ควรแยกความเสียหายออกไปจัดอยู่ในกระทรวงต่างๆ และลงรายละเอียด เพื่อให้สภาสามารถตรวจสอบได้ เหมือนสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดทำงบกลางปีโดยแจกแจงในรายละเอียด ชัดเจน ดังนั้นอยากเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ลงรายละเอียดของงบประมาณต่างๆ ให้ชัดเจนเช่นกัน
นายสาทิตย์ กล่าวว่า งบน้ำท่วมเป็นงบที่จะเปิดช่องให้มีการทุจริตกันมากและง่ายที่สุด ดังนั้นฝ่ายค้านจะอภิปรายในส่วนนี้หลายคน รวมถึงงบยุทธศาสตร์ป้องกันอุทกภัยที่ตั้งไว้ 4.5 หมื่นกว่าล้านบาทจะต้องไปดูในรายละเอียดว่าที่รัฐบาลพูดเรื่องแผนบูรณาการ น้ำ 25 ลุ่มแม่น้ำ เรื่องการทำระบบป้องกันระยะยาวมีอะไรบ้าง คิดว่า 2 เรื่องนี้จะมีการอภิปรายกันมาก เพราะรวมงบประมาณแล้วเกือบ 1.5 หมื่นล้านบาท เข้าใจว่า ส่วนหนึ่งที่ต้องใส่ไว้ในของงบกลางเพราะต้องการอาศัยความคล่องตัวกรณีฉุก เฉิน แต่ก็มีการตั้งงบฉุกเฉินไว้ต่างหากอีก 6.6 หมื่นล้านบาท รวมกับงบกลางอีก 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งรวมแล้วเกือบ 2 แสนล้านบาท
“สิ่งที่เราเป็นห่วงมากสุด คือ ปัญหาการโกงกินงบประมาณ แต่จะมีการจับตาดูอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่ครม.มีมติให้ทุกกระทรวงส่งมาตรการเยียวยาไปที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติเพื่อทำการรวบรวมให้นายกฯ แต่ที่เราอยากเห็นมากกว่านั้นคือแผนการฟื้นฟูทั้งระบบว่าจะมีการทำอะไรบ้าง และใช้แหล่งเงินจากไหน จะมีการกู้จำนวนเท่าไหร่ เพราะขณะนี้มีความสับสนว่าจะใช้จากงบประจำปี 55 จำนวนเท่าไหร่ และจากงบปี 54 ที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายการเท่าไหร่ ดังนั้น ในขั้นตอนในสภาจะต้องมีการเสนอว่าจะมีการตรวจสอบความโปร่งใสในงบแต่ละ ตัวอย่างไร เพราะสิ่งที่ประชาชนกังวล คือ การกระจายไม่เป็นธรรม ไปตามกำลังของอำนาจอิทธิพลทางการเมือง และยิ่งมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างกทม. กับรัฐบาล ขณะที่กทม. เป็นการบริหารของผู้ว่าฯ กทม.ที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ ลำพังงบจากกทม.เพียงอย่างเดียวมาเยียวยาปัญหาคงไม่ไหว ดังนั้น ความเป็นธรรมและความโปร่งใสจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ยังไม่ได้ยินมาตรการ หรือแนวทางที่ชัดเจนจากรัฐบาลคงต้องรอดูการตอบคำถามในสภาก่อน” นายสาทิตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงหรือไม่ว่ารัฐบาลจะอาศัยที่สมาชิกสภาไม่มีความพร้อมผลักดันร่างงบประมาณ ปี 55 ผ่านสภาโดยสะดวก นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่า ที่สุดแล้วสภาจะสามารถประชุมได้หรือไม่ เพราะสถานการณ์น้ำท่วมยังคงวิกฤตอยู่ อาจจะมี ส.ส.ถึงขั้นต้องพายเรือมาประชุมก็ได้ แต่สภามีกำหนดเวลา ในการพิจารณางบประมาณ 105 วัน ขณะนี้เวลาเลยเพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งความจริงยังสามารถรอให้สถานการณ์น้ำท่วมลดลงก่อน เพื่อประมวลความเสียหายที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน แต่ขั้นตอนที่ต้องใช้เวลามาก คือ ขั้นกรรมาธิการวิสามัญซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ เราจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อป้องกันไม่ให้มีการโกงกิน
ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการเตรียมพร้อมอภิปรายร่างงบประมาณปี 2555 ว่า มี ส.ส.พรรคผู้ประสงค์อภิปราย 70 คน โดยจะแบ่งประเด็นออกเป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการเมืองความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม โดยจะมีการอภิปรายที่เกี่ยวพันกับปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมสอดแทรกอยู่ใน ทุกกลุ่ม ทั้งนี้เห็นว่าการจัดสรรงบประมาณในส่วนงบกลางสำหรับฟื้นฟูและป้องกันอุทกภัย ที่รัฐบาลจัดไว้ 1.2 แสนล้านบาท น้อยเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 8 หมื่น ถึง 1 แสนล้านบาท ฉะนั้น เงินที่เหลือ 2 หมื่นล้านคงไม่พอยาไส้
“การจัดสรรงบประมาณในภาวะวิกฤตควรจัดให้เหมาะสมไม่ใช่จัดงบเหมือน ภาวะปกติ โดยเฉพาะยังเห็นว่ามีการคงงบประมาณสำหรับโครงการประชานิยมอยู่จำนวนมาก จึงควรปรับลดงบประมาณดังกล่าวเพื่อนำเงินมาใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมมากกว่าไปกู้ เงินมาใช้สำหรับฟื้นฟูประเทศ หากไม่พอแล้วค่อยพิจารณาที่จะไปกู้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นแบกภาระและการกู้เงินนอกงบประมาณจะทำให้ตรวจสอบยาก ซึ่งงบประมาณปี 55 นี้ ตนขอตั้งฉายาว่าเป็น “งบประชานิยมท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
ส่วนเรื่องญัตติด้วยน้ำท่วมนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่า รัฐบาลจะเปิดให้สมาชิกได้อภิปรายหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีการเลื่อนการพิจารณามาแล้วถึง 2 ครั้งแล้ว เสมือนกับรัฐบาลกลัวว่าจะถูกฝ่ายค้านรุมอภิปรายอย่างหนัก
พวกนักการเมืองเราที่เข้ามาบริหารประเทศมีแต่พวกโกงไม่พอ ดันมีคน สติไม่ดี มาบริหารด้วย ปวดใจสุดๆ
ที่ควรแจกไม่แจก ไปแจกที่ๆไม่จำเป็น
หรือว่า รู้ล่วงหน้าว่าเดี๋ยวจะท่วมเลยแจกก่อน
เพราะเดี๋ยวน้ำท่วมจะแจกไม่ได้ ก็ไม่แน่ ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้้
เพราะ รัฐบาลมีนอสตราดามูสเมืองไทย
อ่านและดูกันจนถึงนี่ ก็คงไม่แปลกใจกับสิ่งที่ท่านเห็นในคลิปนี้
มันจะไำม่เป็นแบบนี้ได้ไง มีแต่ โกง มีแต่ บ้า มีแต่ เดา ที่เข้ามามีหน้าที่ตรงนี้
จะโทษใครได้ ทุกอย่างอันน่าสมเพชนี้ เกิดจากปากกาที่เรากาเลือกตอนเข้าคูหาด้วยมือพวกเราเอง
หวังว่า คนส่วนใหญ่ จะจำเหตุการณ์ที่ประสบพบเจอนี้ ให้แม่น จนถึงตอนใช้สิทธิ์ของทุกคนในครั้งหน้าละกันครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น