บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Mr.Meechai Ruchupan replies to a question to him about foreigners' comments on Lese Majesty Law


โดย Ronayos At Gmailcom 
 
มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานรัฐสภา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา และประธานรัฐสภา ตอบเรื่องวิพากษ์กฎหมายหมิ่นสถาบัน

Original Post in Thai at http://www.meechaithailand.com/ver1/?module=4&cateid=&action=view&id=046033#q
In an online news http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000162693

Mr.Meechai Ruchupan replies to a question to him about foreigners comments to Lese Majesty Law as follows.

Mr.Meechai Ruchupan, An Eminent Scholar in Laws, Former House of Parliament Speaker, Former House of Senate Speaker, Former Vice Prime Minister

Article 112 only prohibits three deeds.

It prohibits defamation, slander and feud against His Majesty the King, the Queen, Heir apparent or the regent. Such deeds, no matter to the head of the country, against lay people are also not permitted. Any person's freedom falls to be limited where it does not violate others. If personal freedom is allowed without consideration of others, the society could reach cataclysm. Even US allows us neither defame, slander nor express feud against their President. Or can we?
Importantly, each country has her own different concerns. Looking from another country's stand point, one may see it inappropirate. But civilized people do accept cultures and traditions of others and do not judge by their own acquaintance.

For example, American is out of their mind with fear of terrorism. Whoever entering the country would be thoroughly searched without consideration to personal rights to the extent of complete stripping. Luggages can also be searched at their wills. When American was searching for Bin Laden, from aerial reconnaissance, they visualized a group of people walking with sticks at a foothill and imagined that it could be Bin Laden. An expensive guided missile was dispatched to kill them all. Later, it was discovered that it was not Bin Laden but villagers were murdered for free. Isn't that more cruel than in the stone age? I do not know if Americans or UN had condemned that. The reason may be that they still have the wrath about the attacks of the collapsed buildings.

Singapore has judicial corporal punishment (beating) to chasten for certain offences. A naughty american spray painted graffitis on walls, and was caught, was ass-beaten to shame before. No matter what request was made, Singapore government did not yield. Nobody called for amendment of the law because they would beat only convicts. This is similar to Thai laws which punish only those who violate the offences.

If there are discrepancies or errors from translation, they all belong to ronayos.

Original Post in Thai at http://www.meechaithailand.com/ver1/?module=4&cateid=&action=view&id=046033#q
คำถาม แก้กฎหมายหมิ่นฯ
กราบ สวัสดีอาจารย์มีชัยด้วยความเคารพ มีคำถามที่อยากเรียนถามอาจารย์ถึงกระแสการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักวิชาการและ ภาคประชาชนต่างๆที่ออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไขมาตรา 112 โดยระบุว่ามาตรานี้มีปัญหาต่างๆมากมาย ไม่ทราบว่าอาจารย์มีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร เพราะขณะนี้องค์กรระหว่าง ประเทศ เช่น ยูเอ็นหรือสถานทูตสหรัฐตลอดจนองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในและต่างประเทศเริ่มมี การวิพากษ์วิจารณ์ปัญหากฎหมายมาตรานี้และเรียกร้องให้มีการแก้ไขแล้วและส่ง ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยอย่างไรในสายตาของต่างประเทศ ขอบคุณอาจารย์ ล่วงหน้าครับ

คำตอบ
มาตรา ๑๑๒ ห้ามการกระทำเพียง ๓ อย่าง คือ ห้ามหมิ่นประมาท ห้ามดูหมิ่น และห้ามอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์  การกระทำทั้ง ๓ อย่างนั้น อย่าว่าแต่จะทำกับประมุขของประเทศเลย ทำกับคนธรรมดา ก็ยังไม่ได้  เสรีภาพของบุคคลนั้นย่อมมีขอบเขตอันจำกัดที่จะต้องไม่ไปละเมิดคนอื่น ถ้าคำนึงถึงแต่เสรีภาพของบุคคลโดยไม่คำนึงถึงสิทธิของคนอื่น  สังคมก็คงกลียุค แม้แต่ในอเมริกาเองก็ใช่ว่าเราจะไปหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรืออาฆาตมาดร้ายประธานาธิบดีของเขาได้เสียเมื่อไรล่ะ ข้อสำคัญประเทศแต่ละประเทศย่อมมีความระแวดระวังในเรื่องที่ต่างกัน ถ้ามองในแง่มุมของอีกประเทศหนึ่งอาจเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควร แต่คนที่เจริญแล้วเขาก็ต้องยอมรับนับถือประเพณีวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ไม่ไปตัดสินจากความคุ้นเคยหรือความเคยชินของตนเอง

ยก ตัวอย่างเช่น อเมริกันกลัวการก่อการร้ายจนขี้ขึ้นสมอง ใครจะผ่านเข้าประเทศจะตรวจค้นอย่างละเอียดยิบโดยไม่คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล ของใคร ถึงขนาดจับแก้ผ้าก็ยังทำ  แม้แต่กระเป๋าเดินทางก็เปิดรื้อค้นเอาเองได้ เมื่อตอนที่อเมริกันตามล่าบินลาเด็นน่ะ เคยจับภาพจากอากาศเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินถือไม้เท้าอยู่เชิงเขา นึกว่าเป็นบินลาเด็น ส่งจรวดราคาแพงไปถล่มตายหมดทั้งกลุ่ม จึงรู้ภายหลังว่าไม่ใช่บินลาเด็น ชาวบ้านเลยตายฟรีนั่นน่ะไม่โหดร้ายป่าเถื่อนเสียกว่ายุคหินอีกหรือ ก็ไม่เห็นคนอเมริกันหรือสหประชาชาติจะไปตำหนิอะไร เพราะความแค้นในเรื่องถูกถล่มตึกยังค้างคาอยู่ในใจ

       ประเทศสิงคโปร์มีโทษเฆี่ยนตี ให้หลาบจำจะได้ไม่ทำผิดบางอย่าง คนอเมริกันมือซนเอาสีสเปรย์ไปพ่นที่กำแพง เขาจับได้ ลงโทษตีก้นให้ได้อายมาแล้ว จะโวยวายหรือขอร้องอย่างไร รัฐบาลสิงคโปร์ก็ไม่ยอม ไม่มีใครไปเรียกร้องให้เขาแก้ไขกฎหมาย เพราะเขาจะเฆี่ยนตีก็แต่เฉพาะคนที่ทำผิด เหมือนกับกฎหมายของไทย จะลงโทษก็แต่เฉพาะคนที่ทำผิดที่ห้ามไว้

มีชัย ฤชุพันธุ์
21 ธันวาคม 2554



Another article in Thai
http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000163601

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง