บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ไทยเตรียม Big Bag การเงินการทอง เตรียมรับภัยพิบัติจากยุโรปหรือยัง?

กาแฟดำ
     ผมติดตามการ ประชุมวิกฤติหนี้ ของประเทศในยูโรโซน 17 ประเทศ
    และอีก 10 ประเทศยุโรปที่ไม่ใช้เงินสกุลยูโรในช่วงปลายที่ผ่านมาอย่างใจจดใจจ่อ เพราะมีความหวั่น ๆ ว่าเงินสกุล ยูโร อาจจะมีอันต้อง ล่มสลาย เพราะ เอาไม่อยู่
     แม้ จะตกลงกันได้ว่าทั้งหมด (ยกเว้นอังกฤษไม่เอาด้วย) ว่าจะรับรองกฎกติกาชุดใหม่ที่มีบทลงโทษสำหรับประเทศที่ไม่ทำตามเพดานที่ กำหนดสำหรับการสร้างหนี้ แต่ก็ยังไม่ได้แปลว่าจะแก้วิกฤติได้ทั้งหมด
    นายกฯ อังกฤษเดวิด คาเมรอน บอกว่า ที่ไม่ยอมลงนามร่วมด้วย เพราะเงื่อนไขใหม่ไม่เป็นประโยชน์ต่ออังกฤษ
 หนึ่งในมาตรการที่ดูเหมือนจะส่งสัญญาณทางบวกที่ตกลงกันได้หลังจากประชุมมาราธอน คือ การเพิ่มเงินกองทุนสู้วิกฤติอีก 200,000 ล้านยูโร ซึ่งต้องถือว่าเป็นการ อัดฉีด ครั้งใหญ่
เพราะถ้าคราวนี้ เอาไม่อยู่ ก็จะพังกันเป็นแถบเหมือนกัน
    ข่าวบอกว่า การประชุมที่มีผู้นำเยอรมัน และฝรั่งเป็นเป็น หัวหอก สำคัญ ที่กรุงบรัสเซลส์นั้น ต้องสุมหัวถกกันข้ามวันข้ามคืนกันทีเดียว เพราะความเห็นว่าใครจะต้องลงมือทำอะไร ใครจะหาเงินเท่าไร และใครต้องอุ้มใครนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะตกลงกันได้ง่าย ๆ
     ต้องไม่ลืมว่า ประเทศที่อยู่ใน ยูโรโซน มี 17 ประเทศ แต่ที่เป็นยุโรปและอยู่นอกยูโรโซนนั้นมีอีก 10 ประเทศ ที่ชะตากรรมเหมือนจะผูกกันแนบแน่น หากเศรษฐกิจใครเจ๊งขึ้นมาเพราะหนี้สินหนักหน่วง, ก็กลัวกันว่าจะเกิดอาการระบาดลามปามไปหมด
     แต่ครั้นจะตกลงกันว่าต้องช่วยกัน ลงขัน เพื่อจะอุ้มประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤติ, ก็ ต้องตอบคำถามผู้เสียภาษีของประเทศที่ต้องออกสตางค์ว่าจะเอาเงินของเขาไปช่วย อีกประเทศหนึ่งที่รัฐบาลบริหารเละเทะจนบ้านเมืองเสียหายมากมายได้อย่างไร
    เยอรมันถูกมองว่าจะต้องเป็นผู้เข้ามาอุ้ม, แต่นายกฯ แองเกลา แมร์เคิล ก็หวั่นว่าหากเธอตัดสินใจเช่นนั้น, เธอจะถูกประชาชนเยอรมันขับออกจากตำแหน่งเพราะเอาเงินภาษีของชาวบ้านไปช่วยคนอื่น และไม่มีอะไรรับรองได้ว่าช่วยแล้วจะรอด หรือรอดแล้ว, ประเทศนั้นๆ จะปรับเนื้อปรับตัวให้มีวินัยในนโยบายการเงินการบริหารหรือไม่
     สามเสือ ของสหภาพยุโรป…เยอรมัน ฝรั่งเศส และ อังกฤษ (นายกฯ แมร์เคิล, ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี, นายกฯ เดวิด คาเมรอน) ปิดประตูคุยกันก่อนการประชุมเต็มรูปแบบกับสมาชิกอื่นๆ แล้ว…ก็ไม่ได้ทำให้บรรลุข้อตกลงอะไรใหม่ เพราะต่างคนต่างก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ไม่มีใครยอมเสียสละเพื่อใคร แม้จะกลัวว่าผลเสียหายจากประเทศที่เจ็บป่วยหนัก อย่าง กรีซ อิตาลี และอื่นๆ จะลามปามมาสร้างความเสียหายให้กับตนได้มากเพียงใดก็ตาม
    ถ้าถามบรรดา กูรู ของวงการวาณิชธนกิจระดับโลก อย่าง JP Morgan, Nomura International, Morgan Stanley, UBS รวมไปถึงสำนักจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก อย่าง Moody’s Investor Service, และ Standard & Poor ก็จะได้ยินเสียงเตือนเกือบจะเหมือนกันหมดว่า
     ความเสี่ยงของ ยูโรโซน ที่จะแตกสลาย กลายเป็นเรื่อง ตัวใครตัวมัน นั้น มีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นทุกที
    ร่าง ข้อเสนอที่ส่งไปให้ตัวแทนแต่ละประเทศได้พิจารณาก่อนการประชุมสุดยอดครั้งนี้ มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่ให้ทุกประเทศกำหนดเพดานที่จะสร้างหนี้ได้ที่ 0.5% ของจีดีพีของตนเอง…ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการ รัดเข็มขัด ที่ฉับพลันและรุนแรง เนื่องเพราะเพดานปัจจุบันอยู่ที่ 3%
    เยอรมัน กับฝรั่งเศสผลักดันให้มีกฎกติกาว่าด้วยวินัยทางการเงินการคลังที่เคร่งครัด กว่าเดิมและขอให้เขียนกำหนดเป็นลายกลักษณ์อักษรไว้ในกฎบัตรของสหภาพยุโรปเลย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการ เบี้ยว เกิดขึ้น
    และยังขอให้คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) มีอำนาจในการใช้มาตรการลงโทษประเทศที่ทำผิดกติกาด้วยการกู้เงินเกินเพดานที่กำหนดไว้
    ที่ผ่านมา แม้จะมีข้อตกลงหลวมๆ เรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีมาตรการลงโทษประเทศไหนที่ฝ่าฝืนแต่อย่างไร
    อีก ข้อเสนอหนึ่งที่ส่งเข้าพิจารณาคือเงื่อนไขใหม่ที่บอกว่าการที่จะหาเงินมา ช่วยประเทศใดที่มีวิกฤติหนี้นั้นจะต้องไม่บังคับให้นักลงทุนเอกชนเข้า มารับผิดชอบร่วมแบกภาระด้วย…อย่างที่เกิดขึ้นในกรณีเข้าไปช่วยกรีซที่ผ่านมา
    เพราะว่าการบังคับให้เอกชนเข้ามาร่วมรับกรรมด้วยนั้น เป็นมาตรการที่ไม่ยุติธรรม และก่อให้เกิดความแตกตื่นไปทั่วโลกได้
    ประโยคชัดๆ ของนายกฯ หญิงเหล็กเยอรมันที่ดูจะตอกย้ำความรุนแรงของปัญหา คือ ที่เธอประกาศอย่างไม่เกรงใจใครว่า
 ยูโรได้สูญเสียความน่าเชื่อถือแล้ว เราจำเป็นต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่นทันที
 และที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส สำทับว่า
 ไม่เคยมีครั้งใดที่ยุโรปมีความจำเป็นขนาดนี้ และไม่เคยมีครั้งใดที่ยุโรปตกอยู่ในสภาพอันตรายขนาดนี้…
     หากว่า ยูโร ล่มสลาย สหรัฐก็จะพลอยเสียหายหนัก แม้จีนที่ดูจะมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดวันนี้ก็ยังยอมรับว่าน่าหวาดหวั่น
      แม้ ว่าผลการประชุมสุดยอดครั้งนี้จะดูเหมือนมีผลเป็นรูปธรรมมากกว่าเดิม แต่ก็ยังต้องพิสูจน์กันด้วยการลงมือทำจริงหรือไม่ แค่ไหน เรียกว่าประมาทกันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
    ประเทศเล็กๆ เปราะบางอย่างเราเตรียม Big Bag เศรษฐกิจหรือยัง? และแม้ว่าจะมี พนัง กั้นวิกฤติเศรษฐกิจ, ก็ต้องถามตัวเองอย่างจริงจังว่า เอาอยู่ไหม?”

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รีโมท ซื้อ รีโมท จากผู้ค้าส่งโดยตรง ที่มีหน้าร้านจริง ที่ บ้านหม้อ และ คลองถม ราคาถูกกว่าใคร ปลอดภัย มีรับประกัน

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง